logo-heading

ชื่อของ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ก่อนหน้านี้ต้องยอมรับเลยว่าคือกุนซือที่เนื้อหอมเอามากๆ ถูกจับไปเชื่อมโยงกับสโมสรใหญ่ๆ ในยุโรปอย่างมากมาย ทีมไหนมีกระแสจะแยกทางกับโค้ช ยังไงชื่อของนายใหญ่ชาวอิตาลีต้องเข้าไปพัวพันด้วยแน่นอน

ทว่ากับปัจจุบันสถานการณ์ดูจะต่างไปจากเดิม แม้ ณ ปัจจุบันเขาจะกลายเป็นกุนซือว่างงานหลังประกาศแยกทางกับ ไบรท์ตัน แบบช็อคแฟนบอลไปตามๆ กัน เพราะก่อนหน้านี้เขาเองก็ยืนยันหนักแน่นว่าต้องการอยู่กับทีมต่อไป

เพราะอะไร เด แซร์บี้ ถึงไม่ถูกรับเลือกในการดึงตัวไปคุมทีมตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ ซัมเมอร์นี้เขาเองจะเคว้งคว้างหรือไม่ ไปวิเคราะห์สาเหตุนี้กันครับ

ทีมอื่นได้กุนซือ (เกือบ) หมด

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า เด แซร์บี้ คือโค้ชหนุ่มที่ไฟแรงมีข่าวเชื่อมโยงกับหลายทีมทั้งในอังกฤษ รวมไปถึง อิตาลี กับ เยอรมัน ทว่าท้ายที่สุดพวกเหล่าทีมที่เคยมีกระแสหันเข้ามากันเริ่มได้โค้ชเป็นของตัวเองเรียบร้อยแล้ว

โฟกัสแค่ในพรีเมียร์ลีกกันก่อน ตั้งแต่ยังไม่ปิดซีซั่นหนึ่งในทีมที่มีข่าวด้วยคือ ลิเวอร์พูล แต่ไม่ได้มีน้ำหนักมากพอ และท่าทีของทัพ “หงส์แดง” ค่อนข้างชัดเจนคือตัวเลือกแรกๆ คือ ชาบี อลอน โซ่ แต่พอไม่ได้ ตัวเลือกถัดมาคือ อาร์เนอร์ สล็อต ในทันที ก่อนปิดดีลเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

ส่วนกับ เชลซี หนึ่งในทีมที่มีข่าวกันมาตลอดไม่ว่าผลงานของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ จะดีหรือร้าย จนกระทั่งถึงวันแยกทางชื่อของ เด แซร์บี้ ก็ยังเข้ามาในโผเป็นตัวเต็งเบอร์ 2-3 ให้ได้แฟนบอลได้ลุ้น ทว่าตอนนี้พวกเขากำลังจะไปลงตัวกับ เอ็นโซ่ มาเรสก้า รอเพียงการเปิดตัวเท่านั้น

หนึ่งในเหตุผลที่ไม่เอยกับ เชลซี จากการเปิดเผยคือ เด แซร์บี้ ต้องการเป็นผู้จัดการทีม ไม่ใช่แค่เพียงเฮดโค้ชที่คุ้มทีมซ้อม และวางแท็คติกเพียงเท่านั้น แต่อยากมีส่วนในการซื้อ-ขาย นักเตะภายในสโมสรด้วย

หรือกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ตอนนี้สถานะกุนซือของทีมอย่าง เอริค เทน ฮาก ยังคงคลุมเครือว่าจะไปกันต่อ หรือพอแค่นี้ แม้จะมีข่าวว่า เด แซร์บี้ คือหนึ่งในโค้ชที่เหล่าทีมบอร์ดบริหารเล็งเอาไว้ และมีการพูดคุยเบื้องต้นกันแล้ว แต่ถ้าดูจากทิศทางข่าวในช่วงที่ผ่านมา บวกกับร้านรับพนันแบบถูกกฎหมาย ไม่ได้มองนายใหญ่ชาวอิตาลีเป็นตัวเต็ง 4 คนแรกด้วยซ้ำ เพราะกระแสส่วนใหญ่ตอนนี้พุ่งตรงไปที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่, โธมัส แฟร้งค์, โธมัส ทูเคิ่ล หรือ แกเร็ธ เซาธ์เกต มากกว่า

จากตัวเต็งทุกทีม วันนี้ \"เด แซร์บี้\" จะไปคุมทีมไหน ?

ข้ามที่ลีกอื่นๆ กันบ้างเริ่มกันที่ บาเยิร์น มิวนิค ตอนแรกตามกระแสข่าวบอกว่านี่คือกุนซือที่ แม็ก เอเบิร์ล ผู้อำนวยการกีฬาของทัพ “เสือใต้” ชื่นชอบเป็นอย่างมาก จนช่วงหนึ่งขึ้นไปเป็นเต็งเบอร์ต้นๆ ในการกระโดดไปรับงานที่เยอรมัน

ทว่าหลังจากนั้นไม่นานกระแสข่าวเริ่มจาง ตัวละครใหม่อย่าง แวงซ็องต์ กอมปานี มาแรงแบบสุดๆ เรียกได้ว่าปาดทางโค้ง บวกกับการที่ คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ สมาชิกบอร์ดบริหารของ บาเยิร์น มิวนิค ออกมาบอกว่าหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทีมเลือกโค้ชชาวเบลเยี่ยม เพราะ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หนุนหลังเรื่องของฝีมือ

โดย รุมเมนิกเก้ กล่าวไว้ว่า “เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ช่วยเราในเรื่องของ กอมปานี ด้วย เขายกย่องในฐานะโค้ชที่มีพรสวรรค์อย่างมาก เป๊ป รู้จัก กอมปานี เป็นอย่างดี และความคิดเห็นของเขาก็ได้รับการชื่นชมเป็นอย่างมาก”

ซึ่งนี่แหละครับที่มาของ กอมปานี ที่เปิดตัวเป็นนายใหญ่คนใหม่ของ บาเยิร์น เป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว

ปิดท้ายที่อีกทีมอย่าง เอซี มิลาน ที่ถูกเชื่อมโยงเข้าหากันเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา เพราะทีมจะแยกทางกับ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ และกำลังมองหากุนซือคนใหม่เข้ามาแทนที่

ซึ่งในลิสต์ของทัพ “ปีศาจแดง-ดำ” มีชื่อของ เด แซร์บี้ รวมอยู่ด้วย แต่ไม่ได้มีความคืบหน้ามากนัก ก่อนที่บทสรุปตอนนี้ มิลาน กำลังจะได้ เปาโล ฟอนเซก้า มากุมบังเหียนในซีซั่นหน้าแทน

เท่ากับว่า 5 ทีมที่ เด แซร์บี้ ตกเป็นข่าวด้วยมีถึง 2 ทีมได้กุนซือใหม่อย่างเป็นทางการ อีก 2 ก็ดีลสำเร็จลุล่วงรอเปิดตัวเพียงเท่านั้น เหลือเพียง 1 อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ยังคาราคาซังไม่รู้จะออกไปในมุมไหน แต่ เด แซร์บี้ กลายเป็นตัวเต็งที่เริ่มถอยห่างไปเรื่อยๆ

จากตัวเต็งทุกทีม วันนี้ \"เด แซร์บี้\" จะไปคุมทีมไหน ?

ผิดจังหวะที่ชิงออกจาก ไบรท์ตัน

ย้อนกลับไปช่วงที่ เด แซร์บี่ ประกาศลาออกจากตำแหน่งกุนซือ ไบรท์ตัน เชื่อว่าหลายๆ คนคงคิดไปว่าเจ้าตัวต้องไปรับงานคุมทีมที่ใหญ่กว่าตามข่าวที่ปรากฎตามหน้าสื่อ เพราะด้วยสถานการณ์ในตอนนั้นหลายๆ ทีมต่างจ้องตาเป็นมันอยากได้เพื่อไปวางรากฐาน และคุมทีมเพื่อสร้างความสำเร็จ

ทว่าหลังจากนั้นเหมือน เด แซร์บี้ เองเลือกเวลาผิดไปในการกระโดดออกจากทัพ “นกนางนวล” จนตอนนี้ไม่น่าเชื่อว่าโอกาสที่เขาจะว่างงานในซัมเมอร์นี้ค่อนข้างสูง

แน่นอนสถานการณ์ในตอนนี้ของเขาค่อนข้างยากลำบากในการหาต้นสังกัดใหม่ เพราะเหล่าทีมที่กล่าวมาข้างต้นเริ่มได้กุนซือไปครอบครองกันหมดแล้ว

และถ้ามามองหาทีมที่กำลังหาโค้ชคนใหม่อยู่ในตอนนี้ และเป็นเหล่าบิ๊กทีมชื่อของ เด แซร์บี้ เหมือนตกจากลิสต์เป็นที่เรียบร้อย หรือถ้ามองหาสโมสรที่เกรดอาจลดลงมาหน่อยขนาดกลางๆ ก็ไม่ได้เชื่อมโยงหาเขาเลยสักนิด

เลสเตอร์ ซิตี้ กระแสล่าสุดมุ่งไปที่ รุด ฟาน นิสเตลรอย แรงพอสมควร หรือจะเป็น สตีฟ คูเปอร์ กับ การ์โลส กอร์เบรัน แถม เด แซร์บี้ ไม่ได้อยู่ในลิสต์ที่เหล่าร้านรับพนันแบบถูกกฎหมายมองว่าจะได้งานนี้ด้วย

หรือถ้านอกเกาะอังกฤษไม่มีทีมไหนเลยที่กำลังเคลื่อนไหวหากุนซือคนใหม่ และ เด แซร์บี้ ตกเป็นเป้าหมายของพวกเขาเลย

รอเสียบแทน เป๊ป

จากข่าวก่อนหน้านี้ที่มีกระแสว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะโบกมือลา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงซัมเมอร์ 2025 ฉะนั้นชื่อของ เด แซร์บี้ ย่อมตกเป็นตัวเต็งลำดับต้นๆ เพราะนี่คือกุนซือที่ เป๊ป เคยออกปากชื่นชม และตัวโค้ชชาวอิตาลีก็ชอบสไตล์ฟุตบอลของนายใหญ่รายนี้

สิ่งที่ เป๊ป เคยกล่าวถึง เด แซร์บี้ คือ “เด แซร์บี้ คือหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ทรงอิทธิพลที่สุดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ผมมีความรู้สึกว่า เขาเข้ามามีอิมแพคต่อเกมในพรีเมียร์ลีก ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก ผมไม่คิดเลยว่า เขาสามารถทำได้แบบนี้ภายในระยะเวลาอันสั้น”

เมื่อเป็นเช่นนี้โอกาสที่ เด แซร์บี้ จะเข้ามารับไม้ต่อจาก เป๊ป ก็มีค่อนข้างสูง แต่กระนั้นทางฝั่งบอร์ดบริหารของ แมนฯ ซิตี้ คงไม่ยอมปล่อยกุนซือที่พาทีมประสบความสำเร็จออกไปจากสโมสรแบบง่ายๆ

เพราะมันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่อาจส่งผลกระทบชิ่งไปในหลายๆ ทาง และตัวของ เด แซร์บี้ ว่ากันตามตรงโปรไฟล์ยังไม่ได้เลิศหรู หรือประสบความสำเร็จกับแชมป์เมเจอร์ในระดับกุนซือมาเลย

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้คงต้องตามกันต่อไปทั้ง เป๊ป จะอยู่ต่อไหม หรือถ้าไปจริงๆ เด แซร์บี้ จะเป็นตัวแทนที่ใช่สำหรับพวกเขาหรือไม่

แต่ที่แน่ๆ ถ้า เด แซร์บี้ จะมาเสียบแทน เป๊ป ก็ต้องรออย่างน้อยๆ คือ 1 ปี ในวงเล็บที่ว่าเป็นขั้นต่ำ เพราะอนาคตอาจเกิดอะไรขึ้นก็เป็นได้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline