logo-heading

เมื่อมีข่าวว่าเชลซีปลด "โปเช็ตติโน่", ทูเคิล ไม่ได้ไปต่อกับ บาเยิร์น และ เทน ฮาก เตรียมแยกทางกับปีศาจแดงหลังจบฤดูกาล ทันใดนั้น "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" ก็มีข่าวปลดกุนซืออย่าง "จอร์จินโญ่" กุนซือชาวแซมบ้าพ้นจากตำแหน่งเช่นกัน

หรือว่า!! บุรีรัมย์ ให้ความสนใจกับโค้ชอย่าง "พอช", ทูเคิล และ เทน ฮาก อยู่หรือเปล่า....ถุยส์!!!!!!!! เลิกเพ้อเจ้อ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ก็แค่แซวขำๆ เท่านั้น เพราะการแยกทางโค้ชขอบ บุรีรัมย์ มันมีเหตุผลไม่กี่อย่างหรอก ไม่ทะเลาะกับนาย ก็อาจจะมีปัญหากับขาใหญ่ในทีม 

จริงๆ ข่าวการแยกทางระหว่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ จอร์จินโญ่ กุนซือแซมบ้าวัย 59 ปี ถือเป็นข่าวใหญ่ส่งท้ายฤดูกาล ทั้งๆ ที่กุนซือผู้นี้เป็นคนทำบุรีรัมย์ คว้าแชมป์ไทยลีก สมัยที่ 9 และเตรียมจะนำลูกทีมขึ้นโพเดี้ยมรับถ้วยแชมป์ไทยลีกในสุดสัปดาห์นี้ แต่สุดท้ายก็มีเหตุอันทำให้ต้องโบกมือบ๊ายบายกันไปเสียก่อน

จอร์จินโญ่ เข้ามาคุมทีมเมื่อปลายเดือนมีนาคม ตามภาพที่บุรีรัมย์ มีการแจกข่าวเปิดตัวก็คือวันที่ 25 มีนาคม 2567 นับถึงตอนนี้ก็เกือบๆ 2 เดือน ซึ่งยังไม่ถึงดี แต่ก็ต้องแยกทางกันก่อน

ที่ผ่านมากุนซือแซมบ้ามีสถิติที่ดีในการคุมทัพเซราะกราว 8 เกมในลีก ชนะ 6 เสมอ 2 ไม่แพ้ใคร พาทีมคว้าแชมป์ แถมบอลถ้วยก็พาทีมเข้ารอบรองรีโว่ คัพ แต่ไม่ได้คุมทีมในเกมรอบตัดเชือก และสุดท้ายทีมก็แพ้เกมแรกเมื่อไม่มีเขาอยู่ข้างสนาม

เรื่องการแยกทางจริงๆ ยังไม่มีการประกาศหรือแถลงการณ์อย่างเป็นทางการออกมาจากสโมสร โดยมีเพียงการให้สัมภาษณ์ของ เอเมอร์สัน เปไรร่า ผู้ช่วยโค้ชที่คุมทีมแทนวานนี้ว่า "จอร์จินโญ่ มีธุระที่ต้องกลับไปบราซิล" แต่ไม่ได้บอกว่าปลด หรือแยกทางกันแล้ว ซึ่งก็อยู่ที่จะตีความกันไป

แต่สื่อหลายสำนักก็รายงานตรงกัน และเนื้อหาแทบจะอันเดียวกันก็คือมีการปลดออกจากตำแหน่งไปแล้วตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ออกข่าว 

ซึ่งดูแล้วก็ท่าจะจริงตามนั้น เพราะในอดีตที่ผ่านมา ถ้าโค้ชคนไหนของบุรีรัมย์ ต้องกลับไปเคลียร์ปัญหาส่วนตัวที่บ้านเกิด หรือมีปัญหาครอบครัวต้องบินกลับด่วน แทบจะทุกรายที่ไม่ได้บินกลับมาคุมทีมต่อ คาดว่าในรายของ "จอร์จินโญ่" ก็น่าจะเป็นแบบนั้น

มีอีกกระแสรายงานว่า สาเหตุของการแยกทางน่าจะมาจากมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับท่านประธานสโมสร หรืออธิบายให้เข้าใจง่ายก็คือ ทะเลาะกันนั่นแหละ แต่คงไม่ใช่ทะเลาะแบบรุนแรง มีปากเสียงอะไร แต่คงจะเป็นเรื่องแนวทางการทำทีม หรือการจัดตัว หรืออะไรก็แล้วแต่มันไม่ตรงกัน

ซึ่งเรารู้กันดีอยู่แล้วว่าใครที่จะมาคุมทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คุณต้องรับเงื่อนไข และประเพณีปฏิบัติของทีมได้ ซึ่งเรื่องนี้ลุงเนวิน เคยเป็นคนพูดเองด้วย ว่าโค้ชบุรีรัมย์ ต้องยอมรับให้ได้ว่า คุณเป็นเฮดโค้ช และลุงเนวิน คือเฮดของเฮดโค้ช แผนการฝึกซ้อม วิธีการเล่น การจัดตัว การเปลี่ยนตัวในสนามต่างๆ จะต้องผ่านการเซย์เยสจากเฮดของเฮดโค้ชเสมอ

ซึ่งถ้าใครรับได้ในเงื่อนไขนี้ ก็มาเป็นโค้ชของบุรีรัมย์ได้ ส่วนใครที่รับไม่ได้ ก็คงไม่ได้ร่วมงานกัน หรือถ้าคุมทีมอยู่ก็ต้องแยกย้ายกันไป ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาก็เป็นเช่นนั้นมาโดยตลอด

ดังนั้นก็ฟันธงได้เลยว่า "จอร์จินโญ่" น่าจะมีปัญหากับทีมจริงๆ นั่นแหละ ถึงขั้นที่สโมสรต้องจองตั๋วเฟิร์สคลาสให้บินกลับบราซิลด่วนๆ กันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าเป็นที่บราซิลก็คงจะต้องบอกว่า "ที่นี่บราซิล!!" เสียง โดมินิค โทเรตโต ในฟาสแอนฟีเรียส แต่เมื่อเหตุการณ์นี้คนบราซิลมาเจอที่เมืองไทย ก็ต้องบอกคำว่า "ที่นี่ ไทยแลนด์!!"

นี่น่าจะเป็นฤดูกาลที่บุรีรัมย์ เปลี่ยนโค้ชเยอะที่สุดแล้วถึง 3 ครั้ง เริ่มจาก อิชิอิ มาเป็น ปาปาส และ จอร์จินโญ่ โดยตอนนี้เป็น เอเมอร์สัน ที่ขัดตาทัพในเกมสุดท้ายของฤดูกาล

หลายคนบอกว่าทำไมบุรีรัมย์ ถึงเปลี่ยนโค้ชบ่อย ถามว่าบ่อยไหม มันมาบ่อยในฤดูกาลนี้แหละ เรียกว่าเปลี่ยนเยอะดีกว่า เพราะอย่าลืมว่าเมื่อสองฤดูกาลก่อนเขาใช้ อิชิอิ ตั้งสองฤดูกาลเต็ม เพิ่งจะมาเปลี่ยนในซีซั่นนี้เอง ซึ่งปกติแล้วถ้าใครอยู่ได้นานกับบุรีรัมย์ ส่วนใหญ่ปีที่สามก็จะแยกย้ายตลอด 

แต่ถ้าอยู่ไม่ยาวเปลี่ยนระหว่างฤดูกาลมันก็จะคนสองคน แต่นี่เปลี่ยนไปสามคนแล้ว ก็น่าแปลกใจเหมือนกัน

จากนี้สิ่งที่ต้องรอติดตามกันต่อก็คือแล้วใครจะเข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ของทีม "เซราะกราว" ซึ่งโค้ชไทยตัดไปได้เลย มีการพูดถึง "โค้ชซิโก้" แต่ผมมั่นใจว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ดูแล้วก็คงต้องเป็นโค้ชต่างชาติ ที่ไม่เคยทำงานในเมืองไทยมาก่อน 

อาจจะเป็นโค้ชบราซิลอีกก็ได้ เพราะตอนนี้แกนหลักต่างชาติของบุรีรัมย์ เน้นไปที่บราซิลเป็นหลัก และกำลังจะได้มาอีกตัวด้วย

ก่อนหน้าที่จะเป็น "จอร์จินโญ่" ตัวเลือก 4 คนก็เป็นบราซิลทั้งหมด ไม่แน่อาจจะกลับไปที่สามตัวเลือกนั้นก็เป็นได้ หรืออาจจะเป็นคนใหม่เข้ามา แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร แนะนำให้ลองทักไปคุยกับลุงจอร์ก่อนนะครับ ว่าคุณจะต้องเจออะไรบ้าง ถ้าตัดสินใจมารับงานที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

แล้วก็เตรียมใจมาให้พร้อม ศึกษาฟุตบอลไทยมาให้ดี เพราะไม่เช่นนั้น อาจจะมีชะตากรรมเหมือนกับลุงจอร์ก็เป็นได้  

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline