[ เชลซี เล่นดี แต่ไร้คุณภาพ ]
หากดูฟอร์มการเล่นรวมถึงทรงบอลในเกมอุ่นเครื่องของ เชลซี ภายใต้การนำทัพของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า เหล่าสาวกของ สิงห์บูลส์ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันแบบไม่มีแตกแถวว่า "มีแต้มกลับบ้านก็บุญแล้ว" เพราะตลอด 5 นัดที่ลงสนามในเกมปรีซีซั่นที่เจอกับทีมจากทวีปยุโรป พวกเขาไม่สามารถคว้าชัยได้เลยแม้แต่นัดเดียว
ประจวบเหมาะกับเกมนี้ต้องมาเจอกับทีมแชมป์เก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีขุมกำลังที่แข็งแกร่ง บวกกับมีกุนซืออย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แม้ว่าเกมนัดนี้ของ ทัพเรือใบสีฟ้า จะขาดมิดฟิลด์คนสำคัญอย่าง โรดรี้ แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างมาประกอบรวมกันมันชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า เชลซี วันนี้มีโอกาสรอดยากเหลือเกิน ถึงแม้จะเล่นในบ้านตัวเองก็ตาม
เริ่มเกมมาต้องบอกว่า เชลซี ดูดีกว่าที่คิดนะครับ ดูมีรูปมีทรงต่างจากเกมปรีซีซั่นแบบลิบลับ และที่เซอร์ไพรส์ไปกว่านั้นคือการเล่นเพรสซิ่งของ มาเรสก้า ถือว่าทำได้ดีทีเดียว ล่อซะทางฝั่ง แมนฯ ซิตี้ ไปไม่เป็นอยู่หลายครั้งเหมือนกัน
และที่ต้องชมอีกอย่างในเกมวันนี้ของ เชลซี คือแผงมิดฟิลด์ที่ทำหน้าทีได้ดีมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรเมโอ ลาเวีย ที่โชว์ฟอร์มได้ไฉไลเป็นบ้า มีสถิติการจ่ายบอลสำเร็จสูงถึง 97.4 เปอร์เซ็นต์ ดวลชนะ 4 ครั้ง, ตัดบอลสำเร็จ 3 ครั้ง แถมยังสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมอีกหนึ่งครั้ง เรียกได้ว่ามาเติมมิติใหม่ๆในแผงกองกลางของ เชลซี ได้เฟี้ยวฟ้าวทีเดียว
แต่ถึงกระนั้นปัญหาของ เชลซี จากเมื่อฤดูกาลที่แล้วก็ยังไม่ถูกแก้ไข คือจังหวะที่เด็ดทีขาดในการจบสกอร์ของผู้เล่นในแนวรุกยังคงมีปัญหาเหมือนเดิม เกมนี้พวกเขามีโอกาสง้างประตูรวมกันถึง 10 ครั้ง ค่า xG สูงถึง 1.23 มากกว่าผู้มาเยือนอย่าง แมนฯ ซิตี้ ที่มีค่า xG เพียงแค่ 0.82 เท่านั้น แต่ทีมแชมป์เก่ากลับทำได้ถึง 2 ประตู มันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทำไม พลพรรคสิงห์บลูส์ ถึงไม่มีแต้มในเกมวันนี้
[ เอ็นโซ่ ยืนสูงไม่เวิร์ค ]
อีกประเด็นที่ถูกพูดถึงมากมายในหมู่ของแฟนบอล เชลซี นั่นคือตำแหน่งการเล่นของ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ที่วันนี้ มาเรสก้า จับไปยืนในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งที่ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ผู้นี้ทำได้ดีเลยสักครั้ง สังเกตุได้จากเมื่อฤดูกาลที่แล้วพอมายืนสูงทีไรก็มักจะทำประโยชน์กับทีมแทบไม่ได้เลย
จุดเด่นของ เอ็นโซ่ คือการจ่ายบอลที่แม่นยำ คอยแจกจ่ายซ้ายขวา ช่วยให้เกมไหลลื่น แต่เขาไม่ใช่นักเตะที่สามารถชี้เป็นชี้ตายในจังหวะสุดท้ายได้ ซึ่งการจับ เอ็นโซ่ มายืนในตำแหน่งมิดฟิลด์หมายเลข 10 เหมือนเป็นการใช้นักเตะไม่ตรงสเปคเท่าไหร่ ดูเสียของไปหมด
และนี่ก็เป็นเหตุผลหลักว่าทำไม เชลซี ถึงไม่มีโอกาสแบบจะแจ้ง และการเข้าทำที่ดูได้น้ำได้เนื้อ จังหวะที่ เชลซี มีโอกาสเบิกสกอร์ได้มากที่สุดดูเหมือนจะเป็นลูกยิงของ นิโคลัส แจ็คสัน ซึ่งจังหวะนั้นก็ไม่ได้มาจากการสร้างสรรค์โอกาสที่มาจากระบบการเล่น เชลซี มันมาจากจังหวะของเกมฟุตบอลมากกว่า
ส่วนตัวคิดว่าถ้าเอาผู้เล่นตำแหน่งมิดฟิลด์เบอร์ 10 ขนานแท้อย่าง คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู มายืนแทน เอ็นโซ่ แล้วถอย เอ็นโซ่ ไปยืนต่ำคอยคอนโทรลเกมแดนกลาง แล้วส่งปีกธรรมชาติมายืนกาบซ้ายแทนที่ของ เอ็นคุนคู ไม่แน่ว่า เชลซี อาจมีประตูในเกมนี้ก็เป็นไปได้เหมือนกัน
[ ฮาแลนด์ ปีศาจในร่างมนุษย์ ]
หากใครได้ดูสถิติของ เออร์ ฮาแลนด์ ในเกมนี้คงต้องร้องเห้ยเหมือนกันแน่ๆ เพราะเกมนี้ดาวเตะเจ้าของสมญานาม 'จอมมารบู' ได้สัมผัสลูกฟุตบอลเพียงแค่ 17 ครั้งเท่านั้นน้อยที่สุดในสนาม และที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือเขาจ่ายบอลสำเร็จเพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้นจากทั้งหมด 8 ครั้ง คิดเป็น 38 เปอร์เซ็นต์ จัดว่าโคตรน้อย
แต่นี่แหละครับ คือสิ่งที่วัดว่าศูนย์หน้าคนไหนอยู่ในระดับ 'เวิร์ลคลาส' หรือนักเตะเกรดธรรมดาทั่วไป เพราะเกมนี้ ฮาแลนด์ สามารถทำได้ 1 ประตู แม้จะมีโอกาสเพียงน้อยนิดก็ตาม แสดงถึงความเฉียบขาด และความแตกต่างได้อย่างชัดเจน และแน่นอนว่ามันส่งผลต่อสกอร์ในเกมวันนี้ด้วย
เท่ากับว่า เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ตะบันตาข่ายไปแล้ว 91 ประตู กับอีก 15 แอสซิสต์ จากการลงสนามทั้งหมด 100 นัดกับ แมนฯ ซิตี้ เรียกได้ว่านี่คือ ปีศาจจำแลงกายในร่างมนุษย์อย่างแท้จริง
-บีเบลล์ กูนเนอร์-