logo-heading

ลิเวอร์พูล คว้าตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า ชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จตามคาด แม้จะต้องรอลุ้นจนถึงนัดสุดท้าย หลังเปิดบ้านไล่ยำใหญ่ใส่ ไบรท์ตัน 4-0 เรียกความมั่นใจก่อนฉะกับ เรอัล มาดริด ในนัดชิง ชปล. 26 พ.ค. นี้

โจทย์ของทัพ "หงส์แดง" ในเกมนี้คือขอแค่เจ๊ากับ ไบรท์ตัน ก็เพียงพอแล้วที่จะการันตีการจบท้อปโฟร์ แต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่สนใจสั่งลูกทีมเเดินหน้าบุกแหลกเต็มกำลัง ตั้งแต่ต้นเกม ก่อนจะเรียงกันยิงไม่ซ้ำหน้าครึ่งละ 2 ประตู จาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่จบฤดูกาลด้วยการเป็นดาวซัลโวสูงสุด 32 ตุง, เดยัน ลอฟเรน, โดมินิค โซลันกี้ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ฟอร์มแจ่มแมวแวววับขนาดนี้ทีมงาน "ขอบสนาม" ก็ไม่พลาดที่จะตัดเกรดมาให้ดูกัน ถูกใจไม่ถูกใจคนไหน คอมเม้นท์บอกกันได้เลยครับ

ตัวจริง

ลอริส คาริอุส 6.5 แทบไม่มีงานอะไรต้องทำเลย เพราะทั้งเกม ไบรท์ตัน มีโอกาสยิงแค่ 2 ครั้ง ตรงกรอบทีเดียว แล้วก็ไม่ใช่ลูกอันตราย เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ 7 มีจังหวะเติมเกมรุกขึ้นมาสวยๆ การจ่ายบอลและพาบอลขึ้นหน้าถือว่าดี ลูกแรกที่ได้ประตูขึ้นนำเขาก็เป็นคนเริ่ม แต่เกมรับยังดูหลวมๆ ไปบ้าง ถ้า โจ โกเมซ หายเจ็บ บวกกับ นาธาเนียล ไคลน์ ฟิตเต็มสูบอาจโดนแย่งตำแหน่งได้ เดยัน ลอฟเรน 7.5 จับคู่กับ ฟาน ไดจ์ค ได้เข้าขาขึ้นเรื่อยๆ แถมเกมนี้ยังเติมมาโขกทำประตูได้อีกด้วย จังหวะเหวอๆ ที่เคยเป็นจุดอ่อนเริ่มไม่มี แต่ส่วนนึงก็เป็นเพราะเกมรุก ไบรท์ตัน ไม่ดีพอ เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค 7.5 แข็งแกร่ง หนักแน่น ลูกโด่งเก็บกินได้แทบทั้งหมด เริ่มคุ้มกับค่าตัวอันมหาศาล พร้อมลบคำสบประมาทได้เรื่อยๆ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน 9 (แมน ออฟ เดอะ แมตซ์) ค่าตัวไม่ถึง 10 ล้านปอนด์ คุ้มของโคตรคุ้มจริงๆ เกมรุกสะเด่าแอสซิสต์ให้ ลอฟเรน โขกลูกสอง วิ่งไล่บี้ไม่มีหมด ตามสไตล์ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ชอบเลย เกมรับอาจต้องปรับอีกนิด แต่โดยรวมถือว่าสุดยอด แถมซัดปิดกล่องเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในสีเสื้อ "หงส์" ด้วย จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม 7 ช่วงนี้ต้องใช้บริการพี่แกบ่อยหน่อย เพราะกองกลางเจ็บเยอะ โดยฟอร์มรวมๆ ก็ทรงๆ ไม่ดีไม่แย่ หาจังหวะยิงได้แต่ก็ไม่ดี มีจ่ายบอลพลาด ขาดๆ เกินๆ บางจังหวะ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 7.5 คอยประคองเกมแดนกลาง คุมจังหวะเกม มีจังหวะวางบอลยาวสวยๆ อยู่เหมือนกัน ถือว่าเล่นได้ตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 8.5 กลับมายิงได้อีกครั้ง ถือว่าเรียกความมั่นใจได้ดีก่อนลุย ชปล. นัดชิง เล่นดีเหมือนเดิมแม้จะดูเก็บแรงกลัวเจ็บ แต่ยังวูบวาบอยู่ แถมจ่ายบอลให้เพื่อนสวยๆ หลายจังหวะ ประตูที่ 3 ที่ โซลันกี้ ยิงเจ้าตัวก็เป็นคนแอสซิสต์ให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ 7 หากพูดกันตามตรงในบรรดาผู้เล่นเกมรุก "หงส์แดง" 4 คน ฟีร์มีโน่ คือคนที่ด้อยสุดในนัดนี้ มีโอกาสยิง 4-5 ครั้ง จ่อๆ 2 หนได้แต่เปลี่ยนเป็นประตูไม่สำเร็จ ทว่าความขยันในการวิ่งไล่บอล เชื่อมเกมจากกลางสู่หน้ายังดีเหมือนเดิม ซาดิโอ มาเน่ 7.5 โดยรวมถือว่าเล่นได้ดี แต่จังหวะช่วงต้นเกมที่หลุดไปแล้ว ไม่ยอมจ่ายกลับให้ ฟีร์มีโน่ ยังตราตรึง เลยขอหักคะแนนซะหน่อย ส่วนอีกจังหวะหลังจากนั้น หลุดตีคู่มากับ ซาลาห์ ลูกนี้อุตส่าห์ส่งแต่ดันกั๊กๆ กันไปเอง เลยกลายเป็นยิงไม่เข้า อีกอย่างคือควรคุยกับ ฟีร์มีโน่ เผื่อจะได้รู้ใจกันหน่อยจังหวะไหนใครควรยิง ใครควรจ่าย โดมินิค โซลันกี้ 8 เล่นได้ดีเกินคาดสำหรับนัดนี้ ปั่นป่วนแผงหลัง ไบรท์ตัน ได้เยี่ยมเลย เป็นคนแอสซิสต์ให้ ซาลาห์ ยิงประตูแรก มีจังหวะตอกส้นไปให้ มาเน่ ยิงด้วย ส่วนครึ่งหลังยังซัดเช็ดใต้คานเข้าประตู เป็นประตูแรกของเขากับ ลิเวอร์พูล ด้วย ทั้งยิงทั้งจ่ายแบบนี้ ดูดีมีอนาคต

ตัวสำรอง

อดัม ลัลลาน่า 7 พี่ม้วน ถูกส่งลงมาเรียกความฟิตช่วง 15 นาทีสุดท้าย ลงมาได้ 5 วิก็เกือบจะโดนใบเหลืองเลยจากจังหวะยกขาสกัดข้อเท้าคู่แข่ง แต่โดยรวม 15 นาทีในสนามก็ถือว่าสอบผ่าน ลูกที่ 4 เขาก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทีมได้ประตู แดนนี่ อิงส์ 7 ลงมาแทน ซาลาห์ ในนาทีที่ 83 และเป็นคนที่ฉ๊กออกมาเล่นทางซ้ายก่อนจะครอสบอลเข้าไปให้ ไบรท์ตัน สกัดทิ้งมาเข้าทาง โรเบิร์ตสัน ซัดตุงตาข่าย เวลาแค่ 7 นาทีมีผลงานนี้ก็ถือว่าสอบผ่าน เบน วู้ดเบิร์น 6.5 ลงมาพร้อม แดนนี่ อิงส์ แทน ฟีร์มีโน่ แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมเท่าไหร่เลย
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline