เวลาผ่านมา 12 ปี เรื่องราวแห่งเบงกาซี เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เกิดขึ้นกับวงการฟุตบอล เป็น 12 ชั่วโมงนรกที่ ทีมชาติไนจีเรีย ต้องประสบพบเจอกับการเอาชีวิตรอด ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับ เบงกาซี โดยตรง แต่จุดหมายปลายทางที่ต้องไปคือเมืองเบงกาซี
เรื่องราวนี้มันดราม่า และ เหมือนตกอยู่ในขุมนรกมากเพียงใด มาติดตามกันในช่วงของ จารย์ฮาย กระจายเรื่อง กันเลยครับ
"มันไม่ใช่ฟุตบอลแล้วว่ะ เป็นอะไรที่โคตรน่าอัปยศ พวกแม่งไม่สมควรมาเป็นเจ้าบ้านเลยจริงๆ"
นี่คือโพสต์สตอรี่อันดุเดือดของ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ มิดฟิลด์ทีมชาติไนจีเรีย หลังจากที่เพื่อนๆ และ ทีมงานของเขา ต้องเผชิญกับชั่วโมงนรก เมื่อต้องเดินทางไปแข่งขันที่เมือง เบงกาซี ประเทศลิเบีย ในการแข่งขัน แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ รอบคัดเลือก นัด 2 แต่พวกเขากลับถูกกักขัง อยู่ในสนามบินมากกว่า 12 ชั่วโมง ไม่มีแม้แต่อาหาร ไม่มีแม้แต่น้ำดื่ม ทำไม่ได้แม้กระทั่งเดินไปข้างนอก
เรื่องราวสุดแสนจะดราม่า ที่แม้แต่ใครคนนึงก็ไม่สมควรพบเจอ มันเกิดขึ้นจากการที่
นักเตะทีมชาติไนจีเรีย มีคิวเดินทางไปเยือน ลิเบีย เพื่อเตะเกม 2 ในศึก แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ รอบคัดเลือก คืนวันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม นี้ ซึ่งหลายๆครั้ง พวกเราจะเห็นเคสที่เจ้าบ้าน มักจะทำให้ ทีมเยือน เจอความยากลำบากอยู่บ่อยๆ ทั้งการเดินทาง ทั้งเรื่องอาหาร หรือ ที่พักอะไรก็ตามแต่ เพื่อความได้เปรียบเล็กๆน้อยๆ ที่ต่างกรรม ต่างวาระ กันไป แต่ ไนจีเรีย กำลังจะเจอเรื่องที่มันอันตรายต่อชีวิตเลยทีเดียว
เพราะมีรายงานว่า นักเตะ และ บรรดาทีมงานสตาฟฟ์โค้ชของทีมชาติไนจีเรีย ติดแหง็กอยู่สนามบินประเทศลิเบีย นานกว่าครึ่งวัน โดยไม่มีแม้กระทั่งอาหาร และ น้ำไว้ประทังชีวิต ทั้งๆที่เกมการแข่งขันจะเกิดขึ้นในอีกราวๆ 24 ชั่วโมงข้างหน้าเท่านั้นเอง
สาเหตุที่นักเตะ ไนจีเรีย ต้องติดแหง็กอยู่ที่สนามบินลิเบีย เป็นเพราะว่า เที่ยวบินเช่าเหมาลำของนักเตะไนจีเรีย ซึ่งเดิมทีมีหมุดหมายปลายทางไปยังเมืองเบงกาซี ดันถูกเปลี่ยนเส้นทางฉุกเฉิน ให้ไปลงยังสนามบิน "อัล-อาบรัค" ซึ่งอยู่ห่างจากสนามแข่งขัน ในเมืองเบงกาซี ถึงราวๆ 4 ชั่วโมง หรือ ประมาณ 200 กว่ากิโลเมตร
และ ในขณะที่เครื่องบินแลนดิ้งสู่ "อัล-อาบรัค" .. นักเตะ และ ทีมงานสตาฟฟ์โค้ช กลับถูกกักขังอยู่ในสนามบิน ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากพื้นที่โดยเด็ดขาด ไม่มีอาหารให้กิน ไม่มีเครื่องดื่มให้ดื่ม ไม่มี Wifi และ อินเตอร์เน็ต ให้ติดต่อกลับโลกภายนอก
บรรดาแข้ง อินทรีมรกต รู้สึกว่านี่ไม่ใช่การแข่งขันแล้ว แต่เอาความเป็นความตายของชีวิตมาแขวนบนเส้นด้าย เพราะสนามบินแห่งนี้ เหมือนเป็นสนามบินร้าง ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ต้องหลับนอนแบบอัตคัด บนเก้าอี้ที่นั่ง รวมถึงหลายๆคนต้องเอาของมีค่าใส่ไว้ในเสื้อแจ็คเก็ต เพื่อป้องกันการถูกขโมย ตอนที่พวกเขาหลับนอน
วิลเลียม ทรูสต์-เอคอง กัปตันทีมชาติไนจีเรีย ได้โพสต์ระบายเล่าเหตุการณ์ชั่วโมงนรกที่ ลิเบีย ไว้ว่า “พวกเราต้องติดแหง็กอยู่ตรงสนามบินที่ถูกทิ้งร้างในลิเบีย มามากกว่า 12 ชั่วโมงแล้ว หลังจากเครื่องบินของเราถูกเปลี่ยนเส้นทางขณะกำลังลงจอด”
"รัฐบาลลิเบีย ได้ยกเลิกการอนุมัติการลงจอดที่เมืองเบงกาซี แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย พวกเขาขังพวกเราเอาไว้อยู่ในสนามบิน โดยตัดขาดการใช้สัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีอาหารหรือน้ำให้ดื่ม มันเหมือนเป็นการเล่นเกมจิตวิทยา”
สุดท้าย สมาคมฟุตบอลลิเบีย ส่งรถตู้ธรรมดาๆ มารับที่สนามบิน และ เป็นรถตู้เล็กๆ ซึ่งต้องนั่งเบียดกัน สาเหตุที่ ลิเบีย ทำแบบนี้ เพราะมีรายงานว่า เกมที่ ลิเบีย บุกไปแพ้ที่บ้าน ไนจีเรีย มาก่อน 0-1 พวกเขาก็โดน ไนจีเรีย ปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสม ในระหว่างการเดินทางมาแข่งขันในเกมนัดแรกเช่นกัน
แต่ข้อกล่าวหานี้ สมาคมฟุตบอลไนจีเรีย ปฏิเสธไปเรียบร้อย โดยทาง อินทรีมรกต ยืนยันว่า พวกเขามีความเป็นมืออาชีพ และ ไม่ได้กระทำการใด ๆ ที่ขัดกับกฏระเบียบกับทาง ฟีฟ่า แต่อย่างใด
แน่นอนว่า การกระทำลักษณะดังกล่าว ไม่ควรมีใครจะต้องมาพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ โดยทาง วิคเตอร์ โอซิเมน กองหน้าตัวเก่งของทีมชาติไนจีเรีย ได้เรียกร้องให้สหพันธ์ฟุตบอลแอฟริกัน (CAF) เข้ามาเทค แอคชั่น ในกรณีนี้ และ พวกเขายืนยันว่าไม่ต้องการลงแข่งขัน กับการปฏิบัติที่มันดูน่าอัปยศครั้งนี้
"ผมผิดหวังกับการปฏิบัติที่ไม่ยุติธรรมที่พี่น้องและโค้ชของผม ต้องประสบพบเจอที่สนามบินลิเบียเมื่อคืนนี้ มันขัดกับจิตวิญญาณของการเล่นกีฬามากเหลือเกิน ผมขอเรียกร้องให้สหพันธ์ฟุตบอลแอฟริกัน (CAF) เข้ามาช่วยเหลือ นี่เป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมจริงๆ”
เรื่องราวมันดูรุนแรงมากกว่าเดิม เมื่อ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ คนเดิม ยังได้โพสต์ผ่านสตอรี่อีกครั้ง ด้วยการทิ้งท้ายว่า "นี่มันเริ่มน่ากลัวขึ้นทุกทีแล้ว ตอนนี้ผมรู้สึกกลัวมากๆเลย ผมกลัวว่าพวกเราจะไม่มีชีวิตกลับไป"
เพราะต้องอย่าลืมว่า ก่อนการแข่งขันยังต้องมาเจอชั่วโมงอัปยศขนาดนี้ และ ต้องไปเล่นต่อหน้าแฟนบอล ลิเบีย ซึ่งมีความจุประมาณ 11,000 คน มันจะอันตรายแค่ไหน ถ้าหากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ควบคุมฝูงชนไม่อยู่ รวมถึงร่างกายของนักเตะ ไนจีเรีย อาจจะไม่พร้อมสำหรับการแข่งขันในแมตช์นี้ด้วยซ้ำ
ล่าสุด มีรายงานว่า นักเตะ และ สตาฟฟ์โค้ช ทีมชาติไนจีเรีย ได้บอร์ดดิ้ง เดินทางออกจากประเทศลิเบีย และ บินกลับไปยังประเทศไนจีเรีย แล้ว โดยไม่ขอรอแถลงการณ์จาก สหพันธ์ฟุตบอลแอฟริกัน (CAF) ว่าจะให้แข่งขันต่อ หรือ จะให้เลื่อนเกมนี้ออกไป เรียกๆง่ายว่าพร้อมโยน 3 คะแนนทิ้งไป เพื่อรักษาชีวิตให้รอดปลอดภัย
ฮาย ฮาวดี้-