logo-heading

"ตราหมี" คือทีมที่ได้ชื่อว่ามีกองหน้าระดับใช้งานมาตลอดในช่วงราว 10 ปีที่ผ่านมา บางคนยังอยู่ในความทรงจำของใครหลายๆ คน ไปย้อนความทรงจำกันหน่อยว่ามีเคยอยู่ในซุ้มมือปืนบ้าง

แอตเลติโก มาดริด คือยอดทีมของ สเปน ที่เป็นทีมใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ใหญ่ขนาดก้าวขึ้นมาท้าอำนาจ บาร์เซโลน่า กับ เรอัล มาดริด ได้ทุกซีซั่น แต่สิ่งที่ได้รับยกย่องมาตลอดว่ามีหัวหอกชั้นดีใช้งานไม่เคยขาดมือ จนแทบจะกลายเป็นแหล่งผลิตมือปืนให้กับวงการฟุตบอลมาตลอดหลายปีมานี้ เราจะอาสาไปดูกันหน่อยว่าช่วงพีคๆ ราวสิบกว่าปีมานี้ มีใครให้พูดถึงกันบ้าง หน้าหมี! ย้อนรอยหัวหอกสดจี๋ ซุ้มมือปืน แอตฯ มาดริด 1. เฟร์นานโด ตอร์เรส (2000-2007, 2015-2018) กองหน้าลูกหม้อที่เป็นยุคบุกเบิก เริ่มทำให้ "(กอง)หน้า(ตรา)หมี" ถูกจับตามอง เป็นแข้งลูกหม้อของทีม แต่ฝีเท้าอยู่ในระดับพระกาฬมหาประลัยตั้งแต่สมัยยังเป็นดาวรุ่ง ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ตั้งแต่ปี 2000 แล้วพาทีมเลื่อนชั้นมาในปี 2002 และยึดตำแหน่งตัวจริงยาวๆ แบบไม่แบ่งหน้าที่สังหารประตูให้ใคร แถมได้รับความไว้วางใจให้เป็นกัปตันทีมตั้งแต่อายุแค่ 19 ปี แต่ทุกอย่างย่อมมีจุดสิ้นสุด แม้จะทำได้ดีแค่ไหน แต่ "ตราหมี" ในตอนนั้นก็ไม่ใหญ่พอสำหรับเขาที่กำลังทะยานสู่ระดับโลก ใจก็ไม่อยากย้ายไปเป็นคู่แข่งทีมรักด้วยการย้ายไปทีมอื่นในสเปน เขาย้ายไป ลิเวอร์พูล ในปี 2007 ไปเป็นลูกรักของ ราฟาเอล เบนิเตซ ที่ แอนฟิลด์ ทิ้งผลงานเล่น 244 นัด ยิง 91 ประตูในทุกรายการไว้ ก่อนที่สุดท้ายจะย้ายกลับไปอีกครั้งในปี 2015 อยู่ยาวในช่วงท้ายอาชีพค้าแข้งมาจนถึงปัจจุบัน และจะอำลาทีมอีกครั้งหลังจบซีซั่นนี้ โดยยังไม่รู้ว่าจุดหมายคือที่ไหน สถิติตอนนี้ 401 นัด ยิง 127 ประตู หน้าหมี! ย้อนรอยหัวหอกสดจี๋ ซุ้มมือปืน แอตฯ มาดริด 2. เซร์คิโอ อเกวโร่ (2006-2011) "เอล กุน" เป็นนักเตะที่ แอตฯ มาดริด คว้าตัวมาในฤดูกาล 2006-07 ได้เล่นกับ ตอร์เรส อยู่ 1 ฤดูกาล แต่ตอนนั้นก็มาในฐานะดาวรุ่ง ได้เล่นเต็มๆ แต่ยิงได้แค่ 6 ลูก แต่เมื่อ ตอร์เรส ออกจากทีมไป เขาก็กลายเป็นนักเตะที่ทีมขาดไม่ได้ แม้จะตัวเล็ก แต่ก็มีความเร็ว มีการจบสกอร์ที่คม เป็นแข้งอายุน้อยที่มีทักษะของกองหน้าอย่างครบเครื่อง ได้รับการจับตามองจากยักษ์ใหญ่มากมายในยุโรป อยู่กับทีม 5 ซีซั่น ลงเล่น 234 นัด ยิงได้ 101 ประตูในทุกรายการให้กับทีม "ตราหมี" เป็นนักเตะที่ทีมคิดว่าจะเก็บไว้ใช้แทนที่ ตอร์เรส มาตลอด แต่สุดท้ายด้วยความที่ไม่ใช่ทีมใหญ่ เจอข้อเสนอ 38 ล้านปอนด์ของมหาเศรษฐีของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้าไปก็เลยต้องยอมขายในที่สุด แต่ก่อนออกมาก็เคยพาทีมบินไปถึงการเป็นแชมป์ ยูฟ่า คัพ มาแล้ว หน้าหมี! ย้อนรอยหัวหอกสดจี๋ ซุ้มมือปืน แอตฯ มาดริด 3. ดีเอโก้ ฟอร์ลัน (2007-2011) ฟอร์ลัน สร้างชื่อในสเปนกับ บียาร์เรอัล ทั้งๆ ที่เป็นกองหน้าที่ไม่เอาอ่าวเลยกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่กลับยิงประตูถล่มทลาย และขีดประวัติศาสตร์ในแดนกระทิงดุของตัวเองเอาไว้ เขาย้ายเข้ามาแทนที่ของ ตอร์เรส ที่ไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 21 ล้านยูโร และอยู่ทดแทนหัวหอกชาวสเปนได้อย่างยอดเยี่ยม ฤดูกาลแรกก็ยิงไปถึง 23 ประตูในทุกรายการ แต่นั่นเหมือนไม่พอ เมื่อฤดูกาลที่สองเขาระเบิดฟอร์มสุดโหด ยิงในลีกไปถึง 32 ลูกจากการลงเล่น 33 นัด สมัยแทบไม่มีใครยิงแตะหลักนี้ในลีกได้เลย กลายเป็นการคว้าดาวซัลโวสมัยที่สองของตัวเองใน ลา ลีกา อีกด้วย แต่หลังจากนั้นเขาเริ่มร่วงโรย กลับมาอยู่ในฟอร์มปกติในซีซั่นถัดมา และซีซั่นสุดท้ายก่อนย้ายทีม ยิงได้แค่ 8 ลูกในลีกเท่านั้น ผลงานทั้งหมด ลงเล่น 196 นัด ยิง 96 ประตู หน้าหมี! ย้อนรอยหัวหอกสดจี๋ ซุ้มมือปืน แอตฯ มาดริด 4. ราดาเมล ฟัลเกา (2011-2013) หัวหอกเจ้าของฉายา "พยัคฆ์ร้าย" ย้ายมาแทนที่ของ ฟอร์ลัน จากการสร้างชื่อยิงระเบิดระเบ้อที่ ปอร์โต้ "ตราหมี" ค้วาตัวเขามาร่วมทีมด้วยค่าตัวที่ราคาไม่ธรรมดา สูงถึง 40 ล้านยูโร รวมโบนัสก็จะสูงถึง 50 ล้านยูโรได้ และการย้ายมาสเปน ก็ไม่จำเป็นต้องรอการปรับตัวใดๆ ผนึกกำลังกับ ดีเอโก้ คอสต้า สร้างปรากฎการณ์ยิงประตูตีคู่กับ ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ขึ้นมาได้ 2 ฤดูกาลที่อยู่กับทีม พาทีมคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ คว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก และสู้ไล่ล่าแชมป์ ลีก ได้อย่างสนุก ลงสนาม 91 นัด ยิงไป 70 ประตูในทุกรายการ ก่อนย้ายไป โมนาโก ด้วยค่าตัว 60 ล้านยูโร แต่แม้จะยิงได้ แต่ก็ไม่เคยร้อนแรงเหมือนสมัยอยู่ แอตฯ มาดริด อีกเลย หน้าหมี! ย้อนรอยหัวหอกสดจี๋ ซุ้มมือปืน แอตฯ มาดริด 5. ดีเอโก้ คอสต้า (2010-2014, 2018-ปัจจุบัน) เรียกว่าเป็นกองหน้ามีชะตาต้องกับ "ตราหมี" มากที่สุดก็ว่าได้ เป็นนักเตะที่ทีมคว้ามาจาก เรอัล บายาโดลิด เพราะเห็นแวว แต่เอาเข้าจริงก็มีสถานะเป็นสำรองเท่านั้น เกมสำคัญก็แทบไม่มีบทบาท อยู่กับทีมมาตั้งแต่ที่สมัย "กุน" กับ ฟอร์ลัน ยังอยู่ ได้ลงเล่น แต่ก็แทบยิงประตูไม่ได้ เคยโดนปล่อยให้กับ ราโย่ บาเยกาโน่ ใช้งานในปี 2012 ด้วย แต่เมื่อกลับมาก็เหมือนเป็นโอกาสทันที เมื่อช่วงนั้นทีมมีหัวหอกตัวหลักแค่ ฟัลเกา คนเดียว เขาจึงกลายเป็นตัวสนับสนุนทันที ได้ลงเล่นต่อเนื่อง แม้จะมีโอกาส แต่ก็ยิงได้แค่ 10 ลูกในลีกเท่านั้น อยู่ภายใต้ร่มเงา ฟัลเกา จนแทบไม่มีใครเห็น แต่สุดท้าย เขาก็เป็นเพชรที่รอวันส่องประกาย เขากลายเป็นตัวหลัก ในซีซั่นที่ "เอล ติเกร" ย้ายออกไป และยิงได้ถึง 27 ประตู เป็นแชมป์ลีก จนได้ย้ายมา เชลซี แต่การเล่นที่ "เดอะ บริดจ์" ไม่โอเค แม้ผลงานจะดี แต่ไม่ดีกับจิตใจ ได้แชมป์ แต่ไม่ได้ใจกุนซือ สุดท้ายก็เพิ่งยายกลับมาอยู่กับทีมในซีซั่นนี้ ตอนนี้ ลงเล่นไปแล้ว 20 นัด ยิงได้ 7 ประตู ในทุกรายการ หน้าหมี! ย้อนรอยหัวหอกสดจี๋ ซุ้มมือปืน แอตฯ มาดริด 6. ดาบิด บีย่า (2013-14) ย้ายเข้ามาขัดตาทัพ ในช่วงที่ทีมขาย ฟัลเกา ออกไป หาหัวหอกแน่นๆ ไม่ได้ ทำให้ต้องใช้นักเตะมากประสบการณ์อย่าง บีย่า เข้ามาช่วย เขาย้ายมาจาก บาร์เซโลน่า ในช่วงที่อยู่ในวัยเลยจุดสูงสุดมาแล้ว แต่ด้วยความคมและความสามารถที่มี รวมถึงสิ่งที่สั่งสมมาทั้งชีวิต เขาก็ดีพอจะยิงได้ถึง 13 ลูก และพาทีมคว้าแชมป์ ลา ลีกา ส่งท้ายการเล่นในสเปนได้ หน้าหมี! ย้อนรอยหัวหอกสดจี๋ ซุ้มมือปืน แอตฯ มาดริด 7. อ็องตวน กรีซมันน์ (2014-ปัจจุบัน) กรีซมันน์ ถูกซื้อมาด้วยราคาสุดถูกแค่ 30 ล้านยูโร เป็นค่าฉีกสัญญาที่เซ็นเอาไว้กับ เรอัล โซเซียดาด เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับทีมเก่า ประกอบกับทีม "ตราหมี" ต้องขาย มาริโอ มานด์ซูคิช ที่อยู่กับทีมแค่ซีซั่นเดียวให้กับ ยูเวนตุส ไป การได้ กรีซมันน์ มาถือเป็นการทดแทนที่ยอดเยี่ยม มาใหม่ๆ ก็มาเล่นปีก แต่กลายเป็นว่าค่อยๆ ถูกขยับขึ้นมาเป็นกองหน้าเต็มตัว และทำได้ดีไม่แพ้กัน ความโชคร้ายของ กรีซมันน์ คือเขาย้ายมาในซีซั่นที่ทีมเพิ่งคว้าแชมป์ไป และหลังจากนั้น "ตราหมี" ก็ไม่เคยสัมผัสแชมป์อีกเลย ทำได้แค่ใกล้เคียงเท่านั้น ทั้งท้าชิงแชมป์ลีก หรือรองแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็เป็นมาหมดแล้ว ผลงานที่ฝากเอาไว้ก็ไม่ธรรมดา ซีซั่นนี้อยู่เป็นซีซั่นที่ 4 ลงเล่นไปแล้ว 206 นัด ยิงไป 110 ประตูในทุกรายการ พร้อมมีข่าวว่าจะย้ายออกจากทีมในฤดูกาลหน้า ด้วยค่าฉีกสัญญา 100 ล้านยูโร โดยมี บาร์เซโลน่า เป็นตัวเต็งที่จะคว้าไปร่วมทีม

- เทพเฟี๊ยต -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline