logo-heading

เหตุใดทำไม ทัพปืนใหญ่ ถึงเลือกเซ็น มิเกล เมริโน่ ?

[ คุณสมบัติครบถ้วน ]

ต้องยอมรับว่าในช่วงปีสองปีมานี้จัดได้ว่าเป็นปีทองของ มิเกล เมริโน่ เลยก็ว่าได้ เพราะเจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้ไฉไลเป็นบ้ากับต้นสังกัดอย่าง เรอัล โซเซียดาด เขาทำได้ 8 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์ ตลอดการลงสนามทั้งหมด 45 นัดรวมทุกรายการ

หากไปเทียบกับ เดแคลน ไรซ์ ต้องบอกว่าสถิติการทำประตู และแอสซิสต์ ต้องบอกว่าใกล้เคียงกันสุดๆ โดยพี่ข้าวทำได้ 7 ประตูกับอีก 10 แอสซิสต์ จากการลงสนามทั้งหมด 51 รวมทุกรายการ

หากว่ากันด้วยเรื่องคุณสมบัติ และความสามารถของ เมริโน่ ต้องยอมรับว่าตรงสเปค อาร์เซน่อล เป็นอย่างมาก เมริโน่ สามารถเล่นได้หลายตำแหน่งในแผงมิดฟิลด์ ทั้งเบอร์ 6 และเบอร์ 8 โดดเด่นทั้งรุก และรับ ทำให้เขาเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับแผนการเล่นที่ยืดหยุ่นของ มิเกล อาร์เตต้า

นอกจากนั้นแล้ว มิเกล เมริโน่ ยังมีความสามารถในการอ่านเกมที่เด็ดขาด สามารถสร้างโอกาสในการทำประตูให้กับเพื่อนร่วมทีมได้บ่อยครั้ง ดูได้จากสถิติค่า xA หรือ Expected Assists เฉลี่ยอยู่ที่ 2.76 ครั้งตลอดการลงสนามทั้งหมด 32 นัดใน ลาลีกา ไม่เพียงเท่านั้นยังมีสถิติการจ่าย คีย์พาส เฉลี่ยอยู่ที่ 0.6 ต่อเกม ซึ่งเป็นอะไรที่สูงมากๆในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ

อีกทั้งยังมีจุดเด่นในเรื่องของการยิงประตูจากแถวสอง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ อาร์เซน่อล ต้องการเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่การจากไปของ กรานิต ชาก้า

[ เติมเต็มขุมกำลังเชิงลึก ]

นอกจากจะมีคุณสมบัติครบถ้วนที่ต้องการแล้ว เมริโน่ ยังมาช่วยเติมขุมกำลังเชิงลึกในแผงมิดฟิลด์ของ อาร์เซน่อล ได้อีกด้วย เพราะเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เดแคลน ไรซ์ แทบจะเป็นเดอะแบก ในตำแหน่งนี้เลยก็ว่าได้

ประจวบเหมาะกับ โธมัส ปาร์เตย์ อยู่ในช่วงขาลงพอดี แถมมีการอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอด ซึ่งการได้ มิเกล เมริโน่ มาเติมเต็มในแผงแดนกลาง แน่นอนว่าจะช่วยแบ่งเบาภาระของ เดแคลน ไรซ์ ได้มากขึ้นพอสมควร 
 

[ ดัน อาร์แวร์ตซ์ เล่นศูนย์หน้าเต็มตัว ]

แน่นอนว่าการได้ มิเกล เมริโน่ มาร่วมทีมที่สามารถเล่นได้ทั้ง เบอร์ 6 และ เบอร์ 8 ทำให้แผงมิดฟิลด์ของ อาร์เซน่อล จัดว่าเนืองแน่นสุดๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ มิเกล อาร์เตต้า อาจจับ ไค ฮาแวร์ตซ์ ไปเล่นในตำแหน่งศูนย์หน้าอย่างเต็มตัวในฤดูกาลนี้ ร่วมกับ กาเบรียล เชซุส

และด้วยฟอร์มการเล่นของ ไค ฮาแวร์ตซ์ ในตำแหน่งศูนย์หน้าต้องใช้คำว่า 'โหดสัสรัสเซีย' ดีเหลือเกิน มีส่วนร่วมกับประตูไปแล้วถึง 17 ลูก 9 ประตู กับอีก 8 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 14 นัดหลังสุด

ซึ่งอาจเป็นการสื่ออย่างมีนัยยะสำคัญว่า อาร์เซน่อล จะไม่ซื้อผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าแล้ว เพราะเราลองมาคิดดูดีๆ กองหน้าในตลาดตอนนี้ที่สามารถเอามายกระดับทีมได้ ราคาแม่งก็โคตรจะแพง อาทิเช่น วิคเตอร์ โอซิมเฮน แน่นอว่าไอตัวนี้ราคาพุ่งไปแตะหลัก 100 ล้านแน่ๆ 

ส่วน โอลลี่ วัตกินส์ ที่เคยมีข่าวกับ อาร์เซน่อล ราคานี่ไม่ต้องพูดถึงครับ แพงหู่ฉี่ทะลุ 100 ล้านอย่างไม่ต้องสงสัย บวกกับเป็นตัวหลักของ แอสตัน วิลล่า คู่แข่งร่วมลีก แถมล่าสุดยังมีชื่อติดทีม PFA ของ พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาอีก แน่นอนว่าหากต้องการตัว วัตกินส์ ในตอนนี้ราคาคงมีไม่ต่ำกว่า 120 ล้าน

เมื่อเห็นดังนี้ อาร์เตต้า จึงใช้วิธีแก้ปัญหาด้วยการจับ ไค ฮาแวร์ตซ์ ไปยืนกองหน้าแบบเต็มตัวซะเลย แล้วไปดึงกองกลางมาเพิ่มในราคาที่ไม่ต้องแพงมาก ส่วนตัวผมมองว่าก็เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่เลวเหมือนกัน

[ มีประสบการณ์ใน พรีเมียร์ลีก ]

และอีกหนึ่งเหตุผลหลักที่ มิเกล อาร์เตต้า ถึงจำเป็นต้องการตัว มิเกล เมริโน่ มาร่วมทีมนั่นคือ เขามีประสบการณ์ในเวที พรีเมียร์ลีก มาก่อนหน้านี้แล้วกับ นิวคาสเซิ่ล เมื่อฤดูกาล 2017/18

แม้ว่าช่วงเวลานั้นเจ้าตัวจะไม่ได้มีฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจเท่าไหร่ ประกอบกับอายุในตอนนั้นก็เพิ่งจะ 23 ปีเท่านั้น การมาเล่นในต่างแดนย่อมเป็นเรื่องยากสำหรับชาวต่างชาติแน่นอน

แต่ในตอนนี้ มิเกล เมริโน่ ในวัย 28 ปีเต็มบริบูรณ์ เขาได้สั่งสมประสบการณ์มาแล้วมากมาย แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนเดิมเหมือนตอนที่ค้าแข้งอยู่กับ นิวคาสเซิ่ล เมื่อ 5 ปีก่อนอีกแล้ว ทั้งประสบการณ์ในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ ลาลีกา ไหนจะเพิ่งคว้าแชมป์กับ สเปน ในศึก ยูโร 2024 มาแบบสดๆร้อนๆ

การันตีได้เลยว่าการได้ตัว มิเกล เมริโน่ ด้วยราคาเพียง 33 ล้านยูโร หรือ 28 ล้านปอนด์ แถมคุณสมบัติที่ครบเครื่องตรงสเปค อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในการเล่นฟุตบอลระดับสูงมาแล้ว แน่นอว่ามันคุ้มซะยิงกว่าคุ้ม !!

-บีเบลล์ กูนเนอร์-

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline