logo-heading

ถึงแม้ตลาดนักเตะเดือนมกราคม 2018 จะปิดตัวลงไปได้ 1 สัปดาห์แล้ว แต่กระนั้นยังมีหลายประเด็นให้พูดถึงกัน โดยเฉพาะความผิดหวังของนักเตะ ที่ไม่สมหวังตามความต้องการของตัวเอง

ริยาด มาห์เรซ ปีกทีมชาติแอลจีเรีย คือแข้งดังที่ต้องนั่งจมทุกข์ เพราะความปรารถนาอยากย้ายไปค้าแข้งให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องพังทลายลง เพราะ เลสเตอร์ ซิตี้ ต้นสังกัด ปฏิเสธปล่อยตัวในวันเดดไลน์ มาห์เรซ จึงประท้วงสโมสรด้วยการโดดซ้อมมาแล้วถึง 2 ครั้ง 2 ครา จนถูกตัดชื่อออกจากทีม และครั้งที่ 3 กำลังเกิดขึ้น ในเกมเตรียมฟาดแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพื่อเป็นการประท้วงทีม "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" แม้ว่าล่าสุดจะยอมกลับมาซ้อมร่วมกับทีมแล้ว แต่ว่าเคสเหล่านี้ก็ เหมือนกับเคสที่เกิดขึ้นมากมายในอดีต ซึ่งบางคนก็ได้ย้ายสมใจ แต่บางคนก็ไม่ 1. ปิแอร์ ฟาน ฮอยดองค์ Pierre van Hooijdonk 10 แข้งหักดิบสโมสรขอย้ายออกจากทีม หลังจากที่ ปิแอร์ ฟาน ฮอยดองค์ เสร็จสิ้นภารกิจกับทีมชาติฮอลแลนด์ ในศึก ฟุตบอลโลก 1998 เขากลับมายัง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แบบอาการหัวเสีย เพราะสโมสรได้ขายนักเตะฝีเท้าดีออกไป ก่อนจะประท้วงด้วยการขอขึ้นบัญชีย้ายทีม แต่ทว่ากลับถูกปฏิเสธ ทำให้ ฟาน ฮอยดองค์ รู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก จึงสไตรค์ด้วยการไม่ขอเล่นให้กับทีม พร้อมหอบของหอบของหนีกลับไปยังบ้านเกิดฮอลแลนด์ และไปฝึกซ้อมเรียกความฟิตกับ เอ็นเอซี เบรด้า เวลาผ่านไป 3 เดือน ฟาน ฮอยดองค์ ต้องกลับมาอยู่กับ ฟอเรสต์ อีกครั้ง และสามารถทำประตูให้กับทีมได้นัดเจอ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ แต่เมื่อเขาวิ่งไปดี กลับไม่มีเพื่อนร่วมทีมคนไหนวิ่งไปฉลองด้วยเลย เขาใช้ชีวิตกับ "เจ้าป่า" จนกระทั่งจบซีซั่น 1998-99 ก็แยกย้ายจากกันไป 2. ราฮีม สเตอร์ลิ่ง Raheem Sterling 10 แข้งหักดิบสโมสรขอย้ายออกจากทีม กินเวลาอยู่หลายเดือนที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ไม่ยอมเจรจาเรื่องสัญญาฉบับใหม่กับ ลิเวอร์พูล จนกระทั่ง ไอดี้ วอร์ด เอเย่นต์นักเตะรายนี้ประกาศไว้ช่วงซัมเมอร์ปี 2015 ว่า สเตอร์ลิ่ง จะไม่ต่อสัญญากับแน่นอน ต่อให้ "หงส์แดง" เปย์ค่าเหนื่อยมากถึง 9 แสนปอนด์ ต่อสัปดาห์ เพราะขณะนั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังจ้องตัว "เจ้าหนูราฮีม" ตามันเป็น โดยเคยยื่นข้อเสนอเข้ามา 30 ล้านปอนด์ และ 40 ล้านปอนด์ แต่ถูกปฏิเสธกลับไปทั้งหมด ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะใช้ไม้แข็งจับใส่ชื่อ สเตอร์ลิ่ง มาทัวร์ปรีซีซั่นในทวีปเอเชีย รวมถึงประเทศไทย แต่นักเตะอ้างว่า "ป่วย" จึงไม่ขอเดินทางมาด้วย ความดื้อด้านของ สเตอร์ลิ่ง ทำให้บรรดาตำนานนักเตะของ ลิเวอร์พูล ออกมาตำหนิถึงพฤติกรรมนักเตะ แต่สโมสรก็ไม่มีทางเลือกมากนัก กับคนที่ไม่มีใจอยู่กับสโมสรอีกแล้ว จึงยอมปล่อยตัวให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยราคา 49 ล้านปอนด์ 3. เซบาสเตียน สกิลลาชี่ Sebastien Squillaci 10 แข้งหักดิบสโมสรขอย้ายออกจากทีม เซบาสเตียน สกิลลาชี่ แสดงเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการย้ายออกจาก เซบีย่า ไปอยู่กับ อาร์เซน่อล ในปี 2010 โดยนักเตะได้บอกกับ อันโตนิโอ อัลบาเรซ กุนซือของทีมขณะนั้นว่าไม่ขอลงสนามช่วยทีมอีกแล้ว และจะไม่เล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดพบกับ บราก้า ด้วย เพราะกลัวติด คัพ-ไท ถึงแม้ อัลบาเรซ จะไม่ปลื้มกับการกระทำของ สกิลลาชี่ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น จึงยอมตัดใจขีดชื่อนักเตะทิ้ง จนตกรอบแพ้ บราก้า 3-5 ในศึก "ยูซีแอล" รอบเพลย์ออฟ และก็ปล่อยไปอยู่กับ อาร์เซน่อล ตามความปรารถนาของนักเตะ 4. คาร์ลอส เตเวซ Carlos Tevez 10 แข้งหักดิบสโมสรขอย้ายออกจากทีม เรื่องราวการสไตรค์ของ คาร์ลอส เตเวซ เริ่มต้นจากเดือนกันยายน 2011 หลังเจ้าตัวไม่มีชื่อเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริง ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พบกับ บาเยิร์น มิวนิค และปฏิเสธคำสั่งลงสนามในฐานะตัวสำรองของ โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในขณะนั้น เตเวซ ถูกสโมสรลงโทษด้วยการแบนออกจากทีมเป็นเวลา 2 สัปดาห์ พร้อมปรับเงินอีก 5 แสนปอนด์ ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า เตเวซ คงขอย้ายทีมในช่วงตลาดหน้าหนาว แต่ก็ถูกขัดขวางเอาไว้ และอยู่กับ "เรือใบสีฟ้า" ไปอีก 18 เดือน ก่อนแยกทางลงเอยกับ ยูเวนตุส 5. ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ Dimitar Berbatov 10 แข้งหักดิบสโมสรขอย้ายออกจากทีม ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ดาวยิงอาร์ตตัวพ่อ ปฏิเสธที่จะลงสนามให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในเกมลีกที่พบกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เมื่อเดือนตุลาคาม 2007 เพราะไม่พอใจจากการถูกดรอปเป็นเพียงแค่ตัวสำรองก่อนหน้านั้น จนเวลาผ่านไปเกือบ 1 ปี นักเตะก็ประท้วงสโมสร ด้วยการไม่ขอลงสนามอีกครั้ง เพื่อบีบให้ปล่อยไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดท้าย "ไก่เดือยทอง" รั้งไว้ไม่อยู่ ต้องยอมขายให้ "ปีศาจแดง" และเจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม มีส่วนสำคัญพา "เร้ด เดวิลส์" ซิวแชมป์ลีก 2 สมัย 6. จอร์จ เบสต์ George Best 10 แข้งหักดิบสโมสรขอย้ายออกจากทีม จอร์จ เบสต์ ตำนานแข้งผู้ล่วงลับของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของสโมสร เขาใช้ชีวิตการเตะฟุตบอลควบคู่ไปกับการดื่มเหล้าเคล้านารี แต่มันก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ จอร์จ เบสต์ ต้องยุติการเป็นนักเตะ "ปีศาจแดง" เช่นกัน หลังจากจบเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ให้กับ ควีนปาร์ค เรนเจอร์ส 0-3 เมื่อวันที่ 1 มกราคม 1974 จอร์จ เบสต์ ก็หายตัวไปไม่ยอมมาซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม เพราะเขาเลือกที่จะไปปาร์ตี้สังสรรค์ดื่มจัดหนักแบบ 3 วันติด ทำให้ ทอมมี่ ด็อคเฮอร์ตี้ ผู้จัดการทีม ตัดสินใจดรอปออกจากทีม และ เบสต์ ก็ประท้วงด้วยการไม่ขอลงสนามอีกต่อไป สุดท้าย เบสต์ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ต้องแยกทางกันไปในปี 1974 ซึ่งหลังจากนั้น 10 ปี ต่อมาก่อนแขวนสตั๊ด ตำนาน "ปีศาจแดง" รายนี้ ก็เพนจรกับอีก 14 สโมสร ทั้ง ลอสแองเจลิส แอชแทกส์, ซาน โฮเซ่ เอิร์ธเควกส์, ฮิเบอร์เนี่ยน, บอร์นมัธ และ บริสเบน ไลอ้อนส์ เป็นต้น 7. พอล สโคลส์ Paul Scholes 10 แข้งหักดิบสโมสรขอย้ายออกจากทีม มีใครทราบหรือไม่ว่า นักเตะ "วัน แมน คลับ" ซื่อสัตย์ และ มีระเบียบวินัย อย่าง "ไอ้แดงเพลิง" พอล สโคลส์ ตำนานมิดฟิลด์เท้าระเบิด จะเคยประท้วงสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการไม่ขอลงสนามช่วยทีมมาแล้ว ย้อนกลับไปในปี 2001 สโคลส์ ไม่พอใจ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ถอดชื่อเขาออกจากทีมในเกมแพ้ ลิเวอร์พูล 1-3 ทำให้นัดต่อที่ "ปีศาจแดง" จะต้องลงเจอกับ อาร์เซน่อล ในศึก ลีก คัพ สโคลส์ ปฏิเสธไม่ขอลงสนาม โชคดีที่เหตุการณ์ครั้งนั้น สโคลส์ ไม่ถูก "ป๋าเฟอร์กี้" เตะโด่งเฉดหัวออกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนทุกอย่างจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ทุกอย่างถูกลืมเลือนหมดสิ้น เพราะ "ไอ้หนุ่มหัวแดงเพลิง" ยังเป็นคีย์แมนให้กับสโมสรเช่นเดิม และก็พาทีมซิวแชมป์ พรีเมียร์ลีก เพิ่มอีก 6 สมัย รวมถึง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 1 ครั้ง 8. ดิมิทรี ปาเยต Dimitri Payet 10 แข้งหักดิบสโมสรขอย้ายออกจากทีม ดิทรี ปาเยต คือการเซ็นสัญญาแห่งฤดูกาล 2015-16 ของสโมสร เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เพราะเขางัดฟอร์มเก่งซัดในเกม พรีเมียร์ลีก ไปถึง 9 ประตู พร้อมทำอีก 12 แอสซิสต์ ก่อนจะพา "ขุนค้อน" ขึ้นมาจบถึงอันดับ 7 สูงกว่า ทีมยักษ์ใหญ่อย่าง ลิเวอร์พูล เสียอีก ด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมทำให้มี เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่ ลา ลีกา สเปน แสดงความสนใจ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปาเยต เดินทางไปช่วยทีมชาติฝรั่งเศส ในศึก ยูโร 2016 มีส่วนสำคัญให้ทีมทะลุไปถึงรอบชิงชนะเลิศ และกลับมาเป็นสมาชิกของ "ขุนค้อน" เช่นเดิม เวลาดำเนินไปเกือบถึงช่วงครึ่งซีซั่น ปาเยต เริ่มออกอาการขอย้ายทีม ด้วยการงอแงไม่มาซ้อมกับเพื่อน โดยอ้างว่ามีอาการบาดเจ็บบริเวณแผ่นหลัง แถมทำตัวแย่ๆเพื่อบีบให้สโมสรขายเขาทิ้งออกไป ทั้งๆที่ได้ต่อสัญญาเอาไว้ถึงปี 2021 จากนั้นฟางเส้นสุดท้ายก็จบลง เวสต์แฮม ยอมขาย ปาเยต คืนให้กับ มาร์กเซย โดยหลังจากย้ายไปแล้ว ปาเยต ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า "สาเหตุที่ย้ายจาก เวสต์แฮม เพราะเป้าหมายไม่เหมือนเดิม" 9. คลินท์ เดมพ์ซีย์ Clint Dempsey 10 แข้งหักดิบสโมสรขอย้ายออกจากทีม ในช่วงซัมเมอร์ปี 2012 ชื่อของ คลินท์ เดมพ์ซีย์ กลายเป็นทีมหมายปองของบรรดาทีมดังอย่าง ลิเวอร์พูล, ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ แอสตัน วิลล่า หลังได้พิสูจน์ให้เห็นถึงฝีเท้าอันยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการพา ฟูแล่ม ผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ในศึก ยูโรปา ลีก 2010 ได้สำเร็จ ถึงแม้จะได้เป็นเพียงแค่พระรองเท่านั้น เมื่อ เดมพ์ซีย์ รู้ว่ามีทีมยักษ์ใหญ่สนใจ ก็ได้ขอถอนตัวออกจากทีมในช่วงไปทัวร์ปรีซีซั่น แถมปฏิเสธลงสนามช่วยทัพ "เจ้าสัวน้อย" ช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลนัดพบกับ นอริช ซิตี้ ตามคำบอกเล่าของ มาร์ติน โยล อดีตกุนซือ ฟูแล่ม เพื่อต้องการย้ายสโมสรไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล และทุกอย่างก็จบลง เดมพ์ซีย์ ได้ย้ายทีมสมใจ แต่ทว่ากลับไม่ใช่ ลิเวอร์พูล ที่ออกนอกหน้าอยากได้ตัวมาเสริมทัพจริงจัง กลายเป็น "ไก่เดือยทอง" เข้ามาปาดหน้าทุ่มเงินมากกว่าซิวตัวล่าตาข่าย 10. ดีเอโก้ คอสต้า Diego Costa 10 แข้งหักดิบสโมสรขอย้ายออกจากทีม ดีเอโก้ คอสต้า ผลิตสกอร์มากมายให้กับ เชลซี โดยกดไป 20 ประตูในเกมลีกฤดูกาล 2016-17 พร้อมพา "สิงห์บลูส์" เถลิงแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้สำเร็จ แต่พอจบซีซั่นเข้าสู่ช่วงตลาดซัมเมอร์ คอสต้า ก็ต้องอกหักจากมือถือ เมื่อ อันโตนิโอ คอนเต้ ส่งข้อความมาตัดเยื่อใยว่า "นายจะไม่ได้อยู่ในทีมของฉันอีกต่อไปแล้ว" เพราะขณะนั้นนายใหญ่ เชลซี กำลังอยากได้ตัว อัลบาโร่ โมราต้า มาแทนที่ คอสต้า จึงตัดสินใจเลือกหนีไปยังประเทศบราซิล และปฏิเสธที่จะกลับมาฝึกซ้อมกับ เชลซี ในช่วงปรีซีซั่น พร้อมพยายามบีบสโมสรให้ปล่อยตัวเขาออกจากไปเสียที โดยมีจุดหมายปลายทางคือกลับไปอยู่อ้อมอก "ตราหมี" ถึงขั้นที่เคย "live" กำลังสวมเสื้อ แอตเลติโก มาดริด ผ่าน "อินสตาแกรม" มาแล้ว ทั้งๆที่ยังมีสัญญากับ เชลซี สุดท้ายต่อให้ตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์จะปิดตัวลงไปแล้ว ทว่า คอสต้า ก็ได้ย้ายไปอยู่กับ แอตเลติโก มาดริด แบบสมใจ ถึงแม้ต้องรอลงสนามถึงเดือนมกราคม เพื่อให้ "ตราหมี" พ้นโทษแบนซื้อ-ขาย แต่ปัจจุบันเขาก็กลับมาเล่นฟุตบอลได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline