ลามีน ยามาล แจ้งเกิดแบบเต็มๆ ตัวก็คือในศึกยูโร 2024 ที่ผ่านมา ภายหลังเป็นกำลังสำคัญพา สเปน ช่วยแชมป์เป็นเจ้ายุโรปทีมล่าสุด
ก่อนเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์เจ้าตัวก็พอถูกจับตามองอยู่บ้างว่าจะเป็นวันเดอร์คิดส์ที่จะสามารถเฉิดฉายในทัวร์นาเมนต์ระดับทวีป ก่อนที่ทุกอย่างจะถูกตอกย้ำด้วยฝีเท้าอันยอดเยี่ยมของเขาที่ทั้งยิง ทั้งจ่าย บนตัวเลขอายุเพียง 17 ปี เท่านั้น
เด็กหนุ่มที่พัฒนาฝีเท้าของตัวเองขึ้นมาตลอดในขวบปีหลังๆ และในฤดูกาลนี้มีอะไรอีกบ้างที่ ลามีน ยามาล กำลังพัฒนาในด้านบวกมากยิ่งขึ้น ขอบสนาม จะพาไปพูดถึงกันครับ
วิธีการเล่น
ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ยามาล กลายเป็นคนสำคัญของ บาร์เซโลน่า เบียดแข้งระดับซีเนียร์ ผลงานเอาชนะใจกุนซือได้อย่างยอดเยี่ยม ยึดตัวจริงทางฝั่งขวาลงเล่นในทุกรายการไปมากถึง 50 เกม มีส่วนร่วมกับประตู 16 ตุง แบ่งเป็นยิง 7 แอสซิสต์ 9 ถือว่าเป็นตัวเลขที่ไม่ธรรมดาของเด็กที่เพิ่งก้าวขึ้นมา และเป็นตัวหลักในทันที
แน่นอนว่านั่นเป็นเหมือนการตั้งมาตรฐานของตัวเองแบบกลายๆ ว่าต่อจากนี้ต้องดีขึ้น หรืออย่างน้อยรักษาสิ่งที่ทำเอาไว้ให้ได้ ตามช่วงอายุ ลามีน ยามาล สามารถยกระดับตัวให้มีความสามารถที่รอบด้านได้มากที่เคยทำ
ตัดภาพกลับมาที่ซีซั่นปัจจุบันที่เพิ่งออกสตาร์ทไป 5 เกม สิ่งที่ ยามาล โดดเด่นมากขึ้นคือการวิ่งไล่กดดันคู่แข่งตั้งแต่แดนบน ซึ่งนี่อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เขาทำได้ เพราะจากสถิตินับแค่ในหน้าปฎิทิน 2024 เขาคือคนที่แย่งบอลจากพื้นที่สุดท้ายของคู่แข่งได้มากที่สุดเหนือคนอื่นๆ ร่วมลีก
ซึ่งการมีตัวเลข และวิธีการเล่นแบบนี้มันช่วยให้ทีมเพิ่มอัตราการทำประตูได้มากยิ่งขึ้น สามารถทำให้ทีมกลับไปอยู่ในจุดที่ได้เปรียบในสนาม เปิดพื้นที่ของคู่แข่งในการโจมตี และด้วยสไตล์ที่รวดเร็วจี๊ดจ๊าด ย่อมเป็นอาวุธที่น่ากลัวเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
อีกหนึ่งสถิติที่น่าสนใจการอัตราการเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง ณ ปัจจุบันในฤดูกาล 2024-25 ยามาล ขึ้นแท่นเป็นอันดับ 2 ร่วมกับ คีเลียน เอ็มบัปเป้ สตาร์จาก เรอัล มาดริด ที่จำนวนเฉลี่ย 3.2 ครั้ง/เกม ส่วนอันดับ 1 ครอบครองโดย ชิเดร่า เอจูเก้ จาก เซบีย่า
เมื่อเอาสิ่งต่างๆ มารวมกันทั้งเรื่องของความเร็วที่เขามี ความสามารถเฉพาะตัว ทักษะสกิล และการวิ่งไล่บดขยี้คู่แข่งทำให้ ยามาล พัฒนาตัวเองไปได้อีกขั้น ไม่ใช่แค่เรื่องของการทำประตู แต่มีออปชั่นเสริมที่เพิ่มความน่ากลัวให้มากกว่าเดิม
การมีส่วนร่วมกับประตู
ถ้าไม่มีการบาดเจ็บ แม้จะเป็นเพียงการเริ่มต้นฤดูกาลแต่สามารถบอกได้เลยว่า ลามีน ยามาล มีโอกาสทำลายสถิติการมีส่วนร่วมกับประตูของตัวเองจากฤดูกาลก่อนได้ค่อนข้างสูง
ถอยเวลากลับไปซีซั่นก่อน 7 ประตู 9 แอสซิสต์ ส่วนฤดูกาลนี้เพิ่งเริ่มไปเพียง 5 นัด จัดการไปแล้ว 3 ตุง 4 แอสซิสต์ หรือเรียกได้ว่ามีส่วนร่วมในทุกเกมที่ บาร์เซโลน่า ลงสนามในฤดูกาลนี้ พร้อมนำเป็นท็อปแอสซิสต์ของลีก พ่วงด้วยการเป็นนักเตะที่มีส่วนร่วมกับประตูมากที่สุดอันดับ 2 จาก 5 ลีกใหญ่ของยุโรป เป็นรองเพียง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพียงเท่านั้น
สถิติตรงนี้มันยิ่งตอกย้ำว่า ยามาล กลายเป็นนักเตะคนสำคัญของ บาร์เซโลน่า แบบขาดไม่ได้ และมันไม่ใช่การมีส่วนพาบอลไปซุกก้นตาข่าย แต่ในรายละเอียดอื่นๆ ตัวเลขก็ถือว่าไม่ธรรมดา
สร้างโอกาสครั้งสำคัญเฉลี่ย 5 ครั้ง/เกม, คีย์พาสเฉลี่ย 2.4 ครั้ง/เกม, จ่ายบอลแม่นยำต่อเกม 80% หรือ บอลยาวที่แม่นยำกว่า 60%
และถ้าไปดูตำแหน่งการเล่นในแต่ละเกม ใช่ว่าบทบาทหลักๆ คือฝั่งขวาคอยปั่นป่วนคู่แข่ง แต่ในฮีทแมพจะบอกว่า ยามาล พาตัวเองขยับเข้าไปด้านในมากขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเอง เปิดพื้นที่ให้เพื่อน และเจาะคู่แข่งด้วยวิธีที่แตกต่างกันออกไป
ก้าวข้ามความกดดัน
ปฎิเสธไม่ได้เลยครับว่าการที่ ยามาล เติบโตขึ้นมาจากศูนย์ฝึก ลา มาเซีย ยิ่งทำให้เขาถูกพูดถึงมากกว่าเดิม เพราะอย่างที่เรารู้กันว่านี่คืออคาเดมี่เบอร์ต้นๆ ของโลกลูกหนัง ฉะนั้นไม่แปลกที่เขาจะถูกยกไปเปรียบเทียบกับตำนานอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ เพราะด้วยเรื่องของช่วงวัย และสิ่งที่รังสรรค์ออกมาในสนาม
ซึ่งที่ผ่านมามีนักเตะหลายคนเคยถูกนิยามด้วยวลีซ้ำๆ เดิมๆ ว่าคือ “นิว เมสซี่” แต่ก็ยังไม่มีใครทำให้รู้สึกว่าใกล้เคียงได้เลยไม่ว่าจะเป็น โบยาน เกอร์กิช, โจวานนี่ ดอส ซานโตส, มูเนียร์ เอล ฮัดดานี่ หรือแม้แต่ อัตซู ฟาติ
ประเด็นนี้เคยมีสื่อต่างประเทศวิเคราะห์ความสามารถของ ยามาล ไว้ได้อย่างน่าสนใจ โดยบอกว่าเด็กคนนี้มีฝีเท้าที่เหนือกว่าเด็กรุ่นก่อนๆ มีการเลี้ยงบอลที่คล่องแคล่ว ไปกับบอลได้ดี ทัศนคติในสนามค่อนข้างกว้างขวาง แยกบอลจากเขาได้ยาก และมีสายตาที่เฉียบคม
ครั้งหนึ่ง เดลี่ เมล เคยพสดหัวถึงเจ้าหนูพรสวรรค์คนนี้เอาไว้ว่า “เขาอาจเป็นแข้งที่มีพรสรรค์สูงสุดของ บาร์เซโลน่า นับตั้งแต่ ลิโอเนล เมสซี่”
หรือ ราฟาเอล มาร์เกซ อดีตแนวรับของ บาร์ซ่า มองขาดถึงขั้นให้ ยามาล คืออนาคตที่จะสานต่อตำนานจากทั้ง โรนัลดินโญ่ หรือ ลิโอเนล เมสซี่ เลยทีเดียว โดย มาร์เกซ เคยแสดงทัศนะเอาไว้ว่า
“ยามาล อยู่ในกลุ่มเด็กที่มีพรสวรรค์ที่ติดตัวมา และไม่ว่าพวกเขาจะอายุเท่าไหร่ เขาก็ยังสามารถแข่งขันในประเภทใดก็ได้ และสร้างความแตกต่างได้ ที่ผ่านมามี โรนัลดินโญ่, เมสซี่ และ ลามีน สามารถเป็นคนต่อไปได้"
ไม่เว้นกระทั่งกุนซือคู่แข่งในเกมล่าสุดอย่าง มิเชล ซานเชซ กุนซือของ จีโรน่า จะเอาไปเทียบกับ เมสซี่
“เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่าหลังจาก เมสซี่ แล้วจะมีผู้เล่นแบบเขาเข้ามาอีกคน แต่ผมหวังว่า ลามีน จะพัฒนาต่อไปได้ เพราะเขาเป็นผู้เล่นที่สามารถไปถึงระดับนั้นได้”
แน่นอนว่าในตอนนี้ หรืออนาคตอันใกล้ เราไม่สามารถตอบได้เลยว่า ลามีน ยามาล จะพัฒนาไปถึงจุดไหน แต่กระนั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับการเติบโตของเขา และพัฒนาในรูปแบบของตัวเอง ไม่ได้ยึดติดว่าต้องเป็นแบบรุ่นพี่สถานเดียวเพื่อที่จะไม่กดดันตัวเอง
ลามีน ก็คือ ลามีน ไม่ใช่ที่ทดแทนใครได้
อย่างไรก็ตามตอนนี้แฟนบอลกำลังเพลิดเพลินกับความยอดเยี่ยมของเด็กคนนี้ และได้เฝ้ามองการยกระดับฝีเท้าที่กำลังจะเก่งขึ้นเรื่อยๆ และดีกว่าปัจจุบันได้อีกแน่