logo-heading

หลังจบเกมบิ๊กแมตช์ไทยลีก เมื่อวานนี้ (3 มี.ค.67) ระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ ทรู แบงค็อก ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเกมที่มีความมันส์ระดับ 5 ดาว ใครไม่ได้ดูถือว่าพลาด ผลปรากฎว่าเป็นทีม "ปราสาทสายฟ้า" ที่ยังคงฟอร์มแรงต่อเนื่องเก็บชัยชนะเป็นนัดที่ 5 ติดต่อกันในเลกสอง รวมกับเลกแรกก็ชนะมารวด 8 เกมติดเข้าไปแล้วในลีก หลังพลิกนรกกลับมาชนะบียู 3-2 ทั้งๆ ที่โดนนำไปก่อน 2-0

จริงๆ แล้วเกมนี้ถือเป็นเกมที่มีความสำคัญต่อการลุ้นแชมป์ไทยลีก ฤดูกาลนี้ เป็นอย่างมาก ก่อนเกมบุรีรัมย์ นำ แบงค็อก อยู่ 3 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด หากบุรีรัมย์ ชนะ ก็จะหนีห่างไปเป็น 6 แต้ม แต่หาก บียู บุกไปชนะได้ จะทำให้แต้มเท่ากัน และทีมแข้งเทพยังมีเกมตกค้างในมือหนึ่งเกม มีโอกาสที่จะแซงกลับขึ้นไปนำจ่าฝูง

บุรีรัมย์ ต่างชาติไม่เชียงกง จุดตัดสินแชมป์ไทยลีก ซีซั่นนี้!!

แต่เมื่อผลการแข่งขันจบลงด้วยชัยชนะของทีมเซราะกราว ทำให้ตอนนี้แต้มในตารางคะแนน บุรีรัมย์ นำห่าง บียู เป็น 6 แต้ม แม้จะแข่งมากกว่า 1 นัดก็ตาม แต่อย่างที่เคยบอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า เมื่อใดที่บุรีรัมย์ ได้นำจ่าฝูง อย่าให้พวกเขาทำแต้มทิ้งห่าง เพราะมีโอกาสที่จะนำแบบม้วนเดียวจบ และอีกอย่างที่ ทีมา่ยฟ้าได้เปรียบบียู ตอนนี้ก็คือ สามารถเอาชนะได้ทั้งไปและกลับสองนัด เฮดทูเฮดเหนือกว่าด้วย ดังนั้นถ้าบียู จะกลับมาแซง ก็คือต้องชนะด้วยคะแนนเท่านั้น ซึ่งก็ยากมากที่บุรีรัมย์ จะสะดุด

พูดถึงฟอร์มอันร้อนแรงของทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในเลกที่สองนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนนึงมาจากการเสริมทัพ โดยเฉพาะตัวต่างชาติ ที่มาแล้วสามารถยกระดับเกมรุกของปราสาทสายฟ้าให้น่ากลัว และดุดันกว่าในเลกแรกเป็นอย่างมาก 

และที่เป็นประเด็นถูกพูดถึงกันมากในโซเชี่ยลเวลานี้ก็คือเรื่องโควต้าอาเซียน ที่เมื่อมารวมกับตัวต่างชาติแล้ว กลายเป็นว่าทีมบุรีรัมย์ เหมือนจะมีนักเตะต่างชาติลงมากกว่านักเตะไทย ซึ่งล่าสุดก็มีอดีตนักฟุตบอลทีมชาติออกมาโพสต์ในทำนองเหน็บแนมที่ว่า ตอนนี้นักเตะบุรีรัมย์ มีหน้าที่แค่วิ่งไปร่วมดีใจเท่านั้น

สำหรับข้อความข้างต้น ส่วนตัวคิดว่ามันก็ไม่จริงทั้งหมด เพราะอย่าลืมว่าเมื่อวานนี้คนที่ยิงประตูชัยให้บุรีรัมย์ คือ ศุภชัย ใจเด็ด ดาวเตะสัญชาติไทยแท้ และในทุกๆ เกมที่ผ่านมา นักเตะไทย ก็มีส่วนสำคัญมิใช่น้อย

แต่ถามว่าแกนหลักของบุรีรัมย์ ตอนนี้คือนักเตะไทยเป็นหลักไหม มันก็ไม่ใช่เช่นกัน เพราะถ้าเราไปดู 11 ตัวจริงในเกมล่าสุด จะเห็นว่ามีนักเตะไทยแท้แค่ 4 คนที่เป็นตัวจริง ที่เหลือ 7 คนเป็นนักเตะต่างชาติ แบ่งเป็นตัวนอกเอเชีย 3 คือ บิสโซลี่, เคาซิซ และ คริสปิม, ตัวเอเชีย 1 คือ คิม มิน ฮยอก อีก 3 คืออาเซียน 2 อย่าง ดิออน คูลส์ กับ เจฟเฟอร์สัน ทาบินาส ส่วนอีกคนเป็นนักเตะลูกครึ่งไทยที่เคยรับใช้ทีมชาติออสเตรเลียอย่าง เคนเน็ต วิลเลียม ดูกัลล์

บุรีรัมย์ ต่างชาติไม่เชียงกง จุดตัดสินแชมป์ไทยลีก ซีซั่นนี้!!

ซึ่งนี่เองที่ดูจะเป็นข้อแตกต่างจากในเลกแรก รวมทั้งข้อแตกต่างจากทีมอื่นๆ ที่บุรีรัมย์ มีตัวต่างชาติบวกอาเซียน ที่ค่อนข้างจะพรีเมี่ยม ดูมีมาตรฐานสูงกว่าคู่แข่งทีมอื่นๆ โดยเฉพาะทีมลุ้นแชมป์ด้วยกัน และนี่เองเป็นสิ่งที่บุรีรัมย์ มองเห็นและพยายามปรับปรุงทีมให้ดีขึ้นในเลกสอง

แต่การจะบอกว่าสิ่งที่บุรีรัมย์ จัดทีมแบบนี้เป็นการเอาเปรียบทีมอื่น หรือเป็นการลดโอกาสนักเตะไทยในการลงสนาม มันก็ไม่จริงทั้งหมด เรื่องโอกาสลงสนามของนักเตะไทย ข้อนี้จริงแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่การเอาเปรียบทีมอื่น มันก็จะบอกแบบนั้นไม่ได้ทั้งหมด

โอเคละว่าสำหรับทีมเล็กๆ ก็คงจะไม่มีเงินที่จะไปซื้อ หรือไปจ้างตัวต่างชาติที่มาตรฐานสูงเท่าบุรีรัมย์ อยู่แล้ว รวมทั้งการไปคว้าตัวอาเซียนแบบพรีเมี่ยมมาหลายตัวแบบนี้ แต่ถ้าพูดถึงทีมที่อยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์ด้วยกัน บุรีรัมย์ อาจจะไม่ใช่ทีมที่รวยที่สุดด้วยซ้ำไป

และบรรดาบิ๊กทีมอื่นๆ ก็มีศักยภาพที่จะเสริมตัวในระดับแบบบุรีรัมย์ ได้ เพียงแต่ว่าจะได้ตัวที่เก่งเหมือนบุรีรัมย์ หรือเปล่านั่นอีกเรื่องนึง เพราะถ้าไปดูทีมอื่นๆ ก็มีตัวอาเซียนเต็มโควต้าเช่นกัน และก็ใช้ไม่น้อยกว่าบุรีรัมย์ ก็มี แต่ผลงานไม่เทียบเท่าเท่านั้นเอง

อย่างตัวต่างชาติ ที่ลุงเนวิน แกบอกไว้ก่อนเปิดเลกสอง ว่าทีมอื่นๆ นั้นซื้อมาแต่ต่างชาติเชียงกง มองมุมนึงเหมือนเป็นการดูถูกคู่แข่ง จะมองเป็นสีสันนอกสนามก็มองได้ แต่ถ้าลงลึกในรายละเอียด คำพูดของลุงเน มันก็บ่งชี้ถึงการเสริมทัพของทีมคู่แข่งด้วยเหมือนกัน

แต่กระนั้นสิ่งที่อยากจะบอกก็คือ การที่บุรีรัมย์ ใช้ตัวต่างชาติเยอะในสนามมันก็ส่งผลต่อการพัฒนาของนักเตะไทย ที่เหมือนถูกตัดโอกาส แต่ที่บุรีรัมย์ ทำมันก็ไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าจะหาต้นเหตุว่าอะไรผิด คงต้องกลับไปดูที่เรื่องกฏโควต้าอาเซียน ที่จริงๆ แล้ว มันควรมีหรือไม่กับไทยลีกของเรา

ส่วนตัวผมไม่ได้มีปัญหากับโควต้าอาเซียน การมีนักเตะอาเซียนในไทยลีกก็เป็นเรื่องที่ดี อย่างน้อยๆ นักเตะเพื่อนบ้านก็จะได้มีโอกาสมาค้าแข้งในบ้านเรา แต่เรื่องจำนวนที่ให้ทุกทีมใช้อาเซียนได้ถึง 3 คน มันก็ดูจะเยอะไปหน่อย และเหมือนเป็นช่องว่างอะไรบางอย่างที่ทำให้ทีมใหญ่สามารถไปหาอาเซียน ที่เป็นลูกครึ่งยุโรป หรืออาเซียนลูกครึ่ง ที่ไม่ใช่อาเซียนแท้ๆ มา ทำให้ได้เปรียบมากกว่าทีมอื่น

แต่ก่อนผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับโควต้าอาเซียน (ที่เป็นอาเซียนแท้ๆ พวกตัวทีมชาติ ที่เราเห็นกันในอาเซียน คัพ) ผมมองว่านักเตะในอาเซียนถ้าไม่เก่งจริงก็คงไม่มีทีมไหนเลือกใช้ลงสนามเป็นตัวจริง ขนาดแต่ก่อนยุคแรกๆ ที่มี อ่อง ธู, เลือง ซวน เชือง ตัวทีมชาติเวียดนาม อะไรพวกนี้ พอมาแล้วก็ไม่สามารถยึดตัวจริงได้ เพราะไม่ได้เก่งกว่านักเตะไทยที่เรามี

แต่บางตัวที่เก่งกว่านักเตะไทยก็มีอย่าง สองพี่น้อง ฟานดี้ หรือ ดัง วาน ลัม แต่พวกนี้ก็ไม่ได้ถึงขั้นที่จะสามารถยกระดับของทีมได้ขนาดนั้น มันจึงดูไม่ได้น่ากลัวอะไร

แต่หลังจากที่บุรีรัมย์ ไปดึง ดิออน คูลส์ มา และอย่างล่าสุดมี วิลเลียม ดูกัลล์ มี ทาบินาส มา บวกกับฟอร์มของทีมบุรีรัมย์ ชั่วโมงนี้ เลยกลายเป็นที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก

แต่ก็นั่นแหละ ทุกอย่างมันเป็นเรื่องของการแข่งขัน ทุกทีมอยู่ในกฏระเบียบเดียวกัน ถ้าคุณจะยกระดับทีมตัวเอง ขึ้นมาต่อกรกับแชมป์ไทยลีก 2 สมัยติดอย่างบุรีรัมย์ ที่เป็นแชมป์มาแล้ว 8 สมัย คุณก็ต้องยกระดับทีมตัวเองขึ้นมา

ส่วนเรื่องการตัดโอกาสนักเตะไทย ตรงนี้ก็ต้องไปแก้ที่เรื่องโควต้าอาเซียน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อนาคตจะมีการนำเรื่องนี้มาพิจารณาและแก้ไขกันอีกครั้ง เพราะถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ อาจจะทำให้ไทยลีกเริ่มห่างกันไปเรื่อยๆ ระหว่างทีมใหญ่กับทีมเล็ก

และที่สำคัญที่สุดก็จะส่งผลต่อทีมชาติไทยโดยตรง ที่อาจจะมีตัวเลือกน้อยลงไปอีก ถ้าทุกอย่างยังเป็นแบบนี้

สุดท้ายไม่รู้จะบอกยังไง ก็คงต้องฝากไปที่นายกสมาคมฯ และสภากรรมการชุดใหม่ที่ควรจะเอาเรื่องนี้กลับมาทบทวนอีกครั้ง แต่ดูแล้วก็คงไม่สามารถที่จะปรับได้เลยภายในฤดูกาลหน้า เพราะมันมีเรื่องสัญญาของนักเตะด้วย

แต่ถ้าคิดว่าจะปรับ หรือลดโควต้าลง ก็ควรจะเริ่มคิดได้แล้วว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นก็จะเสียเวลาไปอีก 

ลองคิดดูว่า ถ้าสมมติทุกทีมมีตัวต่างชาติบวกอาเซียนเต็มพิกัด และส่งลงสนามแบบนี้ทุกทีม ในสนามมีนักเตะทั้งสองทีมรวมกัน 22 คน จะมีนักเตะไทยแท้ๆ แค่ 8 คนเท่านั้นในแต่ละเกม ซึ่งมันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ กับไทยลีก และทีมชาติไทย ของเรา

 

#ชิชาริเต่า

 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline