logo-heading

7 นัด นำเป็นจ่าฝูง!!

7 นัดยังไม่แพ้ใคร!!

7 นัดเสียประตูนัดเดียว!!

7 นัดยิงไป 25 ประตู!!

ทั้งหมดนี้คือผลงานของ "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" เจ้าของแชมป์ไทยลีก 9 สมัย และดูเหมือนว่าสมัยที่ 10 ก็ไม่น่าจะพลาด กับฟอร์มอันร้อนแรงเกินต้านในการออกสตาร์ทไทยลีก ฤดูกาลนี้

นี่น่าจะเป็นฤดูกาลที่ "ปราสาทสายฟ่า" เริ่มต้นฤดูกาลที่ดีที่สุด เท่าที่จำได้ไม่เคยมีฤดูกาลไหน ที่พวกเขาไม่แพ้ใครใน 7 นัดแรก บางฤดูกาลแพ้เกมแรกก็มี แต่ปีนี้ถือว่าฟอร์มสุดทีนมาก ถึงเวลานี้ยังไม่รู้ว่าจะมีทีมไหนหยุดพวกเขาได้

ที่บอกไปนั่นคือผลงานในศึกไทยลีก แต่ถ้านับทุกถ้วยทุกรายการ ก็ใช่ว่าทีมเซราะกราวจะแพ้ใครไม่เป็น เพราะพวกเขาดันไปเสียซิงให้กับ กงอัน ฮานอย ทีมของมาโน่ โพลกิ้ง ถึงเมืองลุงโฮ 2-1 ในศึกชิงแชมป์สโมสรอาเซียน ซึ่งก็กลายเป็นตำหนิเล็กๆ ในฤดูกาลนี้ ที่พวกเขาพบกับความปราชัยไป

ในขณะที่อีกรายการก็คือฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิท หรือฟุตบอลสโมสรถ้วยใหญ่เอเชีย ลงเตะไปแล้ว 1 เกม เสมอกับ วิสเซล โกเบ ของญี่ปุ่นไป 0-0

เท่ากับว่ารวมผลงานทั้งหมดในฤดูกาลแบบทุกถ้วยทุกรายการ บุรีรัมย์ ลงเตะไป 9 นัด ชนะได้ 6 เสมอ 2 แพ้ 1 ยิงได้ 26 ประตู เสีย 4 ประตู

แต่ในที่นี้เราจะพูดถึงเฉพาะฟอร์มโหดในศึกไทยลีก เป็นหลักก็แล้วกัน ด้วยผลงานอย่างที่บอกไป 7 นัดแรก ยังไม่แพ้ใคร นำเป็นจ่าฝูงแบบเดี่ยวๆ และยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาเสียประตูไปแค่เกมเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นอะไรที่ยากมากๆ

โดย 7 เกมที่ผ่านมาพวกเขาชนะได้ 6 นัด เสมอ 1 นัด นัดเดียวที่เสมอและยิงประตูไม่ได้ คือเกมที่บุกไปเยือนการท่าเรือ เอฟซี โดยแบ่งแต้มกันไป 0-0 ขณะที่เกมที่เสียประตูไปเกมเดียว ก็คือเกมที่ชนะ ทรู แบงค็อก 4-2 

ถ้าจะถามถึงปัจจัยและเหตุผลที่ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฟอร์มโหดในฤดูกาลนี้คืออะไร ก็น่าจะเป็นเรื่องของขุมกำลังที่ถือว่าเพรียบพร้อมและปึ๊กที่สุดในบรรดา 16 สโมสรไทยลีก และน่าจะเป็นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชุดที่ดีที่สุดชุดนึงก็กว่าได้ อาจจะดีที่สุดด้วยซ้ำ แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะพูดขนาดไหน

สิ่งที่ทำให้ขุมกำลังบุรีรัมย์ ดูจะแข็งแกร่งและดีกว่าทุกๆ ฤดูกาลที่ผ่านมา ก็น่าจะมาจากการเตรียมทีมเพื่อลุยศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิท ในซีซั่นนี้ ที่มีการเปลี่ยนกฏใหม่ใช้โควต้าต่างชาติไม่จำกัด ทำให้บุรีรัมย์ ไปกว้านหานักเตะต่างชาติฝีเท้าดี รวมทั้งตัวอาเซียน หรือตัวลูกครึ่งมาเสริมทัพแบบเต็มสูบ

แถมนักเตะต่างชาติแต่ละตัวเป็นระดับทีมชาติ และมีดีกรีทั้งนั้น ซึ่งนอกจากจะเน้นในถ้วยเอเชียแล้ว ยังมีฟุตบอลสโมสรอาเซียน และฟุตบอลในประเทศอีก 3 รายการ รวมทั้งหมด 5 ถ้วย ที่ต้องลงแข่งขัน ดังนั้นขุมกำลังต้องพร้อมที่สุด

ก่อนหน้าที่บุรีรัมย์ จะถล่ม พีที ประจวบ 6-0 ในศึกไทยลีกเกมล่าสุด และย้อนกลับไปช่วงต้นฤดูกาล คำถามที่ว่าใครจะหยุดบุรีรัมย์ได้ ยังไม่เกิดขึ้นในหัวของผม เพราะคิดว่าเดี๋ยวก็คงจะสะดุด เพราะมันยากมากที่จะไม่แพ้ใคร 7 นัดติดต่อกัน

ถ้าถามว่าแล้วทีมไหนละ? ที่จะหยุดบุรีรัมย์ ได้ แน่นอนว่ามันก็ต้องเป็นทีมที่มีศักดิ์และศรีพอๆ กัน อย่าง ทรู แบงค็อก, การท่าเรือ เอฟซี และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่มีความเป็นไปได้ ตอนนี้ผ่านไปแล้ว 2 ทีม คือ บียู ก็เอาไม่อยู่ ก่อนหน้านี้ไปเยือนการท่าเรือ ซึ่งคิดว่าถ้าบุรีรัมย์ จะสะดุด ก็ต้องเป็นเกมนี้และ และเกมนั้นสิงห์เจ้าท่า ก็เล่นดีกว่าด้วย แต่จบไม่คม สุดท้ายก็เสมอกันไปแบบไร้สกอร์ ก็ถือว่าทำให้บุรีรัมย์ สะดุดได้บ้าง แต่ก็ยังล้มพวกเขาไม่ได้ 

แต่พอมาถึงเกมล่าสุดที่อัด พีที ประจวบ ไป 6-0 ก็ทำให้ผมรู้สึกว่า โอ้โห!! แบบนี้ใครจะไปเอาชนะบุรีรัมย์ ได้ 

โอเคละว่า มันไม่ได้มีแค่ 3 ทีมที่บอกไปว่ามีโอกาสจะชนะบุรีรัมย์ ได้ มันยังมีอีกตั้ง 12 ทีม บางที่อาจจะเป็นทีมเหล่านี้ก็ได้ ถ้าพูดถึงความเป็นไปได้ก็จริงครับ เพราะบางฤดูกาลก็มีที่บุรีรัมย์ แพ้ให้กับทีมกลางตารางหรือท้ายตาราง มันก้มีให้เห็น

แต่ว่ากันตามความเป็นจริง กับขุมกำลังและตัวผู้เล่นของบุรีรัมย์ในฤดูกาลนี้ ถ้าแบบไม่จัดตัวสำรอง แล้วส่งฟูลทีมทุกเกม ผมว่ายากมากที่จะมีทีมไหนหยุดพวกเขาได้ เพราะถ้าเอา 11 ตัวจริงในแต่ละเกมมาเทียบกัน ไม่นับ 3 ทีมที่ว่า บุรีรัมย์ เหนือกว่าเยอะมากๆ ดูอย่างเกม พีที ประจวบ ขนาดพักตัวหลักไว้บ้าง ก็ยังสู้ไม่ได้เลย

ซึ่งถ้าปีนี้บุรีรัมย์ ลงเตะแค่ 3 รายการในประเทศ ผมว่ามีโอกาสสูงที่พวกเขาจะคว้าสามแชมป์ได้อีกครั้ง แต่ในเมื่อมีอีก 2 ถ้วยต่างประเทศต้องลงเตะ การโรเตชั่น และบริการจัดการนักเตะเป็นเรื่องสำคัญ

แต่ให้คุณจะมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งหรือตัวผู้เล่นเยอะแค่ไหน แต่คุณก็ไม่สามารถใช้ตัวหลักได้ทุกถ้วยทุกรายการ หรือลงเตะติดๆ กันได้ตลอด ไหนจะช่วงฟีฟ่าเดย์ นักเตะเกือบทั้งทีมก็ต้องไปทีมชาติอีก เรียกว่านักเตะบุรีรัมย์ แทบจะไม่ได้พักเลย

ตอนนี้ยังเป็นช่วงต้นฤดูกาล เดี๋ยวหลังจากนี้บอลถ้วยของไทยอย่าง เอฟเดอ คัพ และ ลีก คัพ ก็จะมาแล้ว ในขณะที่เกมลีก บอลเอซีแอล และสโมสรอาเซียน ก็ยังต้องเตะอยู่ด้วย ยิ่งถ้าเข้ารอบลึกๆ ได้ทุกถ้วย เชื่อว่าบุรีรัมย์ ก็ต้องมีล้า มีทรุดบ้าง

ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นก็ไม่แน่ที่จะทำให้พวกเขาต้องพบกับความพ่ายแพ้เกมแรกในไทยลีกก็เป็นได้ ซึ่งเราคงต้องมารอดูกัน  

แต่ถ้าดูเฉพาะผลงานและมาตรฐานในเวลานี้ ก็บอกตามตรงว่ายังคิดไม่ออกว่าจะมีใคร หยุดบุรีรัมย์ ไม่ให้เป็นแชมป์ไทยลีก สมัยที่ 10 ได้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline