logo-heading

ฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2025/26 ออกสตาร์ทมาแล้ว 4 นัด การท่าเรือ เอฟซี เก็บได้แค่ 4 คะแนน จากการชนะ 1 เสมอ 1 และแพ้ไปถึง 2 เกม (ฟอร์มเดียวกับทีมสีแดงแห่งเมืองแมนเชสเตอร์เลย!!)

ก่อนเปิดฤดูกาล “สิงห์เจ้าท่า” เป็นทีมที่ใครๆ ก็ยกให้ว่าจะเป็นผู้ท้าชิงแชมป์ไทยลีก ที่สูสีกับ “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ด้วยการที่ได้ อเล็กซานเดร กาม่า กุนซือระดับอ๋องของเมืองไทยเข้ามาคุมทีม บวกกับผลงานช่วงปรีซีซั่นสวยหรู ชนะรวด 6 นัด

แถมยังไปคว้าแชมป์ฟุตบอลรายการพิเศษที่อินโดนีเซีย มาด้วย ทั้งการตบสองทีมเจ้าถิ่นอย่าง เปอร์ซิบ บันดุง กับ เดวา ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นสองทีมหัวตารางของลีกอินโดฯ โดยที่นัดชนะ อ๊อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด ทีมจากเดอะแชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ มาได้ด้วย

อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้การท่าเรือ ดูน่ากลัวขึ้นมานั่นคือการเสริมทัพตัวต่างชาติ ที่ได้นักเตะระดับดีกรีไม่ธรรมดาหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด นายทวารทีมชาติฟิลิปปินส์ มาแก้ปัญหาผู้รักษาประตู

ได้ เรบิน สุลาก้า กองหลังทีมชาติอิรัก ที่เคยสร้างชื่อกับบุรีรัมย์มาแล้ว ไหนจะนักเตะจากละตินอเมริกาทั้งจาก บราซิล และ โคลัมเบีย มีทั้ง มาเธอุส ปาโต้, มาเธอุส ลินส์, กาก้า เมนเดส และ  บรายาน เปเรีย กองหน้าตัวความหวังชาวโคลอมเบีย

ซึ่งนัดแรกของฤดูกาล ก็เหมือนทุกอย่างจะเป็นไปอย่างที่ทุกคนคิด เพราะการท่าเรือ ประเดิมนัดแรกได้ร้อนแรงมาก ด้วยการเอาชนะน้องใหม่ อยุธยา ยูไนเต็ด 3-1 ยิ่งได้เห็นเกมรุกอันดุดัน และตัวต่างชาติที่เสริมมาแบบเต็มๆ ยิ่งทวีความน่ากลัว และทุกคนก็คิดว่านี่แหละ “การท่าเรือ” ที่แฟนๆ รอยคอ แฮร่!! รอคอย!!

แต่จากนั้นแต่เกมถัดมาด้วยการออกไปเยือนสุโขทัย พวกเขาก็ต้องพบกับความพ่ายแพ้นัดแรกของฤดูกาล ทั้งๆ ที่เกมนี้ทุกคนมั่นใจว่าการท่าเรือ ชนะใสแน่นอน

ต่อด้วยเปิดบ้านเสมอกับ ระยอง เอฟซี 1-1 และล่าสุดบุกไปพ่าย ราชบุรี เอฟซี 1-0 พอจบเกมนี้ ทำให้เกิดคำถามขึ้นมากมายว่า “เกิดอะไรขึ้นกับทีมการท่าเรือ” ที่ตอนแรกก้มาดีๆ แต่เล่นไปเล่นมา ชนะคู่แข่งยากซะอย่างนั้น

“กาม่า” ที่ถูกยกย่องว่าจะมาเป็นผู้ปลุกสิงห์เจ้าท่า ตัวนี้ขึ้นมา กลับเป็นกุนซือรายแรกๆ ที่มีโอกาสถูกปลดในฤดูกาลนี้

พูดถึงปัญหาของการท่าเรือ ดูแล้วคงไม่ต่างจากปัญหาของทีม แมนฯ ยู ตอนนี้ ที่เหมือนเป้นปัญหาฝังลึกมาแต่ไหนแต่ไร ซึ่งเรื่องนี้แฟนๆ สิงห์เจ้าท่าคงรู้ดี ตอนแรกที่ฟอร์มดี มันก็เหมือนจะมีความมั่นใจ แต่พอเริ่มสะดุด ก็พากันฟอร์มตกไปทั้งทีม 

ซึ่งเรื่องนี้เจอกันมาแล้วทุกโค้ชของการท่าเรือ เปลี่ยนใครมาก็เจอปัญกานี้ตลอด มีทั้งคนที่แก้ปัญหาได้ และก็อยู่กันไปจนจบฤดูกาล แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน อันดับในลีกก็ไม่ได้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้

บางคนอยู่ไม่ได้ ทนกระแสไม่ไหว ก็ต้องแยกย้ายกันไป ตอนนี้ปัญหานั้นกำลังเกิดขึ้นกับ “กาม่า” ล่าสุดมีนักเตะเล่นไปจบครึ่งแรกมาขอเปลี่ยนตัว กุนซือบราซิลถึงกับมึน อย่างนี้ก็มีด้วย!! ก็ยังไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้ว กาม่า จะแก้ปัญหาได้ แล้วอยู่ต่อกันไป หรือจะต้องแยกย้ายกันหลังจากนี้

แต่ถ้าเราจะเจาะลึกถึงปัญหาที่ทำให้ผลงานในสนามมันออกมาไม่ดี มันก็มีอีกเรื่องที่น่าสนใจ นั่นก็คือเรื่องของตัวผู้เล่น ที่ตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา เหมือนกับว่า “กาม่า” ยังไม่ได้ใช้ผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามเลย

อย่างก่อนเปิดฤดูกาลก็ต้องมาเสียแบ็คซ้ายตัวเก่งอย่าง เควิน ดีรมรัมย์ ที่อินดี้ขอย้ายทีมเฉย!! ทั้งๆ ที่เป็นตัวหลักของทีมมาโดยตลอด และปรีซีซั่นก็ผลงานดี

ต่อด้วย บดินทร์ ผาลา ที่ถูกอาการบาดเจ็บลักตัวไปอีกก่อนเตะนัดแรก อย่าลืมว่า บดินทร์ คือนักเตะแนวรุกตัวหลักของทีม และเป็นกัปตันทีมที่มีส่วนร่วมกับเกมรุกของการท่าเรือมากที่สุด ต้องมาเจ็บยาวไป

ตัวหลักคนไทยหายไปแล้ว 2 คนก่อนเปิดฤดูกาล โอเคละ ซีซั่นนี้มีการเพิ่มโควต้าต่างชาติขึ้นมา ยังดีที่ตัวต่างชาติเป็นระดับเกรดเอทั้งนั้น ทำให้เกมแรกเก็บชัยชนะสวยหรู แต่หลังจบเกมแรกพวกเขาต้องเสียนักเตะเพิ่มอีกทั้ง กาก้า เมนเดส ที่เล่นไปไม่จบครึ่งแรกก็บาดเจ็บ เรบิน สุลาก้า เล่นครึ่งเดียวเจ็บไปอีก ลูคัส ที่ลงมาแทน กาก้า แล้วยิงได้ ก็มาเจ็บไปอีก

ทำให้เกมต่อๆ มา “กาม่า” ต้องเจอปัญหาเรื่องการจัดทัพตลอด โดยเฉพาะตำแหน่งสำคัญอย่าง “กาก้า” ที่เป็นจอมทัพในเกมรุก

เกมนัดที่สาม กาก้า กลับมาได้ ดันไปโดนไปแดงอีก นัดที่ 4 ลงไม่ได้ ขณะที่ มาเธอุส ปาโต้ ก็เจ็บออดๆ แอดๆ เพิ่งจะเล่นได้แค่ 2 เกม กาก้า เดี๋ยวเจ็บ เดี๋ยวแดง ลูคัส เล่นนัดแรกนัดเดียวแล้วก็หายไปเลย ยังกลับมาลงสนามไม่ได้ บรายาน เปเรีย ยิงนัดแรกนัดเดียวแล้วก็ฝืดไปเลย 

ส่วนตัวไทยไม่ต้องพูดถึง เมื่อต่างชาติที่เป็นตัวแบกของทีมพากันฟอร์มตก ตัวไทยก็ฟอร์มตกตามไปด้วย เหมือนแมนฯ ยู ยังไงยังงั้น

ล่าสุดมีรายงานว่าบอดร์ดบริหารให้เวลา กาม่า อีก 3 เกมหลังจากนี้ ก่อนพักเบรกทีมชาติ ต้องพาทีมกลับมาเก็บชัยชนะ และกลับมาฟอร์มดีให้ได้ ซึ่งเริ่มจากวันศุกร์นี้ด้วยการรับมือชลบุรี ถือเป็นเกมที่สำคัญสุดๆ เล่นในบ้านด้วย ไม่มีคำตอบอื่นนอกจากสามแต้ม

นัดต่อไปเยือน บีจี ปีที่แล้วแพ้ไปกลับ แต่เกมนี้บังคับต้องมีแต้ม และนัดสุดท้าย เปิดบ้านเจอพลังกาญจน์ ถ้าสองเกมแรกฟอร์มดี ก้มีโอกาสที่นัดนี้จะไม่มีปัญหา แต่ถ้าสองเกมแรกไม่ดี บางทีตอนเจอ พลังกาญจน์ อาจจะไม่ใช่ กาม่า แล้วก็เป็นได้

แต่สุดท้ายผมยังเชื่อลึกๆ ว่า ประสบการณ์ของ “กาม่า” จะพาทีมกลับมาได้ และน่าจะยังได้คุมทีมการท่าเรือ ต่อไปในฤดูกาลนี้

มีคำถามเล่นๆ ว่า “กาม่า” กับ “อโมริม” ใครจะไปก่อนกัน อันนี้ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน เพราะบอลไทย บางทีอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ 

แต่สำคัญที่สุดก็คือเกมวันศุกร์นี้ กาม่า ต้องชนะเท่านั้น ถ้าเป็นอย่างอื่นก็ตัวใครตัวมันครับผม!!

#ชิชาริเต่า

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline