logo-heading

ทำความรู้จัก นิโก้ โควัช กุนซือใหม่ บาเยิร์น มิวนิค

หลังจากประกาศศักดิ์ดาเถลิงแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 6 ติดต่อกันรวมทั้งหมด 27 สมัย "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค จัดการประกาศแต่งตั้ง นิโก้ โควัช เป็นกุนซือคนใหม่ เข้ามาทำหน้าที่แทน ยุ๊ปป์ ไฮย์เกส กุนซือระดับตำนานที่ขอคุมทีมจนจบซีซั่น จากการประกาศตั้งกุนซือใหม่ในหนนี้ ก็ต้องบอกว่าฮือฮาไม่น้อย ก่อนหน้านี้ชื่อของ โธมัส ทูเคิ่ล, เยอร์เก้น คล็อปป์ หรือแม้แต่กุนซือหนุ่มอย่าง ยูเลี่ยน นาเกลสมันน์ แห่ง ฮอฟเฟ่นไฮม์ เรียงหน้ากันติดโผ สุดท้ายหวยก็ไปออกที่ นิโก้ โควัช กุนซือชาวโครแอต ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับผู้อำนวยการสโมสรคนปัจจุบันอย่าง ฮาซาน ซาลิฮามิดซิช อดีตแข้ง บาเยิร์น มิวนิค วันนี้เลยนำชาวขอบสนามไปทำความรู้จักกับกุนซือใหม่หน้าเก่ารายนี้ของ บาเยิร์น มิวนิค กัน เริ่มต้นอาชีพค้าแข้ง นิโก้ โควัช สมัยเป็นนักเตะเล่นเป็น มิดฟิลด์ตัวกลาง เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งด้วยการติดทีมชุดใหญ่ของ แฮร์ธ่า เซห์เลนดอร์ฟ ทีมในลีกสมัครเล่น เมื่อปี 1990 หลังจากมาร่วมทีมเยาวชนได้ 1 ปี หลังจากนั้น ปี 1991 ย้ายไปร่วมทีมสำรอง แฮร์ธ่า เบอร์ลิน II ก่อนได้เลื่อนขึ้นชุดใหญ่ทีมหญิงชรา เมื่อปี 1992 เส้นทางอาชีพค้าแข้ง ปี 1996 โควัช ตัดสินใจย้ายไปเล่นให้กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ก่อนย้ายมาเล่นให้กับ ฮัมบูร์ก เมื่อปี 1999 จากนั้น 2 ปีถัดมา ปี 2001 ก็ตัดสินใจย้ายมาร่วมทีม บาเยิร์น มิวนิค แต่เพียง 2 ปีต่อมา ด้วยความที่ไม่รุ่งเท่าที่ควรจึงย้ายกลับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ก่อนจะย้ายครั้งสุดท้ายมาเล่นให้กับ เร้ด บูลล์ ซัลซ์บวร์ก ในปี 2006 และแขวนสตั๊ดในปี 2009 กับ ซัลซ์บวร์ก เริ่มต้นการเป็นกุนซือ หลังจากแขวนสตั๊ด โควัช ก็เริ่มงานด้วยการเป็นกุนซือทีมเยาวชนให้กับ เร้ด บูลล์ ซัลซ์บวร์ก ในปี 2009 จากนั้นได้เลื่อนมาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมชุดใหญ่ปี 2011 ก่อนปี 2012 จะได้รับความไว้วางใจให้คุมทีมชาติโครเอเชียร์ U21 หลังจากนั้นปี 2013 ก้าวกระโดขึ้นมาคุมทีมชาติโครเอเชียชุดใหญ่ ก่อนจะมาคุม แฟร้งค์เฟิร์ต ในปี 2016 ผลงานกับ แฟร้งค์เฟิร์ต เข้ามารับงานเผือกร้อนในเดือนมีนาคม 2016 ก่อนพา แฟร้งค์เฟิร์ต รอดตกชั้นแบบกระเสือกกระสน ก่อนฤดูกาลถัดมาจะพา ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต เข้าชิง เดเอฟเบ โพคาล แต่ทว่าพ่าย โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไป 1-2 ส่วนในบุนเดสลีกา จบอันดับที่ 11 ตารางคะแนน ส่วนฤดูกาลล่าสุด พวกเขาล้มยักษ์ใหญ่ บาเยิร์น มิวนิค เถลิงแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล 2017/2018 อย่างยิ่งใหญ่ ส่วนในบุนเดสลีกา จบอันดับที่ 8 แต่จากการคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ทำให้ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต ได้ไปเล่น ยูฟ่า ยูโรป้าลีก รอบคัดเลือก ถือเป็นผลงานที่ไม่เลวทีเดียว สไตล์การเล่น หากดูจากแผนที่เขาใช้กับ แฟร้งค์เฟิร์ต ปัจจุบันคือ 3-1-4-2, 3-4-1-2 หรือ 3-4-3 เท่ากับว่าสิ่งที่โควัชต้องมีแน่นอนคือ กองหลังสามคน และวิงแบ็กที่ดี ซึ่งทางบาเยิร์น มิวนิคตอบโจทย์นี้เช่นกัน โควัช จะมีวิงแบ็กที่เล่นบุกอยู่แล้วทั้ง ดาวิด อลาบา ที่ชอบเติมเกมรุกเป็นชีวิตจิตใจ และ โยชัว คิมมิช ที่ปกติเวลาเล่นกับ ไฮย์เกส และเล่นให้เยอรมนียุค โยอาคิม เลิฟ ก็เป็นนักเตะที่เติมสุด-ลงสุด เล่นริมเส้นมันสะใจแฟนบอล ส่วนแผงหลังก็ถือได้ว่ามีเกมรับชั้นยอด และแผงแดนกลางที่แน่นหนาอยู่แล้ว เรียกได้ว่าหากนำสไตล์ที่ทำ แฟร้งค์เฟิร์ต มาปรับเพียงเล็กน้อยก็เข้าทางพีเสือได้ และทั้งหมดคือเรื่องของนายใหม่เสือใต้ที่ชื่อว่า "นิโก้ โควัช" เห็นได้ว่าเขาก็ถือเป็นกุนซือที่มีประสบการณ์คนหนึ่ง อย่างไรก็ตามยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเขาจะทำเสือใต้ให้รุ่งได้จริงไหม คงต้องพิสูจน์ให้เห็นกันในฤดูกาลหน้า แฟนบอลก็คงต้องรอติดตามตอนต่อไปกับชีวิตของเขาที่มิวนิค

-เปี๊ยกบางใหญ่-

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline