logo-heading

ทัพ “สิงห์ผงาด” ไม่ใช่ทีมเงินถุงเงินถังนักเตะในทีมไม่ใช่จำพวกซุปเปอร์สตาร์เบอร์ต้นๆ ของพรีเมียร์ลีก แต่ด้วยมวลรวมทั้งหมดมันค่อยๆ ต่อเติมให้พวกเขามีความแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ ผ่านการเชื่อมต่อโดยโค้ชมากประสบการณ์อย่าง อูไน เอเมรี่

นายใหญ่ชาวสเปนเข้ามาพร้อมกับปัญหามากมายที่ต้องปรับแก้ เขาไม่ได้เปลี่ยน วิลล่า ได้ในเพียงชั่วข้ามคืน แต่ใช้วิธีค่อยเป็นค่อยไป จนแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ

เอเมรี่ มีวิธีการอย่างไรในการปลุก แอสตัน วิลล่า ให้กลับมาผงาดอีกครั้ง ขอบสนาม จะพาไปส่องปัจจัยต่างๆ กัน

ปรับทัศนคติผู้เล่น

ย้อนกลับไป เอเมรี่ กลับมาทำงานในอังกฤษรับงานคุมทัพ แอสตัน วิลล่า เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2022 ซึ่งสถานการณ์ของสโมสรในตอนนั้นไม่ค่อยสู้ดีนัก 12 เกมแรกในพรีเมียร์ลีกภายใต้การคุมทีมของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ชนะเพียง  2 เกม และทำประตูคู่แข้งได้เพียง 7 ลูก ซึ่งนั้นคือสาเหตุในการแยกทางกับอดีตดาวเตะทีมชาติอังกฤษรายนี้

ผลงานของทีมสามารถเรียกได้เต็มปากว่ามืดมน นอกจากผลงานในสนามจะย่ำแย่ วิธีการฝึกซ้อมจำเจ ไม่มีความแปลกใหม่ และไร้ซึ่งความท้าทายให้นักเตะเพื่อพัฒนายกระดับตัวเอง

แน่นอนว่าสิ่งแรกๆ ที่ เอเมรี่ ต้องลงมือทำคือการเปลี่ยนทัศนคติ และซื้อใจลูกทีมได้ในช่วงเวลาเพียงไม่นาน ซึ่งมันเริ่มตั้งแต่ในสนามซ้อม ทั้งเรื่องพละกำลัง ซ้อมให้หนักหน่วงกว่าเดิม มีคลิปวิเคราะห์ทีมคู่แข่งมาให้ลูกทีมศึกษา

ครั้งหนึ่ง โอลลี่ วัตกินน์ กองหน้าของ วิลล่า เคยได้ออกมาพูดถึงประเด็นการวิเคราะห์คู่แข่งจากวิดีโอผ่านโค้ชของทีมอย่าง อันโตนิโอ โรดริเกซ ซาราเวีย ไว้ว่า “บางครั้งเราไม่แม้แต่จะฝึกซ้อมให้จบ เราอาจแค่ดูวิดีโอ และการวิเคราะห์” 

“เขาเป็นกุญแจสำหรับผม ซึ่งผมต้องให้เครดิตเขา เพราะเขาช่วยผมได้มาก ผมจะดูเกมต่างๆ ย้อนหลัง และดูว่าสิ่งที่ผมสามารถทำได้ดีกว่า และเดินหน้าต่อไป”

ส่วน เอซรี่ คอนซ่า ก็เป็นอีกคนที่ยอมรับว่า เอเมรี่ สามารถเข้ามาปรับ และเปลี่ยน วิลล่า ได้เป็นอย่างดี “ความคิดที่เขานำมาใช้นั้นให้ผลดีจริงๆ และเรากำลังแสดงมันออกมา ไม่ว่าใครจะเล่น ทุกคนรู้บทบาทของตน ดังนั้นพวกเขาจึงมั่นใจเมื่อได้รับโอกาส"

อูไน เอเมรี่ : เข้ามาเปลี่ยน แอสตัน วิลล่า ยังไงให้แข็งแกร่งขึ้น

เมื่อ เอเมรี่ ลงมือ และนักเตะทำตาม เท่ากับทุกอย่างมันเกินครึ่งไปแล้วที่เหลือก็เพียงแค่รายละเอียดปลีกย่อยในแต่ละเกม ซึ่งลูกทีมก็พร้อมจะเดินตาม แม้มันจะมีรายละเอียดที่เพิ่มมากขึ้น ซับซ้อนกว่าเดิม แต่นั้นคือจุดที่ทำให้ทีมจะสามารถประสบความสำเร็จได้

ครึ่งฤดูกาล 2022-23 เอเมรี่ พา วิลล่า จากท้ายตารางขึ้นมาจบอันดับที่ 7 พร้อมตั๋วไปลุย คอนเฟอเรนซ์ลีก ซึ่งราวๆ ครี่งปีเขาสามารถเปลี่ยน วิลล่า จากหลังเป็นหน้ามือ โดยเฉพาะเกมรับที่เก็บคลีนชีตได้ถึง 9 จาก 25 เกม และเกมรุกที่เท้าบอดเพียง 2 นัดเท่านั้นที่ไม่สามารถผลิตประตูได้

การเลือกซื้อนักเตะ

ประเด็นต่อมาคือการเลือกซื้อตัวนักเตะใหม่เข้ามาสู่ทีม อย่างที่บอกข้างตน วิลล่า ไม่ใช่ทีมร่ำรวยเบอร์ต้นๆ ของพรีเมียร์ลีก การใช้จ่ายในแต่ละครั้งแม้จะลงทุนหนัก แต่ต้องได้ผลประกอบการที่ดี และเข้ามาระบบแท็คติกของ เอเมรี่ ด้วย

ช่วงเดือนมกราคม 2023 เอเมรี่ ไปดึงตัว อเล็กซ์ โมเรโน่ มาเติมแบ็คซ้าย เพราะมองเห็นศักยภาพในการเล่นเกมรุก และเติมเต็มในส่วนที่ขาด 

จนกระทั่งช่วงซัมเมอร์ และตลาดหน้าหนาวซีซั่นนี้ การเปลี่ยนแปลงเริ่มเห็นภาพที่ชัดเจนโค้ชสร้างทีมที่เป็นของตัวเอง คนไหนเหมาะกับระบบก็อยู่ต่อ ใครไม่อยู่ในแผนก็ปล่อยทันที

- มุสซ่า ดิยาบี้ 45 ล้านปอนด์

- เปา ตอร์เรส 32 ล้านปอนด์

- นิโคโล่ ซานิโอโล่ ยืมตัว

- ยูรี ตีเลอมันส์ ฟรี

- มอร์แกน โรเจอร์ 15 ล้านปอนด์

ดิยาบี้ เข้ามาเติมเต็มไปแผงเกมรุก พร้อมเป็นนักเตะที่ลงสนามมากที่สุดของสโมสรในฤดูกาลนี้จำนวน 53 เกม พร้อมมีส่วนร่วมไปแล้ว 19 ตุง แบ่งเป็นยิง 10 แอสซิสต์ 9  เปา ตอร์เรส เข้ามาเสริมแกร่งหลังบ้านพร้อมเป็นตัวหลักในทันที

นิโคโล่ ซานิโอโล่ ภายใต้ดีลยืมตัว แม้จะไม่ใช่ตัวจริงแบบสม่ำเสมอ แต่ก็เป็นแบ็คอัพให้ได้เลือกใช้งาน เป็นตัวโจ๊กเกอร์ซัดไปแล้ว 2 ประตู ซึ่งสำคัญต่อทีมพา วิลล่า คว้าแต้มได้จากทั้ง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

ส่วน ตีเลอมันส์ ช่วงแรกๆ อาจต้องปรับจูนกันยกใหญ่ แต่พอผ่านมาได้ทุกอย่างฉลุย เล่นร่วมกับ ดั๊กลาส ลุยซ์ ได้แบบลงตัว

หรือในเคสของ มอร์แกน โรเจอร์ ที่ไปดึงตัวมาจาก มิดเดิลสโบรห์ ก็เป็นอะไหล่ชั้นดี ทำให้ทีมมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น และตัวเลือกที่หลากหลายแก้ไปตามสถานการณ์ที่เจอ

ซึ่งนักเตะที่ เอเมรี่ เลือกต้องมีคุณสมบัติของความแข็งแกร่งมากพอสมควร ทั้งร่างกาย และจิตใจรับมือกับสถานการณ์ยากๆ ความเข้มข้นในการฝึกซ้อม โปรแกรมที่เพิ่มเข้ามาเพื่อยกระดับคุณภาพของตัวเอง

จุดนี้เราเห็นชัดเจนว่าคนที่ เอเมรี่ ดึงเข้ามาคือต้องใช้งานได้ และเข้ากับระบบของเขา ทีมขาดจุดไหนแต่งเติมจุดนั้น ใช้สอยทรัพยากรภายในทีมให้คุ้มค่าที่สุด เพราะขนาดทีมไม่ได้ใหญ่พอจะไปต่อกรกับเหล่าบิ๊กทีม แต่คุณภาพโดยรวมมันดี และสามารถช่วยกันซัพพอร์ตไปจนถึงจุดหมาย

อูไน เอเมรี่ : เข้ามาเปลี่ยน แอสตัน วิลล่า ยังไงให้แข็งแกร่งขึ้น

แท็คติกในสนาม

“เขาจะคอยบอกคุณว่าจะเล่นอย่างไร จะยืนตรงไหน และทำอย่างไรจึงจะได้ประโยชน์สูงสุดจากเกมของคุณ” นี่คือคำพูดของ โอลลี่ วัตกินน์ ถึงนายใหญ่ของเขาอย่าง เอเมรี่ ซึ่งมันจัดเจนถึงวิธีการ และการลงรายละเอียดในตัวบุคคลว่าต้องอย่างไรเมื่อถูกส่งลงสนาม

ระบบที่ เอเมรี่ ชื่นชอบมากที่สุดคือ 4-2-3-1 หรือ 4-4-2 โดยเน้นการโจมตีกลางสนาม และคอยผสมผสานในรูปแบบอื่นๆ เข้ามา ซึ่งแท็คติกในลักษณะนี้ประสบความสำเร็จมาแล้วกับทั้ง เซบีย่า, บียาร์เรอัล หรือปัจจุบันกับ แอสตัน วิลล่า

สมัยคุม เซบีย่า เขาจะใช้ อิวาน ราคิติช, โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส และ วิโตโล่ ในการโจมตี และคอยสนับสนุนหน้าเป้าอย่าง คาร์ลอส บัคก้า หรือกับ บียาร์เรอัล ก็จะใช้ ดานี่ ปาเรโฆ, เอเตียน กาปู และฟรานซิส โกเกอแล็ง เป็นส่วนสำคัญ ซึ่งมันคือวิธีการที่หนักแน่น ทรงพลัง และรวดเร็ว

ส่วนมิดฟิลด์คู่กลางจะเป็นสไตล์คลาสสิค ครองบอลดี จ่ายบอลเยี่ยม อย่างสมัยอยู่กับ บาเลนเซีย ก็เป็น เอแวร์ บาเนก้า กับ ดาบิด อัลเบด้า ตอนไปคุม เปแอสเช ก็เป็น ติอาโก้ ม็อตต้า กับ อาเดรียง ราบิโอต์ 

ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน วิลล่า ใช้คู่กลางคือ ดั๊กลาส ลุยซ์ ยืนพื้น ส่วนคู่ขาก็เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ทั้ง ยูริ ตีลองมันส์ หรือ บูร์บาก้า กามาร่า โดยที่มี จอห์น แม็คกินน์ คอยเชื่อมประสานเกมไปยังแดนหน้า

หลักการเกมรุกของ เอเมรี่ ที่เห็นบ่อยๆ คือบอลแนวลึกที่อาจจะจ่ายจากแดนหลัง หรือกองกลาง และให้หน้าเป้าคอยวิ่งทำทางไปเก็บบอล หรือลุ้นทำประตู แต่ในขณะเดียวกันตัวริมเส้นก็จะเข้ามามีบทบาทด้วยการในถ่าง และเปิดพื้นที่ให้ได้มากกว่า

และอีกหนึ่งภาพที่ชัดเจนของ วิลล่า ในยุค อูไน เอเมรี่ คือเรื่องของเกมรับ นับจนถึงตอนนี้พวกเขาเสียประตูไปเพียง 56 ลูก น้อยที่สุดอันดับ 4 เป็นรองเพียง แมนฯ ซิตี้, อาร์เซน่อล และ ลิเวอร์พูล เท่านั้น

วิธีการของ เอเมรี่ คือบีบพื้นที่แดนกลางของคู่แข่งให้เหลือพื้นที่น้อยที่สุด มิดฟิลด์ตัวรับ 1 คนจะไปยืนในระนาบเดียวกับเซ็นเตอร์ฮาร์ฟ จุดนี้ในแต่ละเกมก็จะต่างกันออกไปเป็น กามาร่า บ้าง หรือ ลุยซ์ บ้าง ส่วนผู้เล่นเอาท์ฟิลด์คนอื่นๆ จะลงช่วยลงมาปิดพื้นที่ของคู่แข่งให้มากที่สุด

ส่วนฟูลแบ็คเราจะเห็นทางว่าซ้าย เอเมรี่ จะสลับใช้งานกันระหว่าง อเล็กซ์ โมเรโน่ กับ ลูก้าส์ ดีญ อยู่บ่อยๆ ตามรายละเอียดในแต่ละเกม ซึ่งจุดนี้ ดีญ ทำได้ดีกว่าในเรื่องเกมรับ ส่วนทางขวา แม็ตตี้ แคช รับสัมปทานยาว 

จากที่กล่าวมามันชัดเจนในเรื่องของวิธีการ การตั้งโซนเกมรับ การเซตเกมเมื่อเป็นฝ่ายรุก ซึ่งภาพรวมมันออกมาให้เห็นเป็น แอสตัน วิลล่า ที่แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม

แน่นอนว่า เอเมรี่ เพียงคนเดียวไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ แต่มันมาจากการรวมพลังกันของทีมงานหลังบ้านที่เขาพามาด้วยตอนรับงานที่ วิลล่า พาร์ค หรือนักเตะที่ตอบสนองต่อแท็คติก และเปิดใจรับกับสิ่งที่กุนซือคนนี้พาเข้ามา

ช่วงเวลาราวๆ ปีครึ่ง เอเมรี่ เปลี่ยน วิลล่า ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น แม้มันอาจจะยังไม่ทั่วแผ่น มีข้อผิดพลาดให้ได้เห็น แต่ถ้าย้อนกลับไปดูวันแรกที่เข้ามา มันพัฒนาแบบก้าวกระโดดมากพอสมควร

ส่วนในฤดูกาลหน้าจะเป็นอย่างไรช่างน่าสนใจ

แอสตัน วิลล่า กับการเสริมทัพให้แกร่งขึ้น

แอสตัน วิล่ล่า ในการลุย แชมเปี้ยนส์ลีก

อูไน เอเมรี่ กับขวบปีที่ 3 กับ แอสตัน วิลล่า

และ อูไน เอเมรี่ ในบอลถ้วยใหญ่สุดของยุโรป

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline