logo-heading

หลังจบซีซั่นนี้ รอยส์ จะโบกมือลาทัพ “เสือเหลือง” อย่างเป็นทางการ ปิดฉาก 12 ปีเต็มกับสโมสรแห่งนี้ที่เขารักมากที่สุด และเปรียบเสมือนรักแรกของเขากับทีมฟุตบอลที่ชื่นชอบ จนได้เดินตามเส้นทางความฝันของตัวเอง

ย้อนกลับไปตอน รอยส์ อายุเพียง 5 ขวบ เจ้าตัวได้เข้าร่วมอะคาเดมี่สโมสร Post SV Dortmund จากนั้นอีก 2 ปี ได้ย้ายไปอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ ทีมรักของเขาสมใจอยาก ก่อนอยู่ร่วมกับทีมนานถึง 10 ปี 

ทว่าในช่วงปี 2006 รอยส์ ถูกประเมินว่าร่างกายผอมเกินไป และไม่น่าพัฒนาไปได้มากกว่านี้ จนเป็นที่มาของการแยกทาง แน่นอนว่านั้นคือความผิดหวังแรกของเขาที่ต้องเผชิญ การต้องแยกทางกับทีมรักย่อมเป็นอะไรที่ทำใจได้ยาก

หลังจากนั้นเจ้าตัวจะย้ายไปร่วททัพ ร็อต ไวส์ อาห์เล่น ก่อนกลายเป็นตัวหลักลงเล่นในลีกรองจนผลงานไปเข้าตา โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ดึงไปร่วมทีมเมื่อปี 2009 พร้อมทำผลงานได้อย่างเฉิดฉายทั้งพาทีมรอดตกชั้น ก่อนไปลุยบอลยุโรปได้สำเร็จ

จนกระทั่งช่วงเวลาที่ รอยส์ รอคอยก็วนกลับมาถึงเมื่อ ดอร์ทมุนด์ ยื่นข้อเสนอเข้ามา เขาเองไม่ต้องใช้เวลาอะไรมากมายกับความคิดนั้น ก่อนเลือกกลับบ้านเก่าสโมสรที่เขารัก สโมสรที่เขาอยากร่วมเล่นด้วยมากที่สุดในโลกแล้ว

มาร์โก รอยส์ : ชายผู้ถูกเลือกผิดหวัง จนถึงวันสุดท้าย

จากนั้นคือการขีดเขียนเส้นทางของตำนาน แต่มันกลายเป็นการเต็มไปด้วยร่องรอยของน้ำตา รอยส์ ไม่เคยได้สัมผัสแชมป์บุนเดสลีกาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไปได้ไกลสุดคือการจบอันดับ 2 ถึง 7 ครั้ง ห้วงเวลาที่เจ็บปวดที่สุดน่าจะเมื่อ 2 ซีซั่นก่อนที่พลาดท่าในวันสุดท้าย

หรือในรายการ แชมเปี้ยนส์ลีก เขามีโอกาสเอื้อมมือไปสัมผัสโทรฟี่นี้ถึง 2 ครั้ง แต่มันลงเอยด้วยความผิดหวังทั้งหมด รองแชมป์เมื่อปี 2013 แพ้ บาเยิร์น 1-2 และล่าสุดพ่าย เรอัล มาดริด 0-2 กลายเป็นฉากจบไม่สมบูรณ์แบบเอาเสียเลย

แม้ในเรื่องความสำเร็จ รอยส์ อาจไม่ได้กอบโกยมากนักกับ ดอร์ทมุนด์ มีเพียงแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล 2 สมัย กับ ซูเปอร์ คัพ 3 ครั้ง แต่สิ่งที่เขาแสดงออกมากับสโมสรแห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวชวนหลงรัก

รอยส์ มีโอกาสย้ายออกจาก ดอร์ทมุนด์​ หลายครั้งมากๆ นะครับ แต่ทุกครั้งเขาเลือกที่จะปฏิเสธ แม้จะมีโอกาสประสบความสำเร็จ และได้ค่าเหนื่อยที่สูงมากกว่าเดิม

อย่างในปี 2012 ที่ ดอร์ทมุนด์ ไปดึงตัวเขากลับมา ก็มี บาเยิร์น มิวนิค ยื่นข้อเสนอมาให้ พร้อมส่ง จุ๊ปป์ ไฮย์เกส มาพูดกล่อม แต่ใจของ รอยส์ ได้เลือก ดอร์ทมุนด์ ไปแล้ว 

ปี 2014 เปแอสเช อยากได้ตัวไปร่วมทีม แต่ รอยส์ ตอบปฏิเสธ แม้ในอีก 1 ให้หลังจะกลับมาใหม่ด้วยค่าเหนื่อยที่สูงกว่าเดิม ทว่าก็ไม่อาจเปลี่ยนใจ รอยส์ ได้ 

ปี 2015 เรอัล มาดริด แสดงความสนใจ แต่ รอยส์ เลือกปฏิเสธเช่นกัน รวมไปถึง บาร์เซโลน่า เคยส่งตัวแทนสโมสรมาพูดคุยแต่ก็ไม่ได้ผล 

ปี 2018 แมนฯ ซิตี้ ยื่นข้อเสนอ บวกค่าเหนื่อยก้อนโตมาให้ แต่ รอยส์ ยืนยันคำเดิม ดอร์ทมุนด์ คือสโมสรที่เขาต้องการอยู่ด้วย

มาร์โก รอยส์ : ชายผู้ถูกเลือกผิดหวัง จนถึงวันสุดท้าย

หนึ่งในคำพูดที่ยืนยันความเป็นตัวตนว่า รอยส์ คือ ดอร์ทมุนด์ ได้เป็นอย่างดีคือตั้งแต่วันแรกที่เขาย้ายกลับมายังบ้านหลังเดิม

“ดอร์ทมุนด์ คือบ้านของผม, ดอร์ทมุนด์ คือสโมสรของผม”

ถ้วยรางวัลอาจจะไม่ได้เยอะมากมาย แต่ความจงรักภักดีของเขามันมีมูลค่ามากกว่านั้นอย่างมหาศาล

จากเด็กน้อยผอมบางในวันนั้น เขากลายเป็นกัปตันทีมผู้ยิ่งใหญ่แห่ง ดอร์ทมุนด์ ในแบบฉบับของตัวเอง ทุ่มเททุกอย่างเพื่อสโมสรทั้งใน และนอกสนาม หรือในวันที่เขารู้ตัวเองว่าไม่ใช่กำลังสำคัญของทีม ก็พร้อมมอบปลอกแขนแห่งผู้นำให้รุ่นน้อง ไม่ได้คิดว่าตัวเองต้องมาก่อน แต่ทำเพื่อทีม ไม่ใช่เพื่อตัวเองเพียงอย่างเดียว

รอยส์ กลายเป็นดาวซัลโวตลอดกาลอันดับ 2 ของ ดอร์ทมุนด์ ที่จำนวน 170 ประตู ทั้งที่ตำแหน่งของเขาไม่ใช่กองหน้า

รอยส์ อุทิศตนเพื่อการกุศล ช่วยเหลือผู้คนมามากทั้งเด็กที่ด้อยโอกาส, สนับสนุนเงินช่วยเหลือเด็กที่ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว, บริจาคเงินส่วนนึงจากแบรนด์ตัวเองให้กับองค์กรการกุศล หรือในช่วงโควิดครองโลก เขายังได้บริจาคเงินจำนวน 500,000 ยูโร ให้กับธุรกิจขนาดเล็กที่กำลังประสบปัญหา

แน่นอนว่าทุกลมหายใจของ รอยส์ เขาทำเพื่อสโมสร ไม่แปลกที่แฟนบอลอยากจะส่งเสียงเชียร์ให้เขาประสบความสำเร็จ บางคนอาจไม่ได้เชียร์ ดอร์มมุนด์ แต่เชียร์อยากเห็น รอยส์ ฉีกยิ้มกว้างๆ อีกครั้ง

แต่ก็นั่นแหละครับบางอย่างเราเลือกมันไม่ได้ ฉากจบที่เห็น รอยส์ ตาแดงก่ำ ทรุดลงไปนั่งกับพื้นหญ้า หรือ จ้องมองเหรียญรองแชมป์มันบีบหัวใจแฟนบอล ดอร์ทมุนด์ หรือแฟนคลับมากเหลือเกิน

ชายผู้ถูกเลือกให้ผิดหวังตั้งแต่ตอนเด็กที่ถูกคัดออกจาก ดอร์ทมุนด์ ผิดหวังจนกระทั่งวันสุดท้ายของเขากับสโมสรแห่งนี้ บทชีวิตของเขามันช่างดูใจร้ายมากจริงๆ

ณ ตอนนี้ไม่รู้ว่าอนาคตของ รอยส์ จะไปอยู่กับทีมไหน ลีกอะไร แต่ถ้าขออะไรได้สักอย่างคงอยากเห็นเขาประสบความสำเร็จอีกครั้งในช่วงปลายอาชีพการค้าแข้ง

ฉากจบที่สะเทือนใจไม่น้อย หวังว่า รอยส์ จะได้สิ่งที่เขาปรารถนาในเรื่องของความสำเร็จบ้าง

โชคดีในเส้นทางต่อไปนะ เจ้าชายแห่งเสือเหลือง

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline