เหมาะสมด้วยประการทั้งปวงกับเจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ ปี 2024 อย่าง โรดรี้ มิดฟิลด์ผู้ปิดทองหลังพระจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ผงาดคว้ารางวัลลูกบอลทองคำสมัยแรกมาครองได้สำเร็จอย่างเป็นเอกฉันท์
และยังเป็นแข้งสเปนรายแรกในรอบ 64 ปีที่คว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้มาครอง ต่อจาก หลุยส์ ซัวเรซ ตำนานบาร์เซโลน่า เมื่อปี 1960
นอกจากนั้นยังเป็นนักเตะที่ค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก คนแรกในรอบ 16 ปี ต่อจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เคยทำได้สมัยค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาล 2008
แต่ถ้าหากย้อนกลับไปเมื่อวันสองวันที่ผ่านมาสื่อเจ้าดังของสเปนอย่าง มาร์ก้า ประโคมข่าวอย่างมั่นอกมั่นใจแบบเต็มประดาว่า วินิซิอุส จูเนียร์ จะคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ได้แน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์
ด้วยผลงานอันร้อนแรงดุจไฟบรรลัยกัลป์เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ระบิดตาข่ายไปทั้งหมด 24 ประตู กับอีก 11 แอสซิสต์ จากการลงสนามทั้งหมด 39 นัดรวมทุกรายการ
แถมยังมีส่วนสำคัญในการพาทีมเถลิงบัลลังค์แชมป์ ลาลีกา สเปน และ ถ้วยหูใหญ่ยุโรปอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองอย่างยิ่งใหญ่
แต่ทว่าผลงานส่วนตัวของ วินิซิอุส ในศึก โคปา อเมริกา กับ ทีมชาติบราซิล กลับไม่เป็นดั่งหวัง ทำได้เพียง 2 ประตูเท่านั้น พาทีมจอดป้ายได้เพียงแค่รอบ 8 ทีม
ในทางกลับกันทางฝั่ง โรดรี้ แม้จะไม่ได้ยิงประตูระเบิดระเบ้อ แต่ด้วยจำนวน 9 ประตู กับอีก 14 แอสซิตส์ ในตำแหน่งมิดฟิลด์หมายเลข 6 ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา แถมแต่ละประตูที่พี่แกทำได้ล้วนเป็นประตูตัดสินเกมทั้งสิ้น ส่วนใหญ่มักมาตอนท้ายเกม ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทีมต้องการประตู เพื่อเก็บคะแนน
ส่วนหน้าที่หลักในตำแหน่งปิดทองหลังพระ โรดรี้ ก็ทำได้แบบไม่ขาดตกบกพร่อง เป็นหัวใจสำคัญในแผงมิดฟิลด์ของ แมนฯ ซิตี้ ที่คอยปัดกวาดหลังบ้าน และ อัปเกรดแผงแนวรุก ให้มีความน่าเกรงขามมากยิ่งขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น โรดรี้ ไม่ใช่นักเตะที่จะยืนปัดกวาด หรือคอยตัดเกมคู่แข่งอย่างเดียว เหมือนผู้เล่นมิดฟิลด์หมายเลข 6 ธรรมดาทั่วไป แต่เขายังมีสกิลในการจ่ายบอลที่แม่นยำ เฉลี่ยทั้งฤดูกาลเขามีอัตราความแม่นยำการผ่านบอลสำเร็จสูงถึง 92 เปอร์เซ็นต์
แถมยังแปรเปลี่ยนตัวเองให้เป็นมิดฟิลด์หมายเลข 8 ได้อย่างไม่มีที่ตี คอยสอดขึ้นมาทำประตู หรือมาแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมอยู่บ่อยครั้ง
เรียกได้ว่า โรดรี้ เป็นดั่งกระดูกสันหลังคนสำคัญที่ แมนฯ ซิตี้ ขาดไม่ได้ เพราะตลอด 3 นัดที่ ทัพเรือใบสีฟ้า พบเจอกับความปราชัย นั่นคือนัดที่ โรดรี้ ไม่ได้ลงสนาม
นอกจากนั้นพี่แกยังทำสถิติสุดมหัศจรรย์ ด้วยการพาทีมไร้พ่าย ยามที่ตัวเองลงสนามยาวนานถึง 74 นัด ตลอดระยะเวลา 471 วัน แซงหน้าสถิติเดิมของ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ตำนานกองหลัง เชลซี ผู้ทำไว้ 58 นัดระหว่าง 2006-2008 แบบไม่เห็นฝุ่น
พร้อมกับพา ทัพเรือใบสีฟ้า สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 4 สมัยซ้อนเป็นทีมแรก ซึ่งสตอรี่อันน่าเหลือเชื่อนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีนักเตะอย่าง โรดรี้
และจุดชี้วัดของรางวัล บัลลงดอร์ คือผลงานในศึก ยูโร 2024 ซึ่ง โรดรี้ ดันทำผลงานกับ ทีมชาติสเปน ได้ไฉไลเป็นบ้า คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ แถมยังพา ทัพกระทิงดุ กลับมาคว้าแชมป์รายการเมเจอร์อีกครั้งในรอบ 12 ปี
เพียงเท่านี้ก็บ่งบอกได้แล้วว่าผลงานตลอดปีที่ผ่านของ โรดรี้ นั้นเหนือดุจเทวดามากแค่ไหน เล่นในตำแหน่งที่ไม่มีผู้คนชายตามอง แต่เขากลับทำให้มันเจิดจรัสขึ้นมาได้
ฟุตบอลไม่จำเป็นต้องยิงประตูหลักสิบหรือหลักร้อย แต่ขอแค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และพยายามมันอย่างเต็มที่ สุดท้ายแล้วคุณจะได้สิ่งสวยงามตอบแทนกลับคืนมา
และ โรดรี้ ก็ทำสิ่งนั้นให้แฟนบอลทั่วโลกได้เห็น ดังนั้นแล้วรางวัล บัลลงดอร์ เป็นสิ่งที่คุณคู่ควรจะได้รับมันอย่างแท้จริง