logo-heading

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นที่เป็นเกมใหญ่ที่สุดของไทยในปีนี้ นั่นก็คือการพบกันของ "บีจี ปทุม ยูไนเต็ด" ดีกรีแชมป์ฟุตบอลรีโว่ คัพ ของไทย เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน ที่พกดีกรีรองแชมป์ยูซีแอล มาด้วย

บอกตามตรงว่าก่อนเกมผมคิดว่าเกมนี้ทีมจากเมืองเบียร์น่าจะเอาชนะทีมของไทยเราไปได้ อาจจะไม่ถึงกับถล่ม แต่ก้น่าจะดีพอที่จะเบียดเอาชนะไปได้อย่างน้อยๆ 2-0 หรือ 2-1 อะไรทำนองนั้น นี่คือความคิดที่อยู่ในหัวก่อนที่เกมดังกล่าวจะเริ่มขึ้น

ถามว่าทำไมผมถึงคิดเช่นนั้น เนื่องด้วยว่าทีมเยือนเองเป็นทีมระดับโลก แม้จะไม่ได้ขนชุดใหญ่แบบเต็มอัตราศึกมา เนื่องจากมีหลายคนที่เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจในศึกยูโร 2024 แต่ตัวที่เอามาก็ถือว่าตัวดังๆ ทั้งนั้น อีกทั้งวัดศักยภาพตัวจริงตัวสำรองของดอร์ทมุนด์ ยังไงก็น่าจะดีกว่านักเตะ บีจี อยู่แล้ว!!

บวกกับ บีจี ปทุมฯ เอง มีการเปลี่ยนแปลงทีมค่อนข้างเยอะ เพราะเสริมนักเตะใหม่เข้ามาถึง 16 คนในฤดูกาลนี้ ก็คิดว่าคงต้องใช้เวลาในการปรับจูนทีมพอสมควรระหว่างแข้งใหม่กับแข้งเก่า

เซอร์ไพรส์กับฟอร์ม \"บีจี\" เกมถล่ม \"ดอร์ทมุนด์\" 4-0 ทรงดี ตัวดี ปีนี้น่าลุ้น

แต่พอเกมเล่นไปได้สัก 10-15 นาที ก็เริ่มรู้สึกว่า เห้ย!! บีจี สู้ได้นี่หว่า ต่อบอลทำชิ่งกันสนุกสนาน แถมเกมรับก็เหนียวแน่น เกมโต้กลับก็เฉียบคม ก่อนจะมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จาก เมลวิน ลอเรนเซ่น กองหน้าคนใหม่สัญญชาติเดียวกับทีมผู้มาเยือนและก่อนจบครึ่งแรกก็มาได้ประตู 2-0 จาก "ธีรศิลป์ แดงดา"

ครึ่งหลังทั้งสองทีมมีการปรับทัพกันยกทีม ซึ่ง บีจี ปทุมฯ เอง ผู้เล่นชุดที่สองกับชุดแรกดูจะไม่ต่างกัน และสามารถเป็นตัวจริงชุดแรกได้ทั้งสองชุด อย่างในครครึ่งแรกตัวหลักมี สรานนท์, กฤษดา กาแมน, โกมิส, โนสึดะ, ชนาธิป, ธีรศิลป์, ศิวกรณ์ และ เมลวิน

พอครึ่งเปลี่ยนลงมายกชุดก็ยังมีนักเตะอย่าง บัลลินี่, สันติภาพ, อิรฟาน, เชาว์วัฒน์, เฟรดดี้, ซานตาน่า, ลาร์ส เฟลด์เวจ์ค และ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ คือทั้งสองชุดครึ่งแรกครึ่งหลัง สามารถเป็นตัวจริงได้ทั้งหมด 

ส่วนทีมดอร์ทมุนด์ คงจะไม่ได้ลงรายละเอียดเยอะ เพราะไม่ได้รู้จักตัวผู้เล่นขนาดนั้น แต่ครึ่งหลังก็เหมือนกับมีตัวหลักอย่าง เซบาสเตียน อัลแลร์ ลงมา บวกกับตัวสำรองและดาวรุ่ง ส่วนครึ่งแรกดูจะเป็นชุดเต็มหน่อยเพราะมีทั้ง ยูเลี่ยน บรันด์ท, คาริม อเดเยมี่ อะไรพวกนี้

เซอร์ไพรส์กับฟอร์ม \"บีจี\" เกมถล่ม \"ดอร์ทมุนด์\" 4-0 ทรงดี ตัวดี ปีนี้น่าลุ้น

เกมครึ่งหลังบีจีมายิงเพิ่มได้อีกสองลูกจาก เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ แล้วยิงแบบเด็ดสะระตี่ทั้งสองลูก จบเกม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปได้ถึง 4-0 

จากสกอร์ที่เกิดขึ้นถือว่าเซอร์ไพรส์ผมมากๆ เพราะอย่างที่บอกว่า ก่อนเกมผมคิดว่าไม่น่าจะสู้ได้ ด้วยเรื่องของศักยภาพผู้เล่น ที่มาตรฐานค่อนข้างต่างกันเยอะ แต่บอกเลยว่าสิ่งที่ผมคิดนั้นดูจะผิดไป

แต่กระนั้นเราก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทีมผู้มาเยือนด้วย พวกเขาเพิ่งจะมารวมตัวปรีซีซั่น และก็เดินทางไกลข้ามทวีปมาที่ประเทศไทยเป็นชาติแรก แถมเดินทางมาถึงช่วงสายๆ ของวันเสาร์ มีภารกิจตลอดทั้งวัน ไม่ได้พักผ่อนแบบเต็มที่ ช่วงค่ำก็ไปลงฝึกซ้อม ก่อนที่วันต่อมาก็คือเมื่อวาน (21 ก.ค.) ต้องลงเตะทันที

มีเวลาพักเต็มๆ ก็แค่ช่วงกลางคืนของวันเสาร์ ไม่รู้ว่าได้พักกันไม่นะ!! บวกกับช่วงเช้าและช่วงกลางวันของวันอาทิตย์ ซึ่งก่อนเตะก็ต้องเจอกับพายุฝนที่ตกลงมาอย่างหนักก่อนเกม ทำให้การเดินทางมาที่สนามล่าช้าไปกว่ากำหนด และเกมการแข่งขันก็ช้าไป 15 นาที

ไหนจะเรื่องของสภาพอากาศอีก ที่แน่นอนว่านักเตะของดอร์ทมุนด์ ก็คงจะไม่เคยชินกับสภาพอากาศของบ้านเรา ทำให้การเล่น ถ้าใครได้ดูก็จะเห็นว่าพวกเขามีปัญหา ไหนจะสภาพความฟิตที่ยังไม่เต็มร้อย และเป็นปรีซีซั่นเกมแรกด้วย มันก็เลยเป็นอย่างที่เห็น

แต่อย่างที่บอกว่า มันก็เซอร์ไพรส์ตรงที่สกอร์ที่ออกมามันดูจะขาดลอยเกินไป จนทำให้แฟนบอลดอร์ทมุนด์ที่เมืองเบียร์เหมือนจะรับกันไม่ค่อยได้ และวิจารณ์ฟอร์มในโซเชี่ยลกันอย่างเมามัน

เซอร์ไพรส์กับฟอร์ม \"บีจี\" เกมถล่ม \"ดอร์ทมุนด์\" 4-0 ทรงดี ตัวดี ปีนี้น่าลุ้น

เรื่องของสภาพทีม สภาพความฟิตของทีมเยือนก็ส่วนนึง แต่ที่ต้องชื่นชมก็คือฟอร์มการเล่นขอทีม "บีจี ปทุม ยูไนเต็ด" ที่เล่นได้ดีเกินคาด ทั้งครึ่งแรกและครึ่งหลัง ไม่ว่าจะเป็นวิธีการ รูปแบบการเข้าทำ เกมรับที่เหนียวแน่น ทุกอย่างดูจะดีไปหมด

และที่อยากพูดถึงมากที่สุดก็คือ นักเตะที่เสริมทัพเข้ามาใหม่ในซีซั่นนี้โชว์ฟอร์มได้ดีทุกคน ทั้ง เมลวิน ที่เด่นมากในครึ่งแรก โกมิส เองที่ตอนแรกนึกว่าเล่นเซ็นเตอร์ มาเล่นเป็นกลางรับ โดดเด่นมากทั้งการแย่งบอกและควบตะบึงขึ้นไปทำเกม นี่อาจจะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของบีจี

ครึ่งหลัง เจริญศักดิ์ ที่ยิงไปสองลูกไม่ต้องพูดถึง แต่ตัวต่างชาติอย่าง ซานตาน่า กับ ลาร์ส เฟลด์เวจ์ค อาจจะยังไม่ดีมาก แต่ก็พอใช้ได้ อาจต้องให้เวลาปรับตัวกับลีกไทยอีกนิด

แต่ที่ต้องชมเลยก็คือนักเตะอย่าง สัญชัย, มาร์โก บัลลินี, ธวัชชัย อินทร์ประโคน ที่เล่นได้ดีมากๆ และน่าจะเป็นอีกจุดที่ บีจี เติมเข้ามาแล้วเห็นผล แบ็กซ้ายที่มีปัญหาตอนนี้ผมว่าค่อนข้างจะลงตัวแล้ว

ส่วนประกอบต่างๆ ดูจะใช้ได้เลย แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ ด้วยความที่นักเตะในทีมค่อนข้างเยอะ การบริหารจัดการจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะจัดทีมยังไงให้นักเตะในทีมทุกคนโอเค และได้ลงเล่นกันครบทุกคน

แต่ท่านประธานบอกแล้วว่า ปีนี้ บีจี มีเตะ 5 ถ้วย จึงต้องเสริมทัพให้พร้อมทุกรายการ และเชื่อว่าทุกคนในทีมจะมีส่วนร่วมกับทีมแน่นอน

จากนี้ก็คงต้องรอดูในการแข่งขันจริง โดยเฉพาะในศึกไทยลีก ว่า บีจี จะท่าดีทีเหลวเหมือนที่ผ่านๆ มา หรือจะมาฟอร์มปังปุริเย่ในฤดูกาลนี้

ซึ่งถ้าเล่นได้แบบเกมที่เจอกับดอร์ทมุนด์ บอกเลยว่า ฤดูกาลนี้ "บีจี ปทุม ยูไนเต็ด" น่าลุ้น น่าเชียร์ เป็นอย่างมาก

 

 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline