logo-heading

เก่งเกินวัย ! ค็อบบี้ ไมนู อนาคตของ แมนยู และทีมชาติอังกฤษ

คงเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่น่าผิดหวัง สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเรื่องของฟอร์มการเล่นในสนาม แม้ว่าเกมที่ผ่านมาจะเอาชนะทีมคู่แค้นตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล ไปได้ก็ตาม แต่ถ้าเรามาดูผลงานโดยรวมของทีมแล้วต้องบอกเลยว่า เป็นอีกปีที่เข้าขั้นล้มเหลวเลยก็ว่าได้

ทั้งฟอร์มการเล่นในสนามที่เอาแน่นอนอะไรไม่ได้ ไม่มีรูปแบบการเล่นที่ชัดเจน แถมเรื่องนอกสนามก็มีเรื่องให้ชวนปวดหัวเข้ามาแทบทุกสัปดาห์ แต่ก็มีหนึ่งสิ่งที่ทำเหล่าให้สาวก เรด อาร์มี่ย์ พอจะมีความสุขอยู่บ้างนั่นก็คือ การขึ้นมาแจ้งเกิดแบบเต็มตัวของมิดฟิลด์ที่มากไปด้วยพรสวรรค์อย่าง ค็อบบนี้ ไมนู ที่โชว์ฟอร์มได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อจนกลายเป็น "เดอะแบก" ในแผงกองกลางของทีมในตอนนี้ไปแล้ว

ล่าสุด ไมนู ได้ถูก แกเร็ธ เซาท์เกธ เรียกไปติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ และมีรายชื่อเป็น 11 ตัวจริงในเกมล่าสุดที่พบกับ เบลเยี่ยม แม้จะจบลงด้วยผลเสมอ 2-2 แต่ก็ต้องยอมรับว่า ไอหนูวัย 18 ปีรายนี้เล่นได้โดดเด่นเหลือเกิน จนได้รับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตซ์ ในเกมวันนั้นไปครอง

ว่าแล้ววันนี้ ขอบสนามเกาตรงจุด จะไปเจาะลึกถึงประวัติของ ค็อบบี้ ไมนู กันว่าเจ้าหนูรายนี้เติบโตมาอย่างไร จนได้ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังพลสำคัญของทีมในตอนนี้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไร เชิญรับชมได้เลยครับ

เด็กชาย ค็อบบี้ ไมนู เติบโตขึ้นมาในย่าน สต็อคพอร์ต ณ กรุงแมนเชสเตอร์โดยเจ้าตัวเป็น ลูกครึ่ง อังกฤษ-กาน่า และมีพี่น้องทั้งหมด 4 คนด้วยกัน

ไมนู ชื่นชอบการเล่นฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ เมื่ออายุได้ 5 ขวบ เจ้าตัวได้มีโอกาสลงสนามให้กับทีมโรงเรียนอย่าง Cheadle & Gatley ซึ่งเป็นรายการแข่งขันสำหรับฟุตบอลเยาวชน ซึ่งรายการดังกล่าวได้มีแมวมองของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้ามาส่องฟอร์มของดาวเตะรายนี้อีกด้วย
 

ในช่วงแรกของการเล่นฟุตบอล ไมนู ได้ออกสตาร์ทในตำแหน่งศูนย์หน้ากึ่งปีกซ้าย และโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นเกินวัย จนแมวมองของทีม ปีศาจแดง ได้ถูกใจในพรสวรรค์ของเจ้าหนูรายนี้ และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปี ไมนู ก็ได้เข้าสู่อคาเดมี่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยวัยเพียง 9 ขวบเท่านั้น

หลังจากนั้นชีวิตการเป็นนักฟุตบอลของ ไมนู ก็ได้เริ่มต้นขึ้น เขาก้มหน้าก้มตาฝึกซ้อม ทำงานอย่างหนัก และมุ่งมั่นเพื่อที่จะมีชื่อติดทีมชุดใหญ่ในอนาคตให้ได้

และอย่างที่เคยกล่าวมว่า ไมนู ได้เริ่มเส้นทางการค้าแข้งของตัวเองในตำแหน่งริมเส้นฝั่งซ้าย แต่การมาของแข้งอาร์เจนไตน์อย่าง อเลฮานโดร การ์นาโช่ ทำให้ ไมนู ต้องปรับตำแหน่งตัวเองเป็นเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางแทน ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า ความจริงแล้วเขาไม่ได้อยากเปลี่ยนตำแหน่งเท่าไหร่ แต่เขาเองก็ยอมรับว่า การ์นาโช่ มันของจริง

จนในปี 2022 ค็อบบี้ ไมนู พัฒนาตัวเองอย่างก้าวกระโดดในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง จนได้รับสัญญาเป็นนักเตะอาชีพในครั้งแรกในปี 2022 รวมถึงได้มีโอกาสได้ขึ้นมาฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่อีกด้วย

ไมนู ได้ประเดิมสนามเป็นตัวจริงให้กับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในเกมที่พบกับ ชาร์ลตัน ในศึก คาราบาว คัพ และได้ลงสนามไปกว่า 60 นาที โดยหลังเกมดังกล่าว เอริค เทน ฮาก ได้พูดถึงเจ้าหนูรายนี้ว่า ไมนู เป็นอีกหนึ่งเพชรเม็ดงามของสโมสร และประทับใจในฟอร์มการเล่นของ ไมนู เป็นอย่างมาก

จนกระทั่งฤดูกาล 2023/24 ไมนู ได้มีโอกาสร่วมปรีซีซั่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเจ้าตัวถูกคาดหมายว่า จะได้รับโอกาสการลงสนามมากขึ้น แต่ทว่าดันถูกโรคเดี้ยงเล่นงานในเกมที่พบกับ เรอัล มาดริด ทำให้ต้องพักไปเกือบๆ 3 เดือนด้วยกัน
 


จนเวลาในล่วงเลยไปจนถึงนัดที่ 13 ของฤดูกาล ซึ่ง ณ เวลานั้น ทีมของ เอริค เทน ฮาก ประสบปัญหาเรื่องของผู้เล่นในแผงกองกลางอย่างหนัก กาเซมิโร่ และ คริสเตียน ถูกอาการบาดเจ็บเล่นงาน ทำให้กุนซือชาวดัตซ์ ตัดสินใจใช้ไผ่ตายสุดท้ายอย่าง ค็อบบี้ ไมนู ออกสตาร์ทลงสนามเป็นตัวจริงในเกมที่พบกับ เอฟเวอร์คัน ท่ามกลางเสียงฮือฮาของเหล่าสาวกปีศาจแดง

และ ไมนู ก็ไม่ทำให้แฟนๆต้องผิดหวัง ซึ่งเกมดังกล่าวเจ้าตัวโชว์ผลงานได้โดดเด่นสุดๆ ทั้งการลงมาแกะเพลส จ่ายบอลคุมจังหวะเกม รวมไปถึงการเล่นเกมรับ เรียกได้ว่าครบเครื่องดีเหลือเกิน 

แม้ว่าจะลงสนามได้เพียง 72 นาทีแต่สิ่งที่ ไมนู ทำให้เห็นก็คือเขาสร้างความแตกต่างในแผงมิดฟิลด์ได้อย่างชัดเจน และมีส่วนช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้า 3 แต้มในเกมวันนั้น

หลังจากเกมวันนี้ ค็อบบ ไมนู ก็ได้รับความไว้วางใจจาก เอริค เทน ฮาก มากขึ้น จนก้าวมาเป็นหนึ่งในขุนพลสำคัญของทีม และได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง

ถึงแม้จะอยู่ในสถานะของการเป็นนักเตะดาวรุ่ง แต่ด้วยฝีเท้า และความสามารถก็ต้องยอมรับเลยว่าเจ้าหนูรายนี้มีความสามรถที่เกินวัยจริงๆ ทั้งความนิ่ง กล้าเล่นกล้าลุย มีความสามารถรอบด้าน เรียกได้ว่าครบเครื่องเรื่องต้มยำจริงๆ

ด้วยฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยม ทำให้ แกเร็ธ เซาท์เกธ ตัดสินใจเรียกเจ้าหนูรายนี้ขึ้นมาติดทีมชาติชุดใหญ่ และเมื่อไม่กี่วันที่ในผ่านมาในเกมที่พบกับ เบลเยี่ยม ไมนู ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในแผงมิดฟิลด์คู่กับ ดีแคลน ไรซ์ และสุดท้ายเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ได้รับราลวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมในเกมดังกล่าวมาครอง แม้เกมจะจบลงด้วยเสมอก็ตาม 

หลังเกมดังกล่าวรุ่นพี่อย่าง จู๊ด เบลลิงแฮม ก็ได้กล่าวชมฟอร์มการเล่นเจ้าหนูรายนี้ว่า "เมื่อคืนเขาเล่นโคตรดีเลย จริงๆก็พูดลำบาก ผมก็พอทราบว่ามีกระแสอยากให้น้องมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ ตอนแรกผมก็เฉยๆนะ แต่เมื่อได้มาสัมผัสกับเขาแล้วจะทราบว่าได้เลยว่าน้องมันมีของจริงๆ"

"แน่นอนว่าน้องมีอนาคตที่สดใสกับทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด และ ทีมชาติอังกฤษ อย่างไม่ต้องสงสัยเลย"

คงต้องมาตามก็ต่อว่าอนาคตของ ไมนู จะเติมโตไปเป็นแข้งซุปเปอร์สตาร์ของทีมได้หรือไม่ ซึ่งเชื่อได้เลยว่าหากไม่ออกทะเล ไม่มีเรื่องนอกสนาม ก้มหน้าก้มตาซ้อม สนใจแต่เรื่องฟุตบอลเป็นหลัก เขาจะเป็นแข้งตัวท็อปของโลกได้อย่างแน่นอน 

ส่วนการได้ไปเล่นรอบสุดท้ายในศึก ยูโร 2024 ของ ไมนู ว่าเจ้าตัวจะรับโอกาสในการมีส่วนร่วมกับรายการนี้รึเปล่าคงต้องติดตามกันต่อไปครับ 

-บีเบลล์ กูนเนอร์-
 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline