logo-heading

ไทยลีก กำลังผ่านพ้นเลกแรกของฤดูกาล 2018 อันดับและสถานการณ์ในตารางคะแนนพอบ่งบอกถึงคุณภาพของแต่ละสโมสรได้อย่างชัดเจน หลายทีมเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงนำผู้เล่นอายุน้อยวัยกำลังห้าวมาทดแทนแข้งเก๋าวัยเริ่มโรยรา จนกลายเป็นเทรนด์ที่หลายสโมสรลองทำตามกันน่าชื่นชม

ในระยะเวลาช่วงเลกแรก มียังบลัดมากมายที่โผล่ขึ้นมาแจ้งเกิดมากขึ้น จากโอกาสที่ได้รับลงสนามอย่างต่อเนื่อง ขอบสนามได้เฟ้นหา  5 แข้งไทยแจ้งเกิดลีกสูงสุดแดนสยาม 2018 ซึ่งพวกเขาเหล่านี้คือกลุ่มประเภทที่ว่า “ข้าเล่นไทยลีกปีแรกแล้วเกิดเลยนะเอง” 1.ขวัญชัย สุขล้อม 5 แข้งไทยแจ้งเกิดลีกสูงสุดแดนสยาม 2018 นายทวารที่ถูกพูดถึงมากสุดในไทยลีก ปี 2018 คงหนีไม่พ้น ขวัญชัย สุขล้อม จากสังกัดพีที ประจวบ ก่อนหน้านี้เด็กหนุ่มที่มีชื่อเล่นว่า “ช้อป” คือเด็กฝึกหัดของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาช้านาน ตั้งแต่ฤดูกาล 2011 อยู่ในทีมชุดใหญ่แต่ไม่ได้รับโอกาสลงสนาม จนถูกปล่อยให้ไปร่วมทัพนครปฐม ยูไนเต็ด ในดิวิชั่น1 ปี2016 จากนั้นย้ายชายคาไปอยู่กับพีที ประจวบ เมื่อปีปลาย บทบาทคือสำรอง ”โค้ชวัง”ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล มองว่าเด็กหนุ่มรายนี้หน่วยก้านดีพอจะพัฒนา จึงดำเนินการต่อสัญญาให้อยู่กับทีมต่อไป หลังขุนพลต่อพิฆาตเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก โชคร้ายกลายเป็นความช่วยดี หัสชัย แสนกล้า และ สมพร ยศ ประตูมือ1 และ 2 นัดกันเจ็บพร้อมกัน เปิดโอกาสให้ ขวัญชัย โชว์ฝีไม้ลายมือบนลีกระดับสูงของประเทศเป็นหนแรกทันที โดยไม่มีความหวั่นเกรงคู่แข่ง กล้าออกบอล ตัดจังหวะเกม เซฟลูกยิงจากคู่แข่งในไทยลีกเป็นว่าเล่น จนได้รับคำชื่นชมจากทั่วสารทิศ มีส่วนสำคัญช่วยให้ประจวบ มีผลงานแล่นฉิวเหนือความคาดหมายในปี 2018 และมีชื่อถูกเรียกตัวติดทีมชาติไทย ชุดเตรียมทีมเอเชียน เกมส์ 2.วันชัย จารุนงคราญ 5 แข้งไทยแจ้งเกิดลีกสูงสุดแดนสยาม 2018 แบ็คซ้ายผู้ที่มีใบหน้าตาหล่อเหลาเป็นอาวุธเด็ด คืออดีตเด็กฝึกหัดของสโมสรโอสถสภา แต่กลับขึ้นชุดใหญ่ทีมพลังเอ็มไม่ได้ ทำให้  วันชัย เลือกไปรับทุนนักกีฬาเพื่อรับใช้มหาวิทยาลัยรังสิต พร้อมกับเล่นฟุตบอลในระดับดิวิชั่น เป็นจังหวะบังเอิญที่แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล ซึ่งในตอนนั้นเกิดขาดแคลนเกมรับทางฝั่งซ้ายจึงชักชวน มาร่วมทีม  1 ฤดูกาล “ไช้” ช่วยต้นสังกัดเลื่อนชั้นมาเล่นในไทยลีก การลงเล่นบนสมรภูมิลีกสูงสุดว่ากันว่าใครไม่มีประสบการณ์ คงเป็นเรื่องยาก แต่ วันชัย ที่ถูกติวและสอนโดยทีมงานของ”โค้ชเตี้ย” สามารถลงเล่นโดยปราศจากแรงกดดัน จนได้รับการจับตามองจากหลายสโมสร สุดท้าย “ไช้” เลือกย้ายไปร่วมทัพทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด ในช่วงเลก 2 ไทยลีก 3.ณภัทร จารุภัทรภักดี 5 แข้งไทยแจ้งเกิดลีกสูงสุดแดนสยาม 2018 อดีตกองกลางตัวรับของโรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเยาวชนของกิเลนผยอง ต้องไปพเนจรเปลี่ยนสังกัดไปเรื่อยทั้ง อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด, บางกอก เอฟซี และ บีบีซียู แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่ “ต้า” ได้สวมสตั๊ดโลดแล่นบนลีกสูงสุดแม้แต่เกมเดียว ทว่าเลก2 ไทยลีก ปี2017 อุบล ยูเอ็มที ในยุคของสก็อตต์ คูเปอร์ เลือกดึงแข้งรายนี้มาร่วมทีม แน่นอนว่าคนไร้ประสบการณ์บนลีกสูงสุดอย่างเขา จึงไม่ได้สัมผัสเกมแม้แต่นั้นเดียว แต่พอเข้าสู่ฤดูกาล 2018 สถานการณ์เปลี่ยนไปปรีซีซั่น มิซู พาเทไลเนน อดีตกุนซืออุบล เปลี่ยนบทบาท ณภัทร มาเป็นเซ็นเตอร์แบ็ค ยืนบัญชาการเกมรับตลอด 15 เกมในไทยลีก แม้ซีซั่นนี้เทพอินทรีจะผลงานย่ำแย่ แต่กลับกลายเป็นปีที่แจ้งเกิดแนวรับคนใหม่ของสโมสรขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเคยเจียระไน เฉลิมศักดิ์ อักขี และ วิคเตอร์ คาร์โดเซ่ มาแล้วนั้นเอง 4.นพพล พลคำ 5 แข้งไทยแจ้งเกิดลีกสูงสุดแดนสยาม 2018 ห้องเครื่องพลังม้าไดนาโม วิ่งไปทั่วสนามเพียงเพื่อรับบทบาทกองกลางตัวรับตัดจังหวะเกมรุกของคู่แข่ง เด็กหนุ่มจากจังหวัดร้อยเอ็ด เริ่มต้นกับสโมสรบีซีซี เทโร แต่ด้วยความท้าท้ายที่จะพิสูจน์ตัวเอง จึงโยกไปร่วมงานกับสะสม พบประเสริฐ ในนามแอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล จากดิวิชั่น 2 ขยับสู่ดิวิชั่น 1 “เป้” ปรับตัวได้ไม่ยาก 2 ซีซั่นในทีม”ทัพฟ้า” นั้นเพียงพอจะทำให้เขาอยู่ในทีมชุดแชมป์ซีเกมส์ 2017 และช่วยทีมเลื่อนชั้นกลับสู่ไทยลีก เมื่อผลงานโดดเด่นพ่วงด้วยดีกรีทีมชาติ นพพล จึงเลือกกลับสังกัดแม่ โปลิศ เทโร  เพื่อรับใช้อู่ข้าวอู่น้ำเดิมในไทยลีก เขายึดมั่นสไตล์บู๊ดุดัน ขยันตัดเกม จนกลายเป็นคีย์แมนสำคัญที่ “มังกรโล่เงิน” ขาดไม่ได้ และจุดเด่นตรงนี้เองก็เพียงพอทำให้ มิโลวาน ราเยวัช เรียกมารับใช้ทีมชาติไทย ในเกมอุ่นเครื่องกับจีน 5.เสฏฐวุฒิ วงค์สาย 5 แข้งไทยแจ้งเกิดลีกสูงสุดแดนสยาม 2018 ในช่วงเวลาที่ไทยลีก มีแต่ศูนย์หน้านำเข้าจากต่างชาติ จึงเป็นเรื่องยากสำหรับตำแหน่งนี้ของผู้เล่นชาวไทย แต่คงไม่ใช่กับชลบุรี เอฟซี ที่ได้จุติดาวรุ่งที่ชื่อ เสฏฐวุฒิ วงค์สาย ขึ้นมาประดับวงการ เสฏฐวุฒิ ยอมตามหาความฝันย้ายจากบ้านเกิดที่สกลนครมาอยู่ชลบุรี เพื่อเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนท่าข้ามพิทยาคม ทว่า3 ปีก่อน ขณะที่อายุ18 ปี เมื่อต้องผ่าตัดเข่าและพักรักษาตัวไปนานร่วม6 เดือน แต่ด้วยความที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค เขาต่อสู้เพื่อก้าวสู่ทีมชุดใหญ่ “ฉลามชล” ในปี2018 “เจ้าบาส” ใช้เวลาไม่นานลงเล่นไทยลีก ลงมาเป็นสำรองเบิกสกอร์แรกได้ในเกมเสมอราชนาวี 1-1 และซัลโวประตูที่ 2 ได้ในนัดชนะประจวบ 4-2 ผลงานดังกล่าวทำให้เขากลายเป็น 1 ใน23 ผู้เล่นเตรียมทีมเอเชียนเกมส์ ไปอุ่นเครื่อง 2 นัดกับอินโดนีเซีย ในช่วงปลายเดือนนี้และต้นเดือนหน้า

เอ็มเร่

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline