ถ้านับตั้งแต่เลกสองของฤดูกาล 2023/24 ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าการซื้อตัวของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังคงโดดเด่นเหมือนเดิม
โดยเฉพาะการซื้อตัวพวกแข้งต่างชาติที่เราเห็นแล้วว่าของจริงทั้ง กิลเยร์เม่ บิสโซรี่ , ลูคัส คริสปริม หรือแม้แต่ เจฟเฟอร์สัน ทาปินาส ที่มาจาก เจ ทู
แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือการซื้อตัวไทยที่เป็นเหล่าบรรดาแข้งลูกครึ่งเข้ามาเสริมเพียบเลยในเลกที่ 2 ที่ผ่านมา
เริ่มตั้งแต่ เคนเนท ดูกัลล์ กองกลางอดีตทีมชาติออสเตรเลียวัย 30 ปี ลูกครึ่งไทย - ออสซี่ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นตัวจริงที่เล่นได้กลางและหลังให้กับทีมอย่างต่อเนื่อง
ไหนจะในรายของ "พี่น้องดาวรุ่ง ดูโชว์นี" ลูกครึ่งไทย - อเมริกา จาก ระยอง เอฟซี ร่วมทีมเลกสอง ไมค์ก้า โจชายญา ดูโชว์นี กับ โจนา นาธาร ดูโชว์นี
เท่านั้นไม่พอยังไปเอา สยาม แยปป์ ปีกดาวรุ่ง ที่เล่นได้ทั้งริมเส้นฝั่งซ้าย และฝั่งขวา มาจาก โปลิศ เทโร เอฟซี ด้วยอีก 1 ราย ทำให้ช่วงเลกสองที่ผ่านมา สายฟ้า ฟาดแข้งลูกครึ่งอย่างน้อยๆ 5 รายเข้าสังกัดไปแเล้ว
และแน่นอนว่าเมื่อจบฤดูกาลนี้การเสริมทัพยิ่งต้องเข้มๆ ข้นๆ เข้าไปอีก ...
เอาแค่ข้อมูลเท่าที่เราได้ยินมาตอนนี้ก็ 3 คนเข้าไปแล้วไล่ตั้งแต่ อาทิตย์ เบิร์ก กองหน้ากึ่งปีกลูกครึ่งไทย - นอร์เวย์ จาก นครปฐม ยูไนเต็ด
ต่อด้วยไปจัดกาคว้าตัวแบ็กซ้ายอย่าง “ซาราลัมโปส ซาราลัมปูด” แข้งลูกครึ่งไทย - ไซปรัส มาจาก อุทัยธานี เอฟซี
เท่านั้นไม่พอเมื่อได้บิ๊กดีลอย่างการคว้าตัว นีล เอเธอร์ริดจ์ นายด่านสัญชาติฟิลิปปินส์ที่เป็นลูกครึ่งอังกฤษมาเฝ้าเสาให้อีกคน
จะเห็นได้ว่าทั้ง 3 คนที่มาใหม่นั้นล้วนแต่เป็นแข้งลูกครึ่งทั้งนั้น ...
ไม่ว่าจะเป็น "ลูกครึ่งไทย" หรือเป็นแข้ง "ลูกครึ่งอาเซียน" ...
แน่นอนว่าพอเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด การซื้อตัวแบบนี้มันต้องมีความหมายหรือมีอะไรซ่อนเร้นพอสมควร จะเป็นแนวใหม่ที่พวกเขานำเทรนด์ไปก่อนกับการซื้อตัวหรือเปล่าอันนี้ต้องดูกันยาวๆ
แต่ที่ไม่ต้องดูคือ การซื้อเหล่าลูกครึ่งเข้าทีมแบบนี้ เสมือนพวกเขาได้ตัวต่างชาติที่เป็นคนไทย เพราะพวกนี้มีความเป็นมืออาชีพค่อนข้างสูง ที่สำคัญนิสัยหรือความคิดความอ่านอาจจะไม่ใช่ไทยแบบจ๋าๆ ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องแบบนี้มันส่งผลกับการสร้างทีมในอนาคตไม่มากก็น้อย
ไม่ใช่ว่าการซื้อตัวลูกครึ่งเข้าทีมเยอะๆ ไม่เคยเกิดขึ้นกับทีมในไทยลีก เพราะทีมอย่าง บีจี, บียู เคยทำมาหมดแล้ว เช่นเดียวกับ บุรีรัมย์ ก็เคยทำเช่นกัน ซึ่งก็มีทั้งดี ทั้งแย่ ปนๆ กันไป ก่อนที่กระแสลูกครึ่งจะค่อยๆ หายไป จนกลับมาเยอะอีกครั้งในช่วงขวบปีที่ผ่านมา
คราวนี้กลับมาเป็นคิวของ บุรีรัมย์ ที่กลับมาใช้วิธีการนี้อีกครั้ง เพียงแต่คุณภาพนักเตะที่ดูแล้วน่าจะดีกว่า ...
จากนี้คงต้องดูกันยาวๆ ว่า เทรนด์ "ลูกครึ่ง" ของสายฟ้าในรอบนี้มันจะพาทีมไปได้ไกลขนาดไหน เริ่มจับตาตั้งแต่ซีซั่นหน้าเป็นต้น ...
บอลพาดู