logo-heading

จอร์จินโญ่กลายเป็นตัวจริงให้อาร์เซน่อลมา 4 นัดติดต่อกัน คุณคิดว่าเพราะอะไร? ไค ฮาแวร์ตซ์ ยืนกองหน้าตัวหลักมา 4 นัดติดต่อกัน คุณคิดว่าเพราะอะไร? 

ถ้ามองเบื้องต้นก็คือทั้งคู่เล่นดี ฟอร์มร่างทองสุดขีด การจะได้เป็นตัวจริงก็ไม่แปลก แต่คุณเชื่อไหมว่า จุดเริ่มต้นที่ 2 คนนี้ได้ออกสตาร์ทแบบนี้ และเล่นดีมากช่วงนี้ มันมาจากการที่ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ บาดเจ็บ

อธิบายเชิงแท็กติก ฤดูกาลก่อน + ครึ่งทางแรกของซีซั่นนี้ อาร์เซน่อลเล่นแผน 4-3-3 แต่ช่วงขึ้นเกมซินเชนโก้จะหุบจากแบ็กซ้าย มาเป็นมิดฟิลด์คู่กับไรซ์ เพื่อช่วยกันเซตบอลกลางสนาม บทบาทนี้เรียกว่า Inverted Fullback ซึ่งใช้กันเพียบในลีก เช่น ลิเวอร์พูลตอนเทรนต์ไม่เจ็บก็เล่นแบบนี้ 

พอแบ็กซ้ายหุบไปยืนกลาง เบน ไวท์ ที่เป็นแบ็กขวาจะขยับมาเป็นเซนเตอร์ตัวขวาแทน ทำให้กองหลัง 3 คนคือ กาเบรียล (เซนเตอร์ซ้าย) ซาลิบา (เซนเตอร์กลาง) และไวท์ (เซนเตอร์ขวา) ขณะที่โอเดการ์ดกับฮาแวร์ตซ์ (ปีก่อนเป็น กรานิต ชาก้า) จะขยับขึ้นหน้าไปเล่นกลางรุกเพื่อซัพพอร์ตปีก 2 ข้าง

อาร์เซน่อลเล่นแบบนี้จนลุ้นแชมป์ปีก่อน ซินเชนโก้บอกว่าหน้าที่ของเขาไม่มีอะไรมาก เวลาหุบเข้ามาตรงกลางเนี่ย บางทีมันจะดึงตัวประกบคู่ต่อสู้เข้ามาได้ ซึ่งทำให้มาร์ติเนลลี่มีตัวประกบน้อยลง หน้าที่หลักคือดวล 1-1 กับฟูลแบ็กไปเลย ไม่ต้องโดนรุม 2-1 ตลอดไป

หรือถ้าคู่ต่อสู้ไม่หุบตามซินเชนโก้ แล้วไปรุมมาร์ติเนลลี่แทน ก็จะทำให้แดนกลางเป็นรองอาร์เซน่อล เพราะช่วงขึ้นเกมจะมีคนเซตบอลถึง 5 คน (กองหลัง 3 กองกลาง 2 ผมขอเรียกฐาน 5) มันจะทำให้ฝั่งตรงข้ามแพ้กลางสนามไปเลย 

อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนที่ทำให้อาร์เซน่อลต้องพักการเล่นแบบนี้ คืออาการบาดเจ็บของซินเชนโก้ที่รบกวนค่อนข้างบ่อย เคยเจ็บหนักจนพลาดช่วงปรีซีซั่น ช่วงปลายปีก่อนก็เจ็บน่อง แล้วก็มาเจ็บน่องอีกรอบช่วงต้นกุมภาพันธ์ นั่นหมายความว่า กลยุทธ์แบบ Inverted Fullback ก็จะใช้งานลำบาก เพราะซินเชนโก้เล่นเนียนสุดแล้ว

ทางแก้ของอาร์เตต้า คือปรับวิธีการเล่นใหม่เลย ตอนนี้พวกเขาเล่นแบบ Inverted Fullback น้อยมาก โดยพวกเขายังจัดระบบ 4-3-3 เหมือนเดิม แต่แบ็กซ้ายเป็นคิวิออร์ ซึ่งจุดเด่นคือเกมรับมากกว่ารุก ขณะที่ซินเชนโก้หนักไปทางรุกมากกว่ารับ 

เวลาขึ้นเกม ถ้าเน้นแบบครองบอลเหนียว อาร์เตต้าจะสั่งให้คิวิออร์หุบมายืนเป็นเซนเตอร์ตัวซ้าย และแบ็กขวา เบน ไวท์ จะลอยสูงเหมือนเป็นวิงแบ็กเลย เอาไปซัพพอร์ตซาก้ากับโอเดการ์ดแบบหนักหน่วง จนมีสถิติออกมาว่า เบน ไวท์ ตอนนี้ได้จับบอลในกรอบเขตโทษคู่ต่อสู้เฉลี่ย 1.81 ครั้งต่อเกม ขณะที่แผนเก่าสถิติคือ 1.47 ครั้งต่อเกม

หรือจะเป็นการสร้างโอกาส พอรุกมากขึ้น ก็จะมีส่วนสร้างสรรค์เพิ่มเติม โดยเขาจ่ายคีย์พาสเพิ่มจาก 0.76 ครั้ง กลายเป็น 0.97 ครั้งต่อเกม เช่นเดียวกับโซนการยืนในสนาม ปีก่อนเบนไวท์คุมพื้นที่เกมรับฝั่งขวา 29% และพื้นที่เกมรุก 30% ตอนนี้เขาลดเกมรับเหลือ 21% และไปเน้นเกมรุก 32%

มันคือการพลิกบทบาท เบน ไวท์ จากแบ็กขวากึ่งเซนเตอร์ กลายเป็นแบ็กขวากึ่งวิงแบ็กไปเลย บุกกว่าเดิมแบบชัดเจนมาก

ส่วนพื้นที่ตรงกลาง พอไม่มีซินเชนโก้หุบมายืนคู่กับไรซ์ ทางแก้ของอาร์เตต้าก็คือใส่ จอร์จินโญ่ ลงไปโฮลด์บอลร่วมกับไรซ์เสียเลย แล้วปล่อยให้โอเดการ์ดเป็นเพลย์เมกเกอร์หลัก ทำให้ตอนขึ้นเกมรุก 3 เซนเตอร์คือ คิวิออร์-กาเบรียล-ซาลิบา ส่วนมิดฟิลด์จะเป็น จอร์จินโญ่ กับ ไรซ์ ยังเป็นฐาน 5 เหมือนเดิม 

พอฐานขึ้นเกมมันแน่น บางจังหวะเราก็จะเห็นไรซ์ขยับขึ้นไปเป็นเบอร์ 8 บ้าง ไม่ต้องปักหลังข้างหลังตลอด เพราะมีจอร์จินโญ่แล้ว เราเลยได้เห็นไรซ์สอดไปพยายามทำประตูหลายครั้งช่วงนี้ เรียกว่าสลับๆ กันไประหว่างฐาน 5 และ 4 นั่นเอง

เมื่อตรงกลางมีจอร์จินโญ่ลงมาเล่นแทนแล้ว ฮาแวร์ตซ์ก็ไม่จำเป็นต้องยืนตัวต่ำอีกต่อไป 

ในช่วงที่เชซุสก็เจ็บบ่อย + ฟอร์มดีบ้างไม่ดีบ้าง อาร์เตต้าเลยขยับฮาแวร์ตซ์ไปยืนกองหน้าแทน คือไม่ได้เล่นแบบยืนหน้าเป้าจ๋า ผมคิดว่าเล่นแบบกึ่งฟอลส์ 9 เข้าชาร์จบางจังหวะก็มี หรือจะลงมาล้วงต่ำเพื่อเปิดทางให้ปีก 2 ข้างก็มี 

ฟอร์มของฮาแวร์ตซ์พอไปยืนกองหน้าก็เข้าขั้นโหดทีเดียว ยิงในลีกมา 4 นัดติดต่อกัน แต่ผมไม่แปลกใจเลยที่ฟอร์มดี เพราะตอนอยู่เชลซีไม่รู้เป็นอะไร? ชอบเล่นห่วยครึ่งซีซั่นแรก แล้วมาร่างทองครึ่งซีซั่นหลัง ส่วนตำแหน่งที่เล่นดีสุดตอนอยู่เชลซี ก็คือตำแหน่งที่เล่นกับอาร์เซน่อลตอนนี้เนี่ยแหละ

อีกรูปแบบที่อาร์เซน่อลใช้ คือถ้าจะบุกสุดตัว คิวิออร์จะไม่ยืนเป็นเซนเตอร์ตัวซ้ายแล้ว แต่จะขยับไปยืนสูงเป็นวิงแบ็กเลย เรียกว่าตำแหน่งของ คิวิออร์ กับ ไวท์ จะยืนสูงพอกัน แล้วพอข้างหลังเหลือเซนเตอร์แค่ 2 คน ลักษณะแบบนี้ไรซ์จะไม่วิ่งเข้ากรอบบ่อยอีกต่อไป แต่จะพยายามช่วยจอร์จินโญ่เซตเกมด้านหลังเลย

วิธีนี้จะทำให้ฐานอาร์เซน่อลเป็น 4 คนตลอดเวลา เพิ่มเกมบุกมากขึ้น จนบางทีผมก็คิดเหมือนกันว่า อีก 1 เหตุผลที่ช่วงนี้เกมรุกอาร์เซน่อลในลีกโหดมาก มันเป็นเพราะบางจังหวะลดฐานขึ้นเกมจาก 5 เหลือ 4 แล้วไปอัดเกมรุกมากขึ้นนั่นเอง 

ส่วนนี้ให้เครดิตอาร์เตต้าเต็มๆ แล้วก็ไม่ได้คิดว่าซินเชนโก้จะดับหลังจากนี้ด้วย เพราะฟุตบอลมันต้องมีความยืดหยุ่น บางเกมที่อาร์เซน่อลต้องการครองบอลแบบจ๋าๆ ก็สลับมาเล่นแผน Inverted Fullback ได้เหมือนกัน ดูสถานการณ์กันอีกที

คิดว่าอาร์เตต้าค่อนข้างได้รับอิทธิพลจากเป๊ปมาเยอะ พวกการคิดแผนใหม่ๆ สลับตำแหน่งใหม่ๆ มาทรงเดียวกันเลย หลังจากนี้ต้องดูกันต่อว่า พวกเขาจะปลดล็อคตัวเองได้หรือยัง? จะเป็นแชมป์เพื่อสร้างความมั่นใจได้หรือยัง?

พรีเมียร์ลีกเป็นจ่าฝูง ส่วนบอลยุโรปสื่อยกให้เป็นเต็ง 3-4 มีลุ้น 2 ถ้วยขนาดนี้ แล้วเป็น 2 ถ้วยใหญ่สุดด้วย 

ผมไม่เห็นสถานการณ์นี้จากอาร์เซน่อลมาหลายปี แต่ตอนนี้อาร์เตต้าทำให้กลับมาเห็นอีกครั้ง 

- Petr Boat -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline