แม้จะเป็นฝ่ายขึ้นนำในช่วงทดเวลา แต่ด้วยความไม่ละเอียด ก็มาโดนเจ้าบ้านตามตีเสมอ อารมณ์คล้ายเหมือนจะดีใจแต่มันไม่สุด แต่พอมาดูรูปแบบถ้า เบรนท์ฟอร์ด เฉียบขาดกว่านี้คงช้อยเก็บฉากไม่ได้สักคะแนน
ซึ่งตลอด 90 นาทีในเกมนี้มีเหตุการณ์อะไรเด่นๆ บ้าง หรือช็อตไหนที่ควรหยิบยกมาพูดคุยกัน ขอบสนาม ได้รวบรวมมาให้ทุกท่านแล้ว
เทน ฮาก ไม่เปลี่ยนทีม
ประเด็นแรกไปเจาะเรื่องของ 11 ตัวจริงกันก่อน ทางฝั่งผู้มาเยือนอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอริค เทน ฮาก ไว้วางใจนักเตะชุดเดิมจากเกมล่าสุดที่เอาชนะ ลิเวอร์พูล 4-3 ในศึกเอฟเอ คัพ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเลยสักตำแหน่งเดียว
ค็อบบี้ ไมนู ที่เปิดซิงกับทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ และมีข่าวว่าป่วยเมื่อกลางสัปดาห์ก็ฟิตพร้อมลงสนาม หรือ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ยังคงได้รับความไว้วางใจยึดเป็นตัวจริงอีกครั้ง
และข่าวดีคือการได้ ลิซานโดร มาร์ติเนซ กลับมาสู่ทีมอีกครั้ง ภายหลังได้รับบาดเจ็บหายไปจากทีมตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ส่วนทางฝั่งเจ้าบ้าน เบรนท์ฟอร์ด ยามเฝ้ารังพวกเขาก็ไม่เกรงกลัวใคร โธมัส แฟรงค์ จัดคู่หูกองหน้าอย่าง โยฮัน วิซ่า กับ ไอแวน โทนี่ย์ ลงสนาม หวังปลิดชีพผู้มาเยือนให้จงได้
เบรนท์ฟอร์ด ดีกว่าชัดเจน
เกมนี้ถ้าใครตื่นมากลางดึกจะเห็นว่าในช่วงต้นเกม 15-20 นาทีแรกเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เป็นฝ่ายครองบอลเปิดเกมรุกได้มากกว่าแบบชัดเจน แต่กระนั้นเหมือนภาพลวงตาเพราะหลังจากนั้นพวกเขาเป็นฝ่ายตั้งรับแทบจะฝั่งเดียว พร้อมชวนแฟนบอลทางบ้านให้ตาสว่าง
สิ่งที่ชัดเจนในเกมนี้คือแดนกลางของ เบรนท์ฟอร์ด แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก และเหนือกว่าผู้มาเยือนชัดเจน ช่วยกันวิ่ง ช่วยกันไล่ โดยเฉพาะกับ วิตาลี่ ยาเนลต์ กับ มาธีอัส เยนเซ่น ที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก
ฉะนั้นไม่แปลกที่พอตั้งลำได้ เบรนท์ฟอร์ด จะเป็นฝั่งที่ดีกว่าชัดเจน ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด เหมือนวิญญาณความกระหายถูกลักพาตัวไป ที่เหลืออยู่คือความผิดพลาดที่เกิดขึ้นแบบซ้ำแล้วซ้ำเหล่า
แต่กระนั้นแม้ เบรนท์ฟอร์ด จะสร้างสรรค์โอกาสได้มากกว่า ทว่าความเฉียบขาดกลับไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าไหร่นัก มันเลยทำให้ ยูไนเต็ด รอดพ้นจากการเสียประตูอยู่หลายครั้ง
ฉะนั้นมันจึงเป็นที่มาของการบอกว่าทัพ “ปีศาจแดง” ได้ 1 คะแนนได้เกมนี้ กลายเป็นแต้มใหญ่ เพราะถ้ามองจากรูปเกมมันห่วยบรรลัยเลยทีเดียว
สถิติบอกทุกอย่าง
สืบเนื่องจากประเด็นดังกล่าวสถิติหลังเกมมันชี้ชัดมากเหลือเกินว่า เบรนท์ฟอร์ด ขาดเพียงการทำประตูที่เฉียบขาดเท่านั้น เพราะตลอด 90 นาทีพวกเขามีโอกาสยิงมากถึง 31 ครั้ง ทว่ากลับยิงนกตกปลาไปซะเยอะ
นับเฉพาะตัวของ ไอแวน โทนี่ย์ พี่แกมีโอกาสซัดถึง 10 ครั้งด้วยกัน แต่บอลไม่ตรงกรอบเลย แปรเปลี่ยนเป็นหลุดกรอบ 6 ครั้ง ติดบล็อค 3 ครั้ง และชนเสาอีก 1 ครั้ง เช่นเดียวกันกับ โยฮัน วิซ่า ได้โอกาส 5 ครั้ง แต่ไม่ตรงกรอบเลย
ซึ่งจากสถิติตรงนี้มันบ่งบอกถึงคุณภาพในเกมรุกที่ไม่เด็ดขาดมากพอ แม้ภาพรวมส่วนใหญ่จะดีกว่าคู่แข่งเป็นอย่างมาก
และมันคงน่าเสียดายไม่น้อยถ้าเกมนี้จบลงด้วยการที่ เบรนท์ฟอร์ด ไม่มีคะแนนติดมือ ทั้งที่ครองเกมได้ทั้งหมด แต่ถ้ามองอีกมุมพวกเขาควรได้ถึง 3 คะแนนด้วยซ้ำจากสิ่งที่รังสรรค์มาก
แต่ก็นั่นแหละครับฟุตบอลไม่ได้วัดกันเพียงแค่เรื่องสถิติใครครองบอลมากกว่า หรือโอกาสยิงเยอะกว่า สุดท้ายการพาบอลไปกองที่ก้นตาข่ายคือการตัดสินของทุกอย่าง
เมาท์ เปิดซิง
เรื่องที่น่ายินดีของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมนี้นอกจากจะควัก 1 คะแนนออกมาจากรังทัพ “ผึ้งน้อย” ก็คือการที่ได้เห็น เมสัน เมาท์ กระทุ้งประตูเปิดซิงตุงแรกกับสโมสรได้แล้ว นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์
เมาท์ ถูกคาดหวังค่อนข้างเยอะจากแฟนบอลทั้งเรื่องของค่าตัว หมายเลขที่สวมใส่ และตำแหน่งที่เล่นที่หวังยกระดับเกมรุกของทีม
ทว่าภาพส่วนใหญ่ เมาท์ คือการรักษาตัวที่โรงหมอ ลงเล่นเพียงหยิบมือเดียว และยังไม่มีอะไรที่น่าประทับใจนัก ฉะนั้นไม่แปลกที่เกมล่าสุดที่ทำประตูได้จะเหมือนเป็นการปลดล็อคครั้งใหญ่ และเสริมสร้างความมั่นใจให้มากกว่าไปเดิม
อนาคตของ เทน ฮาก
ก่อนเกมนี้ เทน ฮาก ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าไม่สนใจกับข่าวลือต่างๆ ที่ แมนยูฯ เชื่อมโยงกับกุนซือหลายคนทั้ง แกรี่ โอนีล, แกเร็ธ เซาธ์เกต์ หรือ เกรแฮม พ็อตเตอร์ เจ้าตัวของทำหน้าที่ของตัวเอง และโฟกัสกับปัจจุบันมากที่สุด
ทว่าจากผลเสมอในเกมล่าสุด พร้อมผลงานที่เข้าขั้นห่วยขั้นเทพ พร้อมโอกาสลุ้นติดท็อปโฟร์ได้เลือนรางไปมากกว่าเดิมเพราะทั้ง สเปอร์ส และ แอสตัน วิลล่า ต่างก็ขยับช่องว่างมากไปอีกจากชัยชนะเมื่อวาน
ซึ่งเรื่องท็อปโฟร์คือส่วนหนึ่ง แต่ผลงานในสนามคืออีกประเด็นที่ต้องมารอดูกันว่า เทน ฮาก จะมีวิธีการใดที่ช่วยให้ ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมที่มีมาตรฐาน และลงเล่นด้วยความสม่ำเสมอ ไม่ใช่ 1 นัดดี 2 นัดหาย และเพราะด้วยเหตุนี้เหมือนเป็นตัวที่ทำให้สโมสรมันไม่เดินหน้าอย่างที่ควรจะเป็น
ฉะนั้นแล้วมันจะไม่แปลกเลยถ้าต่อจากนี้ข่าวการเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอีกครั้ง พร้อมสภาวะเก้าอี้ของ เทน ฮาก คงร้อนก้นแบบสุดๆ เพราะโควต้าเดียวที่อาจทำให้เขาได้อยู่ต่อคือ เอฟเอ คัพ รายการเดียวที่ยังคงเหลือลุ้น
แต่กระนั้นถ้าพลาดไปเชื่อว่าอนาคตของ เทน ฮาก มีโอกาสไม่น้อยที่จะโดนฟ้าลงโทษปลดออกจากตำแหน่งได้เหมือนกัน
- Paolinho -