หนึ่งในข่าวใหญที่ถูกประโคมไปทั่วโลกคือดาวเตะที่ครั้งหนึ่งถูกยกย่องว่าคือวันเดอร์คิดส์แห่งวงการลูกหนังอย่าง เจย์ เอ็มมานูเอล โธมัส กลายเป็นผู้ต้องหาจากการลักลอบขนกัญชาน้ำหนักกว่า 60 กิโลกรัม จากประเทศไทย เข้าสู่สหราชอาณาจักร
ซึ่งประเด็นนี้ได้รับความสนใจจากสื่อไม่ใช่น้อย เพราะในอดีตชื่อของ เจย์ เอ็มมานูเอล โธมัส โปรไฟล์ถือว่าไม่ธรรมดา ผ่านอคาเดมี่ของสโมสรชั้นนำในอังกฤษ แม้จะไปไม่สุดทาง แต่ก็วนเวียนกับฟุตบอลในแดนผู้ดีอยู่หลายปี
ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราจะขอพาไปไล่เรียงไทม์ไลน์ของชายผู้นี้กันหน่อยว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร จนล่าสุดกลายเป็นว่าอนาคตในวงการฟุตบอลกำลังมือดับลงในวัย 33 ปี
ย้อนกลับไป เจย์ เอ็มมานูเอล โธมัส เติบโตขึ้นมาศูนย์ฝึกเยาวชนของ อาร์เซน่อล พร้อมพรสวรรค์ที่ถูกยกย่องว่าโดดเด่นเหนือเพื่อนร่วมรุ่นคนอื่นๆ เคยพาทัพ “ปืนใหญ่” รุ่นเล็กคว้าแชมป์ พรีเมียร์ อคาเดมีลีก รวมไปถึง เอฟเอ ยูธคัพ ในฤดูกาล 2008-09 พร้อมบทบาทกัปตันทีมอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้เองทำให้เขาถูกจับตามองมากยิ่งขึ้นในญานะผู้เล่นอายุน้อย ที่ผลงานเกินกว่าในรุ่นราวครางเดียวกัน จนได้รับโอกาสครั้งสำคัญขึ้นมาฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ที่มี อาร์แซน เวนเกอร์ คุมทัพอยู่
เกมแรกอย่างเป็นทางการของเขากับ อาร์เซน่อล ชุดใหญ่เกิดขึ้นเมื่อ 24 มกราคม 2010 ในศึกเอฟเอ คัพ ที่พบกับ สโต็ค ซิตี้ วันนั้น เจย์ ออกสตาร์เป็นตัวจริง ลงเล่นได้อยู่ราว 67 นาที แม้เกมวันนั้นทีมจะพ่ายแพ้ 3-1 แต่ถือว่าเป็นการนับหนึ่งที่ยอดเยี่ยมของเขา
จากนั้นก็เว้นว่างกับทีมชุดใหญ่ไปจนกระทั้ง 2010-11 ได้โอกาสสัมภาษณ์เกมมากขึ้น ทั้งในพรีเมียร์ลีก หรือ แชมเปี้ยนส์ลีก แต่ส่วนใหญ่คือบทบาทตัวสำรอง แต่กระนั้น เวนเกอร์ ก็ยอมรับเลยว่านี่คือดาวรุ่งที่น่าสนใจ ฝีเท้ายอดเยี่ยม และเป็นเด็กที่ทำงานหนักมากโดยตลอด
โดย เวนเกอร์ เคยกล่าวถึง เจย์ เอาไว้ว่า “เจย์ เหมือนมาเคาะประตูห้องผมแบบแรงๆ เขาเป็นคนที่มีคุณภาพโดดเด่น เขาทำงานหนักมากเพื่อให้ร่างกายของเขาฟิตสมบูรณ์ เมื่อเขาฟิตพอ เจย์จะไม่เพียงแต่เป็นผู้เล่นที่ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย”
หนึ่งในจุดเด่นที่ เวนเกอร์ มองเห็นในตัวเจ้าหนูคนนี้ในวันนั้นคือการทำประตูทั้เฉียบขาด ที่มีความอันตรายทั้งเท้าซ้าย และขวา แถมอีกจุดคือรูปร่างที่ดี สูงใหญ่ เป็นกองหน้าในอีกสไตล์ที่สามารถสร้างความแตกต่างได้
แต่กระนั้นสิ่งที่ เวนเกอร์ ทิ้งท้ายไว้ท้ายประโยคที่กล่าวถึง เจย์ คือการพัฒนาที่ทุกอย่างมันจะเกิดขึ้น และพัฒนาได้ก็เพราะตัวเขาเองในการเลือกเดินเส้นทาง
“ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับว่าเขาต้องการไปไกลแค่ไหน เพราะเขามีศักยภาพมาก”
สิ่งที่เกิดขึ้นกับ เจย์ คงเหมือนกับดาวรุ่งคนอื่นๆ เมื่อไม่ได้รับโอกาสมากนัก การโยกย้ายออกไปหาประสบการณ์คือสิ่งที่ควรเกิดขึ้น เช่นเดียวกับเขาที่ถูกปล่อยยืมตัวไปให้ทั้ง แบล็คพูล, ดอนคาสเตอร์ และ คาร์ดิฟฟ์
จนกระทั่งซัมเมอร์ 2011 อาร์เซน่อล ตัดสินใจขาย เจย์ แบบถาวรไปให้กับ อิปสวิช ด้วยค่าตัวราว 1 ล้านปอนด์ ซึ่งถือว่าสูงในระดับหนึ่งกับดาวรุ่งที่ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองมากนัก และก็เหมือนเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ เจย์ ในเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลด้วย
จากการย้ายไปอยู่กับ “ม้าขาว” ชีวิตส่วนใหญ่ของเขาก็วนเวียนอยู่กับลีกล่างของอังกฤษ พร้อมกลายเป็นนักเตะจอมพเนจรอย่างสมบูรณ์แบบ บริสตอล ซิตี้, ควีนปาร์ค เรนเจอร์, มินตัน คีนส์ ดอน และ จิลลิ่งแฮม สลับปรับกันไประหว่าง แชมเปี้ยนชิพ กับ ลีก วัน
จนกระทั่งปี 2019 เจ้าตัวสร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่โยกย้ายมาเล่นนอกอังกฤษครั้งแรกกับ พีทีที ระยอง สโมสรจากศึกไทยลีก แต่ก็ต้องยอมรับการตามตรงไม่มีอะไรให้น่าจดจำมากนัก ผลิตไปประตูเดียว แถมมีเวลาร่วมกันไม่นาน
จากนั้นชีพจรลงเท้าต่อเนื่องย้ายไปเล่นใน สก็อตแลนด์ กับ ลิฟวิงสตัน ต่อด้วย อเบอร์ดีน ก่อนแหวกแนวย้ายไปเล่นในอินเดียกับ ชัมเศทปุระ จวบจนต้นปี 2024 เซ็นสัญญากับทีมระดับล่างในอังกฤษอย่าง คิดส์เดอร์เมนเตอร์ ก็อยู่ได้ราวครึ่งปี ก็กลับไปแดนวิสกี้ร่วมงานกับ กรีน็อค มอร์ต้น พร้อมสัญญา 6 เดือน
กระทั้งข่าวล่าสุดซึ่งไม่ใช่ย้ายการทีมอีกแล้วเพราะ เจย์ ถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมที่สนามบินสแตนสเต็ด พร้อมกับแฟนสาว หลังถูกตรวจพบว่าเจ้าตัวขนกัญชาจำนวน 60 กิโลกรัม มูลค่า 600,000 ปอนด์ ซึ่งเดินทางมาจาก กรุงเทพ มายังกรุงลอนดอน
ซึ่งการขนกัญชาเข้าสหราชอาณาจักรนับเป็นสารเสพติดประเภท B หลังการถูกจับกุม เจย์ ถูกสอบปากคำและถูกตั้งข้อกล่าวหา รวมถึงในวันนี้ก็ถูกนำตัวขึ้นศาลด้วย ซึ่งเบื้องต้นเขาไม่ได้ให้การรับสารภาพข้อกล่าวหา โดยมีกำหนดการขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 18 ตุลาคม นี้
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ กรีน็อค มอร์ต้น ต้นสังกัดในปัจจุบันประกาศยกเลิกสัญญากับ เจย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กลายเป็นว่าอนาคตของ เจย์ ในเส้นทางนักฟุตบอลมีโอกาสที่จะจบลงเพียงเท่านี้สูงมาก ถ้าการตัดสินออกมาว่าผิดจริง เขาอาจถูกจำคุกมากถึงคือ 15 ปี หรืออย่างน้อยๆ คือ 4 ปี
ชีวิตนักฟุตบอลที่เหมือนจะรุ่งโรจน์ไปได้ไกล ชื่อของเขาสมัยอยู่ในอคาเดมี่ของ อาร์เซน่อล ไม่ได้เป็นรองรุ่นเดียวกันอย่าง แจ็ค วิลเชียร์, ฟร็องซิส กอเกอแล็ง หรือ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ทว่าจากชื่อที่กล่าวมาสามารถต่อยอดไปในระดับสูงได้ แต่กับ เจย์ ชีวิตพลิกผันพอสมควรกหลังย้ายออกไป
จนกระทั่งปัจจุบันเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพใกล้จะถึงทางตัน แบะปิดฉากอย่างเป็นทางการในรูปแบบที่เขาเองอาจไม่ได้วาดภาพไว้ให้จบในรูปแบบนี้