มีไม่กี่ครั้งที่หลังจบทัวร์นาเม้นท์ชิงแชมป์อาเซียน ด้วยการเป็นรองแชมป์ของทีมชาติไทย ไม่ว่าจะชุดไหน จะได้รับคำชื่นชม และทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เด็กชุดนี้สุดยอด ใจสู้ ดูดีมีอนาคต ที่พูดถึงก็คือ "ทีมชาติไทย ยู17" ที่เพิ่งจะคว้ารองแชมป์ศึกชิงแชมป์อาเซียน 2024 หลังพ่ายจุดโทษ ออสเตรเลีย ในรอบชิงชนะเลิศ
หลายคนที่ได้ชมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ศึก ยู16 ชิงแชมป์อาเซียน ระหว่าง ไทย กับ ออสเตรเลีย เมื่อคืนนี้ (3 ก.ค.67) ก็คงจะมีความรู้สึกเหมือนๆ กัน คือรู้สึกประทับใจกับผลงานของน้องๆ นักเตะชุดนี้
ยิ่งถ้าใครที่ติดตามมาตั้งแต่เกมแรกๆ ในรอบแบ่งกลุ่ม ก็จะยิ่งเห็นพัฒนาการของเด็กชุดนี้ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เกมแรกนัดเปิดสนามกับออสเตรเลีย จบด้วยการเสมอกัน 0-0 มีหลายคนวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องวิธีการเล่นของน้องๆ อย่างเช่นทำไมเลี้ยงเยอะจัง ทำไมไม่ส่ง นักบอลชายเดี่ยว อะไรทำนองนี้
โอเคส่วนนึงก็เข้าใจแฟนบอล ที่อยากเห็นทีมชาติไทยเล่นได้สวยงาม ไร้ที่ติ แต่อย่าลืมว่า นี่มันเด็กอายุ 15-16 ปีเอง แล้วเป็นเกมแรก เจอกับเต็งหนึ่งอย่างออสเตรเลีย การที่เสมอได้ 0-0 ทั้งที่เกือบแพ้จากการโดนลูกโทษ แต่เรารอดมาได้ ผมว่ามันน่าพอใจมากๆ แล้ว
แต่ก็อาจจะมีเสียวเล็กน้อยในเกมนัดสุดท้ายรอบแรกกับมาเลเซีย ที่ถือเป็นเกมชี้ชะตาเข้ารอบตัดเชือก เราเกือบจะตกรอบไปแล้วเพราะยิงไม่ถึงเป้า แต่สุดท้ายสิ่งที่เราเห็นจากเด็กชุดนี้ คือความใจสู้ จนถึงนาทีสุดท้าย แล้วก็มาประสบความสำเร็จ ชนะไป 3-1 ดีพอที่จะเข้ารอบเป็นอันดับ 2 ที่ดีที่สุด
รอบรองชนะเลิศเราต้องมาตัดกับเวียดนาม คู่รักคู่แค้นตลอดกาลของทีมชาติไทยทุกชุด ก็เป็นอีกเกมที่อึดอัด เกือบจะต้องไปยิงจุดโทษตัดสิน หลังเสมอกันอยู่ 1-1 จนมาถึงช่วงทดเจ็บเราก้มาได้ประตูชัยเฉือนชนะไปอย่างฉิวเฉียด 2-1 ได้ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับออสเตรเลีย
มาถึงรอบชิงกับทีมจิงโจ้ ที่ได้มารีแมตช์กันอีกครั้ง ตามชื่อชั้นเราดูเป็นรองอยู่แล้ว ไหนจะเรื่องสรีระร่างกายอีก ที่กัปตันทีมของเขาสูง 2 เมตรกว่า อย่างกับเตะกับผู้ใหญ่ อีกทั้งในทีมออสซี่ก็มีนักเตะที่ลงเล่นระดับเอลีก ออสเตรเลีย มาแล้วด้วยหลายคน ดูจะเป็นรองไปหมด
แต่เราก็เห็นกันมาแล้วในนัดแรกว่าทีมชาติไทยสู้ได้ และสปีดบอลมันก็ไม่ได้เป็นรองขนาดนั้น ยิ่งรูปร่างพอลงไปเล่น ออสซี่ก็ไม่ได้เปรียบอะไรเรามาก ยิ่งความใจสู้ บอกเลยว่าเรากินขาด
รูปเกมที่ออกมาเราเล่นกันได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งเกมรับและเกมรุก แม้จะขาดความแน่นอนและเฉียบคมในจังหวะสุดท้ายไปบ้าง แต่ออสเตรเลีย เขาก็ไม่คมเหมือนกัน ทั้งสองทีมมีโอกาสพอๆ กันในเกมนี้ และอีกอย่างที่ต้องขอบคุณก็คือ VAR ที่ช่วยให้ไทยรอดจากการเสียจุดโทษครึ่งนึง และรอดพ้นจากการโดนนำ 2-1 ครั้งนึง ถ้าไม่มี VAR บอกเลย แพ้ไปตั้งแต่ 90 นาทีแล้ว
ผลการแข่งขันที่จบ 1-1 ถือว่ายุติธรรมสุดๆ ในเกมนี้ และทั้งคู่ก็ต้องมาตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ทุกอย่างมันก็ขึ้นอยู่กับหัวจิตหัวใจของนักเตะในเวลานั้น ซึ่งก็ยิ่งกันได้ดีเกือบถึง 10 คน แต่สุดท้ายเราก็มาพลาดท่าพ่ายไป ได้แค่รองแชมป์
ในส่วนของความเสียใจนั้น แน่นอนว่าน้องๆ ที่เพิ่งจะ 15-16 มันคงรู้สึกเจ็บปวดและเสียดายที่ไม่ได้แชมป์อาเซียนกลับไป แต่เดี๋ยววันเวลาผ่านไป น้องจะเข้าใจว่าแชมป์อาเซียนมันไม่ได้สำคัญเท่ากับผลงานและสิ่งที่น้องๆ ทำไว้ในรายการนี้
การแพ้เต็งแชมป์อย่างออสเตรเลีย และเป็นการแพ้จุดโทษ มันไม่มีอะไรต้องเสียใจเลย หลายคนมีการไล่ออสเตรเลียให้ไปเตะทวีปอื่น จริงๆ แล้วการที่ออสซี่มาเตะในอาเซียนแบบนี้ มันก็เป็นการยกระดับฟุตบอลอาเซียนของเราได้เยอะเลย
ลองคิดดูสมมติเราได้แชมป์ แต่ชนะเวียดนาม อินโดฯ หรือมาเลย์ มันก็เท่านั้น ผมว่าเราสู้กับออสเตรเลีย ได้ขนาดนี้ ถึงแพ้แต่มันก็ภูมิใจเหมือนกันนะ
เอาละสิ่งที่จะบอกก็คือศึกชิงแชมป์อาเซียน มันแค่ก้าวแรกเท่นนั้นเอง เด็กชุดนี่ยังมีทัวร์นาเม้นท์สำคัญรออยู่ นั่นคือศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่จะเตะกันในช่วงเดือนตุลาคม ที่จังหวัดชลบุรี เป้าหมายของเราก็คือต้องผ่านเข้ารอบไปเล่ยรอบสุดท้ายที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ในปี 2025 ให้ได้
เพื่อต่อยอดไปสู่เป้าหมายใหญ่นั่นคือการไป "ศึกฟุตบอล ยู17 ชิงแชมป์โลก" ที่ประเทศกาตาร์ ในปี 2025 เช่นกัน นี่สิคือของจริง
แต่แน่นอนว่าหนทางมันยังอีกยาวไกล และมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เอาเป็นว่าไปกันทีละก้าว เข้ารอบสุดท้ายชิงแชมป์เอเชียให้ได้ก่อน แล้วค่อยว่ามากันอีกที
แต่เท่าที่ดูเด็กชุดนี้ บอกเลยดูดี มีอนาคต บวกกับกุนซืออย่าง "เซอร์เด็จ" ที่หลายคนแซวตอนมารับงาน บอกเลยคนนี้เทพบอลเด็กตัวจริง!! ไว้มาเชียกันต่อ ตุลาคมนี้!!