logo-heading

5 ขุนพลหน้าใหม่ของ เยอรมัน ลุ้นพาทีมไปไกลถึงแชมป์

ศึก ยูโร 2024 รอบแบ่งกลุ่มได้จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว "ทัพอินทรีย์เหล็ก" ภายใต้การคุมทัพของ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เดินหน้าคว้าชัย 2 นัดแรก และเสมอเกมสุดท้ายแบเฉียดฉิว แต่ท้ายที่สุดถือว่าทำผลงานได้ตามเป้า การันตีเข้ารอบ 16 ทีมต่อไปด้วยตำแหน่งแชมป์กลุ่ม เอ

หากไปดูที่ตัวผู้เล่นแล้ว ต้องบอกว่ามีนักเตะหน้าใหม่ที่เพิ่งติดธงมาได้ไม่นานอยู่หลายรายเลยทีเดียว แต่กลับทำผลงานได้ดีเกินคาด

ว่าแล้ววันนี้ ขอบสนาม จะพาไปทำความรู้จักกับ 5 ขุนพลหน้าใหม่ของ ทีมชาติเยอรมัน ที่ลุ้นพาทีมไปไกลถึงตำแหน่งแชมป์ จะมีใครกันบ้างไปรับชมกันครับ

[ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ]

รายแรกที่ต้องพูดถึงคงหนีไม่พ้น ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ มิดฟิลด์ตัวรุกวัย 21 ปีจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับต้นสังกัด กระหน่ำไปถึง 18 ประตูกับอีก 20 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 49 นัดรวมทุกรายการ พาทัพห้างยา คว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

พร้อมกับคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของบุนเดสลีกาได้แบบไม่มีพลิกโผ ด้วยฟอร์มอันโดดเด่นเช่นนี้ทำให้ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากจะเรียกตัวกลับมาติดทีมชาติอีกครั้งนับตั้งแต่ปี 2021

ทว่าการติดธงครั้งนี้ของ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ไม่ได้อยู่ในบทบาทตัวสำรองเหมือนครั้งที่ผ่านมา แต่มารับบทบาทผู้เล่นในตำแหน่งเพลเมกเกอร์ตัวสำคัญของทีม พร้อมกับผลงาน 1 ประตู จากการลงสนาม 3 เกม ในศึก ยูโร 2024 อีกทั้งยังเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในทัวร์นาเมนต์ทีมชาติอีกด้วย


 

[ จามาล มูเซียล่า ]

รายต่อมา จามาล มูเซียล่า แข้งวัย 21 ปีของ บาเยิร์น มิวนิค นักเตะที่ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในแข้งพรสวรรค์สูงที่สุดของฟุตบอลเยอรมันในช่วงขวบปีที่ผ่านมา

แม้ว่าผลงานโดยรวมของ บาเยิร์น มิวนิค จะไปไม่ถึงฝั่งฝัน แต่ผลงานส่วนตัวของ มูเซียล่า ยังถือว่าโดดเด่นเช่นเดิม ทำไป 12 ประตูกับอีก 8 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 38 นัดรวมทุกรายการ

ทางด้านกับทีมชาติ มูเซียล่า มีชื่อติดธงอินทรีย์เหล็ก ตั้งแต่ฤดูกาล 2021 แถมยังมีโอกาสได้ไปโลดแล่นในศึก ฟุตบอลโลก 2022 ด้วยวัยเพียง 19 ปีเท่านั้น แถมยังยึดตำแหน่งตัวจริงได้อีกด้วย

แน่นอนว่าในศึก ยูโร 2024 มูเซียล่า เป็นหนึ่งในตัวความหวังของ ทีมชาติเยอรมันชุดนี้ และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง โชว์ฟอร์มโดดเด่นทุกนัดที่ลงสนาม คว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตซ์ เกมแรกที่พบกับ สกอตแลนด์ พร้อมกับผลงาน 2 ประตูจาก 3 เกมที่ลงสนาม ควบตำแหน่งดาวซัลโวร่วมกับ จอร์จส์ มิเคาตัดเซ่ ของ จอร์เจีย และ อีวาน ชรานซ์ ของ สโลวาเกีย

[ โรเบิร์ต อันดริช ]

โรเบิร์ต อันดริช มิดฟิลด์ตัวรับวัย 29 ปีของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แม้วัยจะล่วงเลยเข้าใกล้เลขสามแล้ว แต่เจ้าตัวเพิ่งติดทีมชาติได้เพียง 7 นัดเท่านั้น 

อันดริช เป็นหนึ่งในขุนพลที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ เลเวอร์คูเซ่น มีทีเด็ดในเรื่องของการเติมขึ้นมาทำประตู โดย 3 จาก 6 ลูกที่พี่แกทำได้ในฤดูกาลนี้ คือการขึ้นมายิงประตูชัย มีส่วนสำคัญช่วยให้ เลเวอร์คูเซ่น คว้าแชมป์แบบไร้พ่ายมาครองได้สำเร็จ

ทางด้านกับ ทีมชาติเยอรมัน อันดริช ถูกรับมอบหมายให้ทำหน้าที่ลูกหาบในแผงมิดฟิลด์ คอยไล่เก็บกวาด และสกรีนก่อนบอลมาถึงแผงกองหลัง แม้ว่าจะดูไม่โดดเด่นเหมือนนักเตะรายอื่นๆ แต่ความสำคัญของเจ้าตัวก็มีไม่น้อยไปกว่านักเตะคนอื่นเช่นเดียวกัน

[ มักซิมิเลี่ยน มิตเตลสตัดท์ ]

มักซิมิเลี่ยน มิตเตลสตัดท์ อีกหนึ่งในผู้เล่นหน้าใหม่ของ ทีมชาติเยอรมัน ชุดนี้ เจ้าตัวทำผลงานให้กับต้นสังกัดอย่าง สตุ๊ดการ์ท ได้อย่างยอดเยี่ยมในตำแหน่งแบ็คซ้าย ด้วยผลงาน 2 ประตู 5 แอสซิสต์ จากการลงสนามทั้งหมด 34 นัดรวมทุกรายการ อีกทั้งยังพาทีมจบอันดับท็อปโฟร์ คว้าตั๋วไปลุย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าแบบโคตรเซอร์ไพรส์

ในช่วงที่ผ่านมา ทัพอินทรีย์เหล็ก นอกจากตำแหน่งศูนย์หน้าที่เป็นปัญหาแล้ว ตำแหน่งแบ็คซ้ายก็เป็นอีกหนึ่งจุดบอดของทีมเช่นเดียวกัน เพราะนับตั้งแต่หมดยุคของ ฟิลิปป์ ลาห์ม ก็ไม่สามารถหาใครมาแทนที่ในตำแหน่งนี้ได้อีกเลย

จนเวลาได้ล่วงเลยมาจนถึง ยูโร 2024 ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ตัดสินใจเรียก มิตเตลสตัดท์ มาติดทีมชาติเป็นครั้งแรกในวัย 27 ปี พร้อมตอบแทนความไว้วางใจด้วยผลงานสุดไฉไล ทำได้ 1 แอสซิสต์ ตลอดการเป็นตัวจริงทั้ง 3 นัด แถมมีค่าเรตติ้งเฉลี่ยสูงถึง 7.47 นับว่าสูงทีเดียวในตำแหน่งแบ็คซ้าย

[ โจนาธาน ทาห์ ]

คนสุดท้าย โจนาธาน ทาห์ ประการหลังวัย 28 ปี อีกหนึ่งนักเตะที่ เลเวอร์คูเซ่น ส่งเข้าประกวด โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยติดทีมชาติเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2016 ในฐานะนักเตะดาวรุ่ง ภายใต้การคุมทัพของ ยัวคิม เลิฟ

แต่ ณ ตอนนั้น ทาห์ ก็หนักไปที่เป็นตัวสำรองเสียส่วนใหญ่ แต่ก็มีบางนัดที่เจ้าตัวได้มีโอกาสทรอดแทรกเป็นตัวจริงอยู่บ้าง แต่หลังที่ ทาห์ ได้รับบาดเจ็บอยู่เป็นระยะ ส่งผลให้ฟอร์มการเล่นของพี่แกตกลงไปอย่างน่าใจหาย จากนักเตะดาวรุ่งที่น่าจับตามองของวงการฟุตบอลเยอรมัน กลับกลายเป็นนักเตะฝีเท้าดาดๆธรรมดาทั่วไป

กระทั่งเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เลเวอร์คูเซ่น ภายใต้การคุมทัพของคุณชาย ชาบี อลอนโซ่ เขาได้ยกระดับ โจนาธาน ทาห์ ให้กลับมาอยู่ในฟอร์มการเล่นในแบบที่ควรจะเป็นอีกครั้ง ทาห์ คือหนึ่งในประการหลังคนสำคัญของทัพห้างยา ช่วยให้ทีมเสียประตูเพียง 24 ลูกเท่านั้น 

ส่วนผลงานของ ทาห์ ในศึก ยูโร 2024 นาเกลส์มันน์ ได้เลือกให้เขายึดตำแหน่งเป็น 11 ตัวจริงทั้ง 3 นัด และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม มีส่วนช่วยให้ทีมผ่านเข้ารอบต่อไปโดยเสียไปเพียง 2 ประตูเท่านั้น

แต่น่าเสียดายที่ โจนาธาน ทาห์ จะไม่ได้ลงสนามให้กับทีมในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเนื่องจากติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบ 2 ใบ

คงต้องมาตามดูกันต่อครับว่านักเตะเหล่านี้จะช่วยให้ ทัพอินทรีย์เหล็ก ไปถึงฝั่งฝันด้วยการเป็นแชมป์ ยูโร 2024 ในฐานะเจ้าภาพได้หรือไม่ 

-บีเบลล์ กูนเนอร์-
 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline