logo-heading

พรีเมียร์ลีกเอาจริงเรื่องตัดแต้มหนักมาก ล่าสุดฟอเรสต์โดนไป 4 แต้ม มีความเสี่ยงที่จะตกชั้นสูง ซึ่งถือเป็นเคสที่น่าสนใจ และมีเกณฑ์คำนวณตัวเลขที่ต่างจากทีมอื่นด้วย

กฎการเงิน PSR ระบุว่าสโมสรห้ามขาดทุน 3 ปีหลังสุดเกิน 105 ล้านปอนด์ หรือคิดง่ายๆ ปีละ 35 ล้านปอนด์ แต่เรทนี้จะนับเฉพาะทีมที่อยู่พรีเมียร์ลีกเท่านั้น หากเป็นทีมในเดอะ แชมเปี้ยนชิพ จะให้ขาดทุนไม่เกินปีละ 13 ล้านปอนด์ 

สาเหตุที่พรีเมียร์ลีกให้โควตาแชมเปี้ยนชิพน้อยกว่า เพราะทีมลีกล่างมีสถานะการเงินไม่มั่นคง ถ้าปล่อยให้ขาดทุนเยอะเกินไป ย่อมมีความเสี่ยงที่จะล้มละลายมากกว่า ซึ่งความซวยของฟอเรสต์ดันมีอยู่ 2 ข้อ

อย่างแรก คือรอบบัญชี 3 ปีหลังสุดที่โดนตัดแต้มเนี่ย มันคือบัญชีที่เล่นพรีเมียร์ลีกแค่ 1 ฤดูกาล ส่วนอีก 2 ฤดูกาลเป็นแชมเปี้ยนชิพ ทำให้โควตาขาดทุนจะไม่ใช่ 105 ล้านปอนด์ แต่จะเป็น 35+13+13 = 61 ล้านปอนด์แทน

โควตาขาดทุนจริงๆ ฟอเรสต์คือน้อยมาก แต่ตอนที่พวกเขาเลื่อนชั้นมาพรีเมียร์ลีกปี 2022-23 ดันเสริมทัพจัดเต็มไปหน่อย ไม่ว่าจะเป็น มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์, ไทโว่ อโวนิยี่, เนโก วิลเลี่ยมส์ และอีกหลายคน เบ็ดเสร็จแล้วสื่อบอกว่า เสริมทัพไป 166 ล้านปอนด์ แต่ขาออกถือว่าน้อยนิด ทำให้มันไม่สมดุลอย่างแรง

ความซวยต่อมา คือถ้าพวกเขาขาย เบรนแนน จอห์นสัน ได้ก่อนวันที่ 30 มิถุนายน 2023 พวกเขาสามารถเอารายได้ 47.5 ล้านปอนด์ ไปถมกับรอบที่ซื้อถล่ม 166 ล้านปอนด์ได้ เพราะบัญชีรอบใหม่จะเริ่ม 1 กรกฎาคม 2023 มันเป็นแท็กติกเดียวกับเชลซี ที่พยายามขาย ไค ฮาแวร์ตซ์ กับ โควาซิช ก่อนจะเริ่มนับบัญชีรอบใหม่

อย่างไรก็ตาม ฟอเรสต์ดันขายไม่ทันเวลา เพราะกว่าจะย้ายไปสเปอร์สก็คือช่วงท้ายตลาดแล้ว ทำให้เอายอดค่าตัวของจอห์นสันไปลงบัญชีฤดูกาล 2022-23 ไม่ทัน และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โดนพรีเมียร์ลีกลงโทษ ซึ่งตอนแรกจะตัด 6 แต้มด้วย แต่พวกเขาให้ความร่วมมือทางเอกสารเต็มที่ เลยลดเหลือ 4 แต้ม และเปิดโอกาสให้อุทธรณ์ได้

กรณีของฟอเรสต์ ถือว่าโดนตัดแต้มเร็วกว่าที่คิดเยอะมาก เพราะพวกเขาโดนตั้งข้อหาแค่ 2 เดือนกว่าๆ ก็ประกาศบทลงโทษแล้ว ซึ่งต่างจากเอฟเวอร์ตันที่ใช้เวลาถึง 8 เดือนกว่าจะประกาศลงโทษ ทำให้สื่อต่างประเทศมองว่า ฟอเรสต์น่าเห็นใจเหมือนกัน ที่บทลงโทษมีผลบังคับใช้ทันที หล่นไปรั้งโซนแดงเรียบร้อย ไม่มีเวลาเตรียมตัวอะไรเลย

มันต่างกับเอฟเวอร์ตัน ตรงที่โดนตั้งข้อฤดูกาลก่อน กว่าจะโดนตัดแต้มก็คือฤดูกาลนี้ ทำให้พอมีเวลาเตรียมตัวอยู่บ้าง แต่เอาจริงๆ ก็ใช่ว่าเอฟเวอร์ตันจะได้ผลประโยชน์ 100% เพราะสื่อมองว่า เอฟเวอร์ตันขาดทุนแค่ 19.5 ล้านปอนด์ ทำไมโดนตัดถึง 10 แต้ม ก่อนจะลดเหลือ 6 แต้มในภายหลัง ทว่าฟอเรสต์ขาดทุนถึง 34.5 ล้านปอนด์ แต่โดนตัด 4 แต้มเท่านั้น 

เอฟเวอร์ตันมีสิทธิ์โวยเรื่องนี้ได้ เพราะคณะกรรมการที่ตัดสินเรื่องนี้ดูแปลกจริง แต่เชื่อว่าพวกเขาจะไม่ออกแอคชั่นรุนแรงมาก เพราะการต่อสู้คดีกับพรีเมียร์ลีกยังไม่จบ 

โทษปรับแต้มของเอฟเวอร์ตันเนี่ย คือนับยอดบัญชีล่าสุดฤดูกาล 2021-22 แต่ตอนยอดบัญชีฤดูกาล 2022-23 พวกเขาก็โดนตั้งข้อหาซ้ำรอบ 2 ด้วย เพราะผิดกฎ PSR ติดต่อกัน 2 ปีซ้อน เรียกว่าโดนตั้งข้อหาพร้อมกับฟอเรสต์นั่นแหละ 

เดวิด ออร์นสตีน เทียร์ 1 รายงานว่า ขนาดโทษฟอเรสต์ยังประกาศฤดูกาลนี้ทันที นั่นหมายความว่า บทลงโทษรอบ 2 ของเอฟเวอร์ตัน ก็มีโอกาสประกาศฤดูกาลนี้ด้วย ทำให้มีความเสี่ยงที่เอฟเวอร์ตันจะโดนตัดแต้มเพิ่มอีกรอบ 

ตอนนี้เอฟเวอร์ตันมี 25 แต้ม รั้งอันดับ 16 ถ้าพวกเขาโดนตัด 4 แต้มเท่าฟอเรสต์ขึ้นมา จะหล่นมารั้งอันดับ 17 ด้วยแต้มเท่าฟอเรสต์ทันที แต่ประตูได้เสียดีกว่า ซึ่งนี้คือทฤษฎีที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ และถ้ามีขึ้นมาจริงๆ พรีเมียร์ลีกจะต้องโดนกดดันหนักเพิ่มเติม ว่าทำไมเคสของซิตี้ 115 กระทง ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย

พรีเมียร์ลีกจงใจฟันทีมเล็กก่อนหรือเปล่า? คนจะถามเรื่องนี้ก็ไม่แปลก แต่ผมเคยอธิบายไปหลายรอบแล้วว่า เคสของซิตี้มันต่างกัน อันนั้นโดนสืบสวนข้อหาแต่งบัญชี เช่น แอบเพิ่มรายได้สปอนเซอร์ หรือไม่ก็ลงบัญชีค่าเหนื่อยนักเตะไม่แพง แล้วแอบไปจ่ายแยกทีหลัง เพื่อให้ตัวเลขออกมาดี

เคสของซิตี้ยังไม่มีหลักฐานทางการว่าผิด 100% เพราะข้อมูลที่ยูฟ่าเคยพยายามจะลงโทษ มันมาจากแฮคเกอร์อีกที ทำให้พรีเมียร์ลีกต้องสอบสวนใหม่หมด สัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้องใหม่หมด ซึ่งใช้เวลานานมาก แต่พวกเขาก็เร่งเต็มที่แล้ว จากตอนแรกจะประกาศผลปี 2025 ล่าสุดน่าจะทราบภายในปี 2024 

ส่วนเคสของเอฟเวอร์ตันกับฟอเรสต์ มันคือความผิดแค่ขาดทุนเกินโควตาเฉยๆ คือแค่เอาบัญชีมากางให้ดู ก็สั่งลงโทษได้ทันที ไม่ต้องใช้กระบวนการนานมาก ทำให้ผลของ 2 ทีมนี้จะไวกว่าซิตี้ก็ไม่แปลก 

หากซิตี้ผิดจริง มีหลักฐานครบจริง พวกเขาจะโดนลงโทษหนักกว่า เอฟเวอร์ตัน และฟอเรสต์ 100% เรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยเลย เพราะการแต่งบัญชีย่อมร้ายแรงกว่าอยู่แล้ว แต่ตราบใดที่บทสรุปยังไม่ออกมา มันก็ยังเรียกว่าพวกเขาผิดได้ไม่เต็มปาก สถานะตอนนี้คือโดนตั้งข้อหาเท่านั้น 

สิ่งที่ทำได้คือรออย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็นแฟนซิตี้เอง หรือแฟนทีมอื่นที่อยากเห็นบทสรุปก็ตาม ซึ่งสำหรับผมแล้ว ความกดดันหนักสุดน่าจะอยู่กับพรีเมียร์ลีก เพราะขนาดเคสของเอฟเวอร์ตันกับฟอเรสต์ ยังมีดราม่าเรื่องไม่เป็นธรรมเลย

แล้วเคสของซิตี้ที่เป็นเรื่องใหญ่ระดับโลก ทุกสื่อจับตามองกันหมด ถ้าผลออกมาผิดและโดนลงโทษหนัก ซิตี้ฟ้องกลับแน่นอน ทีมกฎหมายพวกเขาไม่ธรรมดาเสียด้วย หรือถ้าผลออกมาไม่โดนลงโทษ หรือโดนแบบเบามาก ก็จะเจอกระแสสังคมโจมตีหนัก

ไม่ว่าผลออกมาแบบไหน ยังไงก็มีดราม่าแน่นอน

- Petr Boat - 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline