logo-heading

อันที่จริงแฟนเชลซีก็ไม่ได้ชอบพอชขนาดนั้น เคยขับไล่กันด้วยซ้ำ แต่พอฟอร์มดีช่วงท้าย ก็อยากลองเปิดใจดูบ้าง อย่างไรก็ตาม พอแฟนบอลกำลังจะให้โอกาสอีกสักปี กลับกลายเป็นว่า 2 ผู้อำนวยการกีฬา พอล วินสแตนลี่ย์ และลอเรนซ์ สจวร์ต เลือกไม่ไปต่อซะงั้น

จากกระแสข่าว เชลซีเลือกแยกทางกับพอช (ไม่ใช่ไล่ออก) เพราะมีแนวทางไม่ตรงกัน เช่น พอชไม่อยากได้โค้ชลูกตั้งเตะ แต่สโมสรอยากได้ เพราะสถิติเสียประตูจากเซตเพลย์ง่ายมาก หรือจะเป็นอำนาจในตลาด ข่าวบอกว่าพอชชอบ คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ แต่บอร์ดอยากขายเพื่อทำกำไร ซึ่งพอชก็เข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ 

Athletic บอกว่าเรื่องขัดแย้งมีเกิน 10 ข้อด้วย มันมหาศาลมาก คือยังไม่ได้ถึงขั้นแตกหัก แต่ถ้าฝืนลุยต่อคงไม่เหลือ ซึ่งผมก็แปลกใจว่า วินสแตนลี่ย์ และสจวร์ต เป็นคนสัมภาษณ์เอาพอชมาคุมเองแท้ๆ ใช้เวลาคุยนานมาก ยอมไม่เอาเอ็นรีเก้หรือนาเกลส์มันน์เพื่อพอช Only แต่ทำไมเวลาผ่านไป 1 ปีถึงมีเรื่องไม่ลงรอยกันเยอะขนาดนั้น
 
สิ่งที่เหลือเชื่อก็คือ ทำไมเจ้าของเชลซีถึงยังเชื่อใจ 2 ผอ.กีฬาแบบนี้ต่อ? ความผิดพลาดมีให้เห็นตั้งกี่หน แต่ไม่จำเลย เช่น ตอนไปปลด แกรม พอตเตอร์ แทนที่จะเอาโค้ชบิ๊กเนมมาแทน ก็ไปเอาแลมพาร์ดกลับมาคุมจนจบอันดับ 12

จะบอกว่าตอนนั้นไม่มีใครอยากคุมเชลซี เพราะไม่เหลืออะไรให้ลุ้นแล้ว มันก็คงไม่ใช่ ทีมยังไม่ได้ตกรอบ UCL เสียหน่อย แถมข่าวเทียร์ 1 บอกด้วยว่าเอ็นรีเก้พร้อมรับงานตอนนั้น แต่เชลซีเลือกที่จะไม่เอาเอง 

แล้วคราวนี้ต้องหาตัวแทนพอช ไอ้เราก็คิดว่าจะเยียวยาจิตใจแฟนบอลด้วยชื่อบิ๊กเนมหน่อย แต่สเปคที่ออกมาจาก 2 ผอ.กีฬาคือ โค้ชใหม่เชลซีต้องอายุน้อย มีแววพัฒนา แล้วเน้นครองบอลบุก 

เชลซีมาถึงจุดนี้ได้ยังไง? จุดที่เริ่มจากทูเคิ่ลแชมป์ UCL สู่การไปล่ากุนซือเกรดแชมเปี้ยนชิพ ซึ่งไม่ได้หมายความว่า คีแรน แม็คเคนน่า หรือ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ไม่มีฝีมือนะครับ เขาอาจจะเก่งในอนาคตก็ได้ แต่สถานการณ์เชลซียังต้องมาเสี่ยงอีกหรือ? ชื่อเสียงสโมสรระดับนี้ หาดีกว่านี้ไม่ได้หรือ? สรุปปีหน้าจะหวังกลับไป UCL หรือจะหวังแค่กลางตารางกันแน่?

อีกความพีกก็คือ สเปคบอกต้องเน้นครองบอลบุก แต่จากสถิติของแม็คเคนน่าพาอิปสวิชครองบอลเป็นอันดับ 7 ของลีก และส่งบอลสั้นแม่นยำต่อเกมอันดับ 10 ของลีก ไม่ใช่สายครองบอลแน่นอน หรือจะเป็นแฟรงค์ที่ไดเรคต์จ๋า ใครดูเบรนท์ฟอร์ดก็รู้กันอยู่ว่าเซตพีซอันตรายมาก แต่ถามหน่อยว่าเน้นครองบอลตรงไหน?

หากหวยไปออกที่ แม็คเคนน่า หรือแฟรงค์ มันจะเป็นความย้อนแย้งแบบ 2 ต่อ เพราะความคาดหวังสโมสรสูง อยากกลับไปเล่น UCL แต่เลือกโค้ชเกรดกลาง แถมปากบอกเอาครองบอลบุก แต่ไปจิ้มสายไดเรคต์ซะงั้น 

อยากให้บอร์ดบริหารเชลซีชุดนี้ ดูตัวอย่างยุคเสี่ยหมีเอาไว้บ้าง หากใครจำกันได้ตอนที่ ราฟาเอล เบนิเตซ มาคุมเชลซีใหม่ๆ ก็โดนต่อต้าน โดนด่าไม่ต่างจากพอชเลย แต่พอช่วงท้ายเริ่มผลงานดี คนก็เริ่มให้อภัย เริ่มหายโกรธ ซึ่งพอเชลซีไม่ไปต่อกับราฟา แต่อัพเกรดเป็น โชเซ่ มูรินโญ่ มันก็ไม่มีใครบ่น

ถ้าแยกทางกับพอช แล้วเลือกเป็น ทูเคิ่ล, ฮันซี่ ฟลิค หรือใครก็ตามที่มีโทรฟี่ใหญ่ติดมือมาบ้าง กระแสดราม่ามันคงไม่แรงขนาดนี้ ซึ่งบอร์ดเชลซีเคยมีบทเรียนจากการลองโค้ชแววดีแบบพอตเตอร์มาแล้ว ปรากฏว่าไม่เวิร์ค แล้วทำไมถึงยังต้องเสี่ยงอีก ทั้งที่ขวบปีของทีมชุดใหม่ มันต้องเริ่มซิ่งบ้างแล้ว 

ผมไม่โกหกเลยว่า เมื่อกางชื่อ มาเรสก้า, แฟรงค์ และแม็คเคนน่า ผมอยากได้ที่ดีกว่านี้ แต่ถ้าให้ต้องเลือกจริงๆ ไม่มีชอยส์อื่นนอกจาก 3 คนนี้ ผมคงกัดฟันเลือกมาเรสก้า เพราะอย่างน้อยเป็นสไตล์ครองบอล น่าจะตรงกับโจทย์ทีมบริหาร รวมถึงถนัดการใช้แผน Inverted Fullback ซึ่งน่าจะต่อยอดสิ่งที่พอชทำกับคูคูเรญ่าได้ไม่ยาก

นอกจากนี้ ยังเคยร่วมงานกับ โคล พาลเมอร์ สมัยเป็นผู้ช่วยเป๊ปที่ซิตี้ด้วย คือถ้าต้องเลือกสักคนจริงๆ ก็คงเป็นเขานั่นแหละ มันอาจไม่ได้พอใจสุด แต่ก็คิดว่ามีโอกาสตอบโจทย์ระยะยาวมากกว่าแฟรงค์หรือแม็คเคนน่า 

พูดแล้วก็เหนื่อยใจ เชลซีมีองค์ประกอบของทีมชั้นนำหลายอย่าง มีเงินเสริมทัพมากมาย มีทีมกลยุทธ์พลิ้วหลบกฎ PSR ได้ แต่กลับไม่มีผู้อำนวยการกีฬาที่เก่งแบบ ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล หรือแมนฯ ซิตี้ จนต้องมานั่งตัดทีละชอยส์ว่าไม่โอเคกับคนไหนน้อยสุด แล้วก็ต้องเลือกคนนั้น

ถ้ารอบนี้เลือกคนใหม่แล้วไม่ปังอีก ได้โปรดเถอะโบห์ลี่ เปลี่ยนผู้บริหารด่วน 

เจ้าของสโมสรรู้เรื่องฟุตบอลน้อยไม่ว่า ตอนเสี่ยหมีเข้ามาใหม่ๆ ก็ไม่ได้รู้รอบด้าน แต่ที่ปรึกษาข้างกายต้องเก่ง 

เชลซีปลดมาหลายตำแหน่งแล้ว ปลดโค้ช ปลดทีมแพทย์ ปลดทีมกายภาพ บางทีอาจถึงเวลาต้องปลดผู้อำนวยการกีฬาบ้างเสียที

- Petr Boat -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline