logo-heading

ที่ผมได้มีโอกาสใกล้ชิดขนาดนี้ เพราะได้ไปช่วง Open WorkOut ชมการซ้อมของ ตะวันฉาย แบบ exclusive เนื่องจากเขามีไฟต์สำคัญ ที่ต้องป้องกันเข็มขัดแชมป์กับผู้ท้าชิงอันดับ 3 ของแรงกิง อย่าง โจ ณัฐวุฒิ คู่ปรับเก่าที่เคยปะทะเดือดกันมาแล้วในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ซึ่งครั้งนี้จะฟาดปากกัน ในศึก ONE 167 ณ อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี วันที่ 8 มิถุนายน 2567

การได้เจอกับ ตะวันฉาย ทำให้ผมรู้จักตัวตนของเขามากขึ้น และ ได้เห็นถึงเป้าหมาย, ความทะเยอทะยานของนักกีฬา ที่เป็นระดับแชมป์โลก รวมถึงความพร้อมของก่อนขึ้นป้องกันแชมป์กับ โจ ณัฐวุฒิ ..

นักข่าว : ใกล้ถึงวันชกแล้ว ตอนนี้ความพร้อมกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว

ตะวันฉาย : ความพร้อมตอนนี้ 80 เปอร์เซ็นต์ แล้วครับ

นักข่าว : แฟนๆค่อนข้างจะคาใจ ในไฟต์ที่เจอกับ โจ ณัฐวุฒิ เมื่อครั้งก่อน แต่ครั้งนี้มาต่อยในกติกามวยไทย ความมั่นใจมีมากขนาดไหน

ตะวันฉาย : มั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ ครับ คราวก่อนต่อยในกติกาพี่เขา ไฟต์นี้มาเป็นของผมมั่ง ผมขอมั่ง

นักข่าว : ถ้าพูดถึงในไฟต์ก่อนที่เอาชนะ โจ มาได้ ได้ถอดบทเรียนอะไรจากไฟต์นั้นบ้าง เช่น จุดแข็ง จุดอ่อน

ตะวันฉาย : ก็จุดแข็งของเขา (โจ ณัฐวุฒิ) ค่อนข้างที่จะเป็นหมัดชุด ส่วนบทเรียนที่ได้จากไฟต์ก่อนก็คือ ผมประมาท พูดตรงๆคือผมประมาทมากเกินไป

นักข่าว : แล้วแผนที่เราเตรียมไป เพื่อเผด็จศึกไฟต์นี้ มีแผนไหนไหมที่พอจะเปิดเผยผ่านสื่อได้ พอจะเล่าให้ฟังได้ไหม

ตะวันฉาย : ผมไม่เคยเปิดเผยอยู่แล้ว ไม่ว่าใครจะถามสักกี่ครั้ง ให้รอดูบนเวทีเอานะครับ

นักข่าว : กังวลลูกเตะขาของ โจ ณัฐวุฒิ ไหมครับ เพราะไฟต์ที่แล้วทำให้เราบาดเจ็บค่อนข้างเยอะเลย ?

ตะวันฉาย : ผมไม่ได้เจ็บนะพี่ มันเป็นแค่รอยแดงเฉยๆ มันเหมือนไหม้ มันแดงเพราะผิวผมขาว จากการโดนเตะ ไม่ใช่ว่าช้ำ จนเดินไม่ได้

นักข่าว : ถามความมั่นใจ ตอนนี้มากแค่ไหน แล้วอยากเผด็จศึก ด้วยการน็อคเลยหรือเปล่า ?

ตะวันฉาย : 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเรื่องการน็อค ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่ว่าในใจก็อยากให้ไม่ครบ 5 ยก แต่ว่าไม่แพ้แน่นอนครับ ไม่อยากแพ้ ไม่อยากผิดหวัง

นักข่าว : น้ำหนักตอนนี้เป็นไงบ้างครับ

ตะวันฉาย : ตอนนี้เกินอยู่ 8 โล แต่ถือว่าเป็นเรื่องปกติครับ เพราะยังกินอาหารแบบปกติอยู่ ผมเพิ่งซัดทุเรียนมาเลย แต่ถ้าผมคุมอาหารก็ลงแล้วครับ อีก 1 เดือน และ ผมซ้อมอยู่ตลอด แม้ไม่ได้ขึ้นเวทีมา 5 เดือน

นักข่าว : พูดถึงเป้าหมายของ ตะวันฉาย ถ้าหากผ่านไฟต์นี้ไปได้ ตัวเองตั้งเป้าข้ามไปชกกติกา คิก บ็อกซิ่ง หรือเปล่า ? ซึ่งแชมป์ตัวจริงคือ ชิงกิซ อัลลาซอฟ ส่วนแชมป์เฉพาะกาล ซุปเปอร์บอน ถ้ามีโอกาสได้ข้ามสายไปชิง จะรู้สึกอย่างไรครับ

ตะวันฉาย : รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติครับ เพราะถ้าเป็นมวยไทย ใครอยากเจอผม ผมต้อนรับเสมอ แต่ความฝันต่อไปของผมคือ การเป็นแชมป์ คิก บ็อกซิ่ง ใครจะว่าผมต่อยไม่ดี สู้ไม่ได้ ยังไงก็ช่าง สักวันผมจะเป็นแชมป์คิก บ็อกซิ่ง

นักข่าว : ถ้า ตะวันฉาย มองว่า คิก บ็อกซิ่ง ยังต่อยไม่ดี คิดว่าอะไรที่ยังเป็นจุดอ่อนของเรา สำหรับกติกานี้ ?

ตะวันฉาย : สเต็ปครับ และ ก็เรื่องหมัด ที่ผมไม่ค่อยได้ใช้ เพราะส่วนมากผมเน้นเตะ แต่ขอให้มีเวลาเตรียมตัวสัก 1-2 เดือน ผมเชื่อว่าผมเปลี่ยนได้ ถ้าให้คะแนนเต็ม 10 ในการชกคิก บ็อกซิ่ง ผมให้ตัวเอง 7 คะแนน

นั่นแหละครับ คือการสัมภาษณ์ ตะวันฉาย แบบคร่าวๆ เขาประกาศอย่างชัดเจนว่าสักวันหนึ่ง เขาต้องการเป็นแชมป์โลก ONEคิก บ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต ให้ได้ มันคือการปลดแอก และ ก้าวกระโดดออกจากเซฟโซนของตัวเอง

ผมไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรเหมือนกัน แต่ผมเชื่อว่า ตะวันฉาย พร้อมจะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นเป็นขวัญตาอย่างแน่นอน แต่กระนั้นไฟต์สำคัญป้องกันแชมป์โลก ONEมวยไทย ในศึก ONE 167 คือสิ่งที่เขาจะหลุดโฟกัสไม่ได้เลยจริงๆ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline