logo-heading

หลังเกม ! ราชันชุดขาว เถลิงบรรลังค์ UCL สมัยที่ 15 คว้าชัยเหนือ เสือเหลือง 2-0

[ ดอร์ทมุนด์ มาดีกว่าที่คิด ]

สำหรับรูปเกมในครึ่งแรกต้องบอกว่า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ออกสตาร์ทมาได้ดีทีเดียว ต้องชมกุนซือของ ทัพเสือเหลือง เอดิน แทร์ซิซ เลยครับที่วันนี้ทำการบ้านมาดีมากๆ วางหมากในการมาต่อกรกับโคตรทีมอย่าง เรอัล มาดริด ได้เป็นอย่างดี เน้นแพ็คเกมรับแน่น ตั้งโซนในแดนตัวเอง และรอโต้กลับเร็ว

ซึ่งจังหวะเล่นโต้กลับของ ดอร์ทมุนด์ เกือบสร้างความบรรลัยให้ มาดริด อยู่หลายครั้ง ด้วยการแทงช่องให้กับปีกตัวจี๊ดอย่าง คาริม อเดเยมี่ หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ได้ถึงสองครั้งแต่ด้วยความเฉียบขาด และความยอดเยี่ยมของ นายด่านชาวเบลเยี่ยม ทำให้ ทัพเสือเหลือง ไม่สามารถชิงความได้เปรียบขึ้นำไปก่อนได้

ไหนจะจังหวะยิงจ่อๆของ นิคลาส ฟูลล์ครุก ที่แม้จะผ่านมือของ กูร์กตัวส์ ไปแล้ว แต่ฟุตบอลเจ้ากรรมกลับเด้งไปชนเสาซะอย่างนั้น

ส่วนทางฝั่ง เรอัล มาดริด ต้องบอกว่ารูปเกมในครึ่งแรกเล่นไม่เอาอ่าวอะไรเลย แผงผู้เล่นตัวรุกอย่าง โรดรี้โก้, จู๊ด เบลลิงแฮม เรียกได้ว่าแทบจะถูกตัดออกจากเกม ไม่สามารถสร้างความหนักใจให้กับแนวรับของ ดอร์ทมุนด์ ได้เลยแม้แต่น้อย จะมีเพียงแค่ วินิซิอุส เท่านั้นที่พอจะทำอะเป็นชิ้นเป็นอันไรได้บ้าง

หากเรามาดูค่า xG ของทั้งสองทีมเป็นทางฝั่ง ดอร์ทมุนด์ ที่มีค่าดังกล่าวสูงถึง 1.68 ขณะที่ เรอัล มาดริด มีค่า xG อยู่ที่ 0.09 เท่านั้น 
 

 

[ บัพตี 3 ]

พอเริ่มเข้าสู่ช่วงครึ่งเวลาหลังซึ่งตรงกับเวลาตีสามของบ้านเราพอดี หากใครลองสังเกตุดูหลายๆเกมของ เรอัล มาดริด ในช่วงครึ่งแรกมักจะดูเนื่อยๆเนิบๆ แต่พอเข้าสู่ครึ่งหลังเหมือนได้พลังบัพตีสามมา และผลสุดท้ายก็ลงเอยแบบเดิมตลอด

แต่หากเราลองเจาะลึกในศาสตร์ของฟุตบอลต้องยอมรับว่า คาร์โล่ อันเชล็อตติ แก้เกมมาได้แบบเนียนกริบ ในครึ่งแรก เรอัล มาดริด จะมายืนในระบบการเล่น 4-3-1-2 ซึ่งปรากฏว่ามันไม่ได้ผล เพราะ ดอร์ทมุนด์ มารับแน่นในพื้นที่ตรงกลาง พอเห็นแบบนั้นแล้วในครึ่งหลัง อันเช่ ก็เลยปรับมาใช้แผน 4-3-3 ให้ จู๊ด ลงไปเล่นเป็นศูนย์หน้า และถ่าง โรดริโก้ และ วินิซอุส ออกมายืนปีก

และการแก้เกมของ อันช่ มันกลับได้ผลตั้งแต่ วินาที แรกของครึ่งหลัง มาดริด เริ่มมีจังหวะสับไกอยู่หลายครั้ง ปีกอย่าง วินิซิอุส แผลงฤทธิ์จู่โจมแผงหลังของ ดอร์ทมุนด์ ได้แทบทุกครั้งที่สัมผัสบอล

สุดท้าย ทัพเสือเหลือ ก็ต้านไม่ไหวมาโดนลูกโขกจาก ดานี่ การ์บาฆาล ในน. 74 หลังจากโดนลูกแรก ดอร์ทมุนด์ ก็เหมือนทำอะไรไม่ถูกระส่ำไปทั่วทุกแดน นักเตะหลายคนจ่ายผิดจ่ายถูก ท้ายที่สุดก็เป็น วินิซิอุส จูเนียร์ มาทำประตูปิดกล่องเป็น 2-0 จากจังหวะจ่ายบอลผิดพลาดของ เอียน มาตเซ่น แบ็คซ้ายของ 

[ แมตซ์อำลาของ 2 ตำนาน ]

อย่างที่เราทราบกันดีนะครับว่า แมตซ์นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้นส์ลีก จะเป็นเกมอำลาของ 2 ดาวเตะทีมชาติเยอรมันอย่าง มาร์โค รอยส์ ที่ประกาศอำลา ดอร์ทุมนด์ หลังจบฤดูกาลนี้ หลังรับใช้สโมสรมาอย่างยาวนานถึง 12 ปีเต็ม และ โทนี่ โครส กองกลางของ เรอัล มาดริด ที่ประกาศแขวนสตั๊ดหลังจบศึก ยูโร 2024

แน่นอนว่าจะต้องมีหนึ่งคนที่ต้องผิดหวัง เพราะโลกฟุตบอลมันก็โหดร้ายแบบนี้แหละครับ ผู้ชนะจะมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น ส่วนอีกคนจะต้องจากลาทั้งน้ำตา

ผลสุดท้ายก็เป็นพระรองอย่าง มาร์โค รอยส์ ที่ต้องเป็นผู้ถูกเลือกให้ผิดหวังอีกครั้ง เป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนใจให้กับเหล่าสาวก เสือเหลือง ไม่น้อย เพราะพวกเขาต้องจากลากับตำนานของทีมด้วยการเป็นพระรองอีกครั้ง

ส่วน โทนี่ โครส จบลงด้วยการคว้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นสมัยที่ 6 ของตัวเอง และเป็นสมัยที่ 15 ของสโมสร แถมในเกมยังทำได้ 1 แอสซิสต์ เรียกได้ว่าปิดฉากตำนาน 10 ปี กับ ทัพราชันชุดขาว ได้อย่างยิ่งใหญ่จริงๆ

-บีเบลล์ กูนเนอร์-
 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline