แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่กับ เจิ้ง จื้ออิง นักกีฬาเทเบิลเทนนิสทีมชาติชิลีวัย 58 ปี หนึ่งในนักกีฬาที่อายุเยอะที่สุด ในการแข่งขัน โอลิมปิก เกมส์ 2024
ผมประทับใจเธอมาก เมื่อได้เห็นเรื่องราวของเธอจากทางเว็บไซต์ CNN เพราะการแข่งขัน โอลิมปิก เกมส์ เป็นสิ่งที่เธอรอคอยมาทั้งชีวิต ทั้งๆที่มันเหมือนว่าจะอยู่ไกลคนละมัลติเวิร์ส แต่เธอไม่เคยหยุดความฝันของตัวเอง และ การรอคอยมา 58 ปี มันก็คุ้มค่ายิ่งกว่าสิ่งใด
เจิ้ง จื้ออิง เธอคือนักกีฬาโอนสัญชาติ เป็นที่รักของแฟนๆชาวชิลี แต่ด้วยความยากลำบากในการออกเสียงชื่อ "จีน" ทำให้พวกเขาตั้งฉายาให้เธอใหม่ ด้วยคำว่า 'Tia Tania' หรือแปลเป็นไทยว่า "คุณป้า ทาเนีย"
เจิ้ง จื้ออิง เกิดที่เมืองกว่างโจว เมื่อปี 1966 เธอเป็นครอบครัวนักกีฬาโดยกำเนิด เพราะคุณแม่ของเธอ เป็นโค้ชให้กับนักเทเบิ้ล เทนนิส และ พักอยู่ใกล้กับศูนย์กีฬา ทำให้เธอมีโอกาสฝึกซ้อมทุกๆวัน รายล้อมไปด้วยนักกีฬาปิงปองมืออาชีพ
เจิ้ง จื้ออิง เป็นเด็กที่มีพรสวรรค์มาก ปรากฏชัดตั้งแต่ยังเด็ก เธอเป็นแชมป์เยาวชนของประเทศ และ ชนะการแข่งขันระดับภูมิภาคหลายรายการ ก่อนที่จะกลายเป็นนักปิงปองมืออาชีพเมื่ออายุได้ 12 ปี เท่านั้น และ เธอถูกเรียกติดทีมชาติจีน ในตอนแค่อายุ 16 ปี เท่านั้น มันเป็นความฝันของเด็กๆหลายคน และ ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ แต่เธอสามารถทำได้
ดังนั้น เส้นทางของเธอในการไปเล่น โอลิมปิก เกมส์ ไม่ใช่เรื่องยากใช่ไหมล่ะครับ ? โดยเฉพาะ โอลิมปิก เกมส์ ปี 1988 ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ได้บรรจุกีฬา เทเบิล เทนนิส เข้าร่วมชิงชัยเหรียญทอง โดยมีการแข่งประเภทชายเดี่ยว, หญิงเดี่ยว และประเภทคู่
อย่างไรก็ตาม ในปี 1986 ก่อนการแข่งขัน โอลิมปิก เกมส์ 1988 จะเริ่มต้นขึ้น ได้มีการเปลี่ยนกฎ นำกฎ "สองสี" มาใช้ในการแข่งขัน ซึ่งกฎ 2 สี ก็คือ ให้ไม้ปิงปองทั้ง 2 ด้าน ต้องมีสีต่างกัน ซึ่งก็เป็น สีดำ-แดง ที่เราเห็นในปัจจุบัน นี่แหละครับเป็นจุดเปลี่ยนของ เจิ้ง จื้ออิง เพราะเธอไม่สามารถใช้ท่าไม้ตาย หมุนไม้ปิงปองในมือ เพื่อสร้างความสับสนให้กับคู่แข่งได้อีกแล้ว
เจิ้ง จื้ออิง เล่าว่า "การเปลี่ยนแปลงกฏ ส่งผลต่อเกมการเล่นของฉันอย่างมาก ตอนนั้นฉันตกต่ำ และ จำเป็นต้องเลิกเล่นจากทีมชาติ"
เธอต้องรีไทร์ การเป็นนักปิงปองอาชีพ ตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆ เพราะอันดับของเธอในจีนลดลงไปเรื่อยๆ แต่มันทำให้เธอได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ย้ายข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกไปตั้งรกรากที่ประเทศชิลี เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นี่นานกว่า 35 ปี แล้ว และ ในช่วงชีวิตหนึ่งเธอไม่ได้เล่นปิงปองมานานเกือบ 20 ปี แต่ช่วง โควิด-19 คือจุดเปลี่ยนในชีวิตอีกครั้ง
เธอหันมาจับไม้ปิงปองเล่นเพื่อคั่นเวลากับลูกๆ เพื่อออกกำลังกาย และ ต้องการให้ลูกๆเว้นจากโลกโซเชี่ยล เนื่องจากตอนนั้น ทุกอย่าง ล็อคดาวน์ ทำอะไรไม่ได้เลย !!
แต่จากการเล่นเพื่อฆ่าเวลา ความรู้สึกของเธอเหมือนกลับไปเป็นผู้เล่นอายุ 14 อีกครั้ง ชีพจรมันลงเท้า เธอต้องการกลับไปลงเล่นแข่งขันปิงปองอีกครั้ง เพื่อดูว่าเธออยู่ในระดับไหน ยังคงวิ่งไหวอยู่หรือเปล่า และ ในไม่ช้าเธอก็ได้กลับไปแข่งขันในระดับภูมิภาคของเมือง อิคิเก้ ประเทศชิลี ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย แต่ก็ทำให้เธอได้รู้ว่า เธอยังคงรัก "เทเบิ้ล เทนนิส" สุดหัวใจ
และ เหมือนฟ้าข้างบน ขีดเขียนบทเอาไว้ เพราะเมื่อปี 2022 สหพันธ์กีฬาเทเบิ้ล เทนนิส ประเทศชิลี ได้แปะประกาศว่า กำลังจัดการแข่งขัน เพื่อสร้างทีมไปแข่งขันชิงแชมป์อเมริกาใต้ ในปี 2023 .. เดิมทีเธอไม่มั่นใจนักหรอก เพราะด้วยอายุของเธอที่มากเกิน รวมถึงการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ จะเต็มไปด้วยยอดฝีมือ แต่ในท้ายที่สุด เธอก็เลือกไปตามฝัน ตามคำโน้มน้าวของเพื่อนเธอ
"ไปซิ ไปลองให้รู้ ว่าได้หรือไม่ได้ อย่างน้อยเธอจะได้ไม่ต้องติดค้าง หรือ รู้สึกเสียใจทีหลัง" คำพูดจากปากของเพื่อนเธอ มันสร้างแรงขับเคลื่อนให้ใจเดินหน้าแบบ 100 เปอร์เซ็นต์
เจิ้ง จื้ออิง โชว์ฝีมือให้เห็นว่า "อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข" เธอได้ติดทีมชาติชิลี และ สามารถพาทีมคว้าแชมป์มาครองได้ในทัวร์นาเมนต์นั้น และ คว้าเหรียญเงินในประเภทหญิงเดี่ยว กับ หญิงคู่ ..
เธอไม่รู้มาก่อนว่า เธอได้กลายเป็น ไอค่อน ของประเทศชิลี ไปแล้ว จนกระทั่งถึงรายการ แพน อเมริกันเกมส์ ในปี 2023 เพราะหลังจากเธอปรากฏตัวต่อหน้าแฟนๆในอินดอร์ครั้งแรก เจิ้ง จื้ออิง ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศชิลี ในชั่วข้ามคืน
เพราะหลังจากพ่ายคู่แข่งไป 2 เกมแรกนัดเปิดสนาม แต่เธอแซงกลับมาเอาชนะ 4 เกมรวด เอาชนะไป 4-2 เกม ต่อหน้าแฟนๆทั้งสนาม เธอกลายเป็นขวัญใจคนใหม่ โดยชาวชิลีพร้อมใจกันเรียกว่า “เทีย ทาเนีย” ซึ่งแปลว่า "คุณป้า ทาเนีย" ซึ่งทัวร์นาเมนต์นั้นเธอคว้าเหรียญทองแดง มาครองได้
ไม่เว้นแม้กระทั่ง กาเบรียล บอริช ประธานาธิบดีของ ชิลี ก็ยังเป็นแฟนคลับของเธอ และ ได้ร่วมแสดงความยินดีกับชัยชนะ "ครั้งยิ่งใหญ่" ของเธอด้วย .. ทุกอย่างมันเหมือนเป็นไฟที่จุดให้เธอต้องการทำตามความฝัน คืออยากไปแข่งขันที่ โอลิมปิก เกมส์ สักครึ่งหนึ่งในชีวิตให้ได้
"มันเป็นความฝันอันสูงสุดในชีวิตของฉันเลย ตอนที่ฉันยังเป็นเด็กตัวน้อยๆ และ หากมีใครมาถามฉันว่า โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร มีความฝันเป็นอย่างไร ฉันจะตอบกลับไปทันทีว่า อยากเป็นนักกีฬา โอลิมปิก"
และความฝันของคุณป้า ทาเนีย ก็เป็นจริง เธอผ่านเข้าไปสู่รอบคัดเลือก ได้ไปเล่น โอลิมปิก เกมส์ 2024 ครั้งแรกในชีวิต หลังจากเธอละทิ้งความฝันมาเกือบ 20 ปี ไม่ใช่แค่เธอเท่านั้นที่มีความสุข แต่คุณพ่อวัย 92 ปี ที่เฝ้าดูเขาผ่านหน้าจอโทรทัศน์ มีความสุขมากที่สุดเหนือกว่าทุกคนบนโลกใบนี้
ต่อให้สุดท้าย "คุณป้า ทาเนีย" จะไม่ผ่านเข้าสู่รอบแรกของการแข่งขัน แต่อย่างน้อยเธอได้ทำตามความฝัน ได้เป็นนักกีฬา โอลิมปิก เกมส์ แบบที่เธออยากจะเป็นได้แล้ว เธอเป็นไอค่อน เป็นแบบอย่างให้กับทุกๆคนว่า "ความฝันไม่มีวันหมดอายุ" ถ้าคุณยังเชื่อในสิ่งที่ทำ และ สิ่งที่ทำก็ขอให้เป็น "ความสุข" ก็เพียงพอแล้ว