logo-heading

วินาทีที่แอนโธนี่ เทย์เลอร์ เชิ้ตดำเป่านกหวีดยุติการแข่งขันเพลย์ออฟ แชมเปี้ยนชิพ รอบชิงดำหาทีมลูกหนังสโมสรที่ 20  เป็นสมาชิกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018-19 จบลงด้วยชัยชนะของฟูแล่ม คลับลูกหนังเล็กใจกลางกรุงลอนดอน ที่มีเหนือแอสตัน วิลล่า 1-0 จากประตูโทนของ ทอม แคร์นี่ย์

นำพาเจ้าสัวน้อย แห่งคราเวน คอทเทจ กลับไปโลดแล่นลีกสูงสุดของอังกฤษ เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังจากตกระกำลำบาก อยู่ในลีกระดับ2 ของประเทศยาวนานพอควร ความน่าสนใจคนหนีไม่พ้นตัวกุนซือของฟูแล่ม ที่มีนามว่า สลาวิซ่า โยคาโนวิช บุรุษชาวเซิร์บ ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 6 ปีก่อน เขาคือคนที่เคยมาทำหากินดินแดนสยามในฐานะหัวหน้าผู้ฝึกสอนเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด นำทีมกลับมาทางบัลลังก์แชมป์ ลีกสูงสุดของไทยได้แบบยิ่งใหญ่ไร้พ่ายตลอดทั้งฤดูกาล 2012 ก่อนจะแยกทางเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2013 แต่ปฏิเสธไม่ว่าได้อดีตดาวเตะทีมชาติยูโกสลาเวีย มีส่วนในการจุดประกายให้โค้ชชาวเซิร์บมากมาย ปักหมุดหมายมาหากินยังสยามประเทศ ย็อคก้า คือตัวอย่างของโค้ชที่น่าให้การยกย่องเคยขึ้นไปถึงจุดต่ำสุดและสูงสุดมาแล้ว การถูกไล่ออกในลีกบัลแกเรีย และลีกระดับล่างในสเปน ทำให้หลายๆคนคิดว่าเขาไม่น่าจะกลับมาทำทีมระดับสูงในยุโรป  แต่การเลือกรับโอกาสจากวัตฟอร์ด เลื่อนชั้นไปเล่นในระดับพรีเมียร์ลีก เมื่อปี 2015 รวมถึงช่วยมัคคาบี้ เทล อาวีฟ ไปเล่นรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถือว่าสร้างความน่าเชื่อดีพอควร ขอบสนามจึงขอยก 5 เหตุผลที่ “ย็อคก้า” ถึงไต่ระดับตัวเองจากไทยลีกสู่พรีเมียร์ลีก 1.กล้าพร้อมรับเสี่ยง 5 เหตุผลย็อคก้า โค้ชเก่าเมืองทอง คุมทัพไฉไลต่างแดน ย็อคก้า เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อทำทีมเมืองทอง ยูไนเต็ด โดยมีเวลาเพียงแค่ 3 สัปดาห์ ก่อนฤดูกาลใหม่จะเปิดฉาก เขาคือคนแปลกหน้าไม่มีใครรู้จักชื่อเสียงเรียงนามในฐานะโค้ชมาก่อน แต่ก็สร้างสิ่งดีๆมากมายกับสโมสรแห่งนี้ ทั้งการคว้าแชมป์ไทยลีก แบบไร้พ่ายในปี 2012 ปรับบทบาทธีรศิลป์ แดงดา ให้กลายเป็นศูนย์หน้าหมายเลข1ทีมชาติไทย  นอกจากนี้เขายังเป็นคนปักหมุดหมายให้เพื่อนร่วมชาติชาวเซิร์บ ข้ามน้ำข้ามทะเลมาหากินยังประเทศไทยในเวลาต่อมา หลังออกจากแดนสยาม ย็อคก้า ผจญภัยในลีกต่างแดนทั้งบัลแกเรีย, สเปน ในฐานะกุนซืออาชีพ แค่คงไม่มีความเสี่ยงครั้งไหน ที่ดีไปกว่าการตกลงรับงานคุมวัตฟอร์ด ในช่วงเวลาที่ทีมกำลังระส่ำนักเตะไม่เชื่อใจโค้ชคนเก่า แต่ชายหนุ่มร่างยักษ์รายนี้กลับสร้างให้แตนอาละวาด เป็นทีมที่น่าเกรงขามในเดอะแชมเปี้ยนชิพ เมื่อฤดูกาล 2014-15 โปรไฟล์ดังกล่าวจนกลายเป็นใบเบิกทางในชีวิตการเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลของเขาในเวลาต่อมา 2.ชอบขวนขวาย หาสิ่งใหม่ๆ “ย็อคก้า” ประสบความสำเร็จในการทำปาร์ติซาน เบลเกรด จนได้แชมป์ลีกและบอลถ้วย ในปี 2008  แต่เขากลับลาออกจากทีมในปีถัดมา เขาว่างเว้นงานคุมทีมไปราวๆ 3 ปีเศษ แต่ก็ใช้เวลาดังกล่าวไปกับการเข้าคอร์สสัมมนาอบรมโค้ชทั่วทุกมุมโลก เพื่อหาวัตถุดิบใหม่ สร้างแนวคิดการทำฟุตบอลให้พอกพูนมากยิ่งขึ้น ก่อนจะมาแสว่งหาความท้าท้ายใหม่ยังประเทศไทย คุมเมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อปี 2012 จากนั้นก็ย้ายไปทำทีมในลีกบัลแกเรีย, ลีกระดับล่างของสเปน  จนกระทั่งมาหาจุดลงตัวในการเป็นโค้ชฟุตบอลอาชีพในแดนผู้ดีกับวัตฟอร์ด และ ฟูแล่ม 3.คุมทีมไหนนักบอลให้การยอมรับ 5 เหตุผลย็อคก้า โค้ชเก่าเมืองทอง คุมทัพไฉไลต่างแดน ว่ากันว่าคนเคยเป็นนักเตะชื่อดังระดับทีมชาติและผ่านการลงเล่นลีกสูงสุดหลากหลายประเทศ ไม่ใช่ทุกคนจะประสบความสำเร็จเมื่อเปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้ฝึกสอน แต่ย็อคก้า คือหนึ่งคนที่ก้าวผ่านเรื่องดังกล่าวมาได้ การนำปาร์ติซาน เบลเกรด ได้แชมป์ลีก ทีมที่อุดมไปด้วยแข้งระดับทีมชาติเซอร์เบียชุดใหญ่และเล็ก ตามมาด้วยการปลุกปั้นเมืองทอง ที่ว่ากันว่ามีดาวเตะทีมช้างศึกล้มทีม คือเครื่องพิสูจน์ถึงการรับมือกับคนหลากหลายรูปแบบได้ แต่ที่เด็ดดวงสำหรับกุนซือชาวเซิร์บ รายนี้คือการทำวัตฟอร์ด เมื่อครั้งลงเล่นในแชมเปี้ยนชิพ  ทั้งที่เข้ามาทำทีมกลางฤดูกาล ย็อคก้า ซื้อใจผู้เล่นภายในทีมได้ทุกคน ถึงจะมีแข้งมากมายถึง 14 สัญชาติ เขารวมใจผู้เล่นเป็นหนึ่งเดียวกัน จนผลงานร้อนแรงจากกลางตารางในลีกช่วงเดือนตุลาคม 2014 เข้าป้ายจบด้วยการเป็นรองแชมป์ในซีซั่นนั้น ตีตั๋วไปเล่นพรีเมียร์ลีกได้แบบเหนือความคาดหมาย เฉกเช่นเดียวกันมาทำฟูแล่ม แม้มีดีกรีอยู่แล้ว แต่เขาไม่ได้นำมาคุยโวอวดสรรพคุณกับลูกทีมตัวเอง ย็อคก้า จัดสรรหาหาจุดลงตัวให้แก่ทีม จนมีพัฒนาการดีขึ้นตามลำดับ จากอันดับ 19 ขึ้นมาจบที่ 6 และ เข้าป้ายเป็นอันดับ 3 ของเดอะแชมเปี้ยนชิพ ในระยะเวลา 3 ปี ตรงจุดนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นตัวผู้เล่นซึ่งเล่นได้ตอบสนองสามารถความต้องการของโยคาโนวิช 4.เคยล้มเหลว แต่ไม่เคยล้มเลิก 5 เหตุผลย็อคก้า โค้ชเก่าเมืองทอง คุมทัพไฉไลต่างแดน หลังจากแพ็คกระเป๋าออกจากประเทศไทย เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2013 มีข้อเสนอให้ “ย็อคก้า” พิจารณามากมาย แต่กลับเลือกไปคุมทีม เลฟสกี้ โซเฟีย ในลีกของบัลแกเรีย โค้ชชาวเซิร์บ มีเวลาเพียงแค่ 3 เดือนในการคุมทัพเท่านั้น ก่อนชะตาขาดรับซองขาวจากบอร์ดบริหาร หลังไม่สามารถนำทีมขึ้นไปอยู่ใน 2 อันดับแรกในลีกเมืองโยเกิร์ต จากนั้น 1 ปีต่อมา โยคาโนวิช ได้กลับไปทำงานฟุตบอลในสเปน กับเอร์กูเลส ทีมจากแคว้นบาเลนเซีย แต่ทำทีม แพ้ 3 จาก 5 เกม เก็บชัยได้แค่เกมเดียวเท่านั้น ก่อนจะได้ไม่ได้รับการต่อสัญญา อย่างไรก็ดีแม้ 2 สโมสรที่เอ่ยมาในข้างต้น ย็อคก้า จะอยู่ในสถานะคว้าน้ำเหลว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า  นี่คือช่วงเวลาที่ได้เรียนรู้ชีวิตการทำทีมภายใต้ทรัพยากรผู้เล่นที่จำกัดจำเขี่ย และทำให้เขาได้ไอเดียใหม่ๆในการยืดยุ่นตัวผู้เล่น จนพัฒนาตนเองจะกลายเป็นโค้ชมีชื่อในเวลาต่อมา 5.เก่งบริหารทรัพยากรนักเตะได้ดีเยี่ยม 5 เหตุผลย็อคก้า โค้ชเก่าเมืองทอง คุมทัพไฉไลต่างแดน การทำทีมเมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อปี 2012 ถือว่าเป็นฤดูกาลที่นักเตะไทยภายในทีมกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มกำลังขึ้นหม้อเช่น ธีรศิลป์ แดงดา, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, มาริโอ ยูรอฟสกี้, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ แม้กระทั่งดัสกร ทองเหลา ชื่อที่ว่ามาในข้างต้นคือสตาร์ดังระดับทีมชาติ แต่ความเข้มงวดที่เป็นบุคลิกของย็อคก้า ทำให้แข้งกิเลนผยอง จริงจังเต็มที่ทุกครั้งยามฝึกซ้อม ส่งผลให้ผู้เล่นลงเล่นได้ตามแท็คติก สิ่งที่เกิดขึ้นภายในทีมเมืองทอง “ย็อคก้า” พกติดตัวไปใช้กับทั้งวัตฟอร์ด และฟูแล่ม ทีมที่อุดมไปด้วยนักเตะมากมายต่างสัญชาติ แต่ที่โดดเด่นสุดคงไม่พ้นเจ้าสัวน้อย ต้นสังกัดปัจจุบัน “ย็อคก้า” เข้าไปทำทีมปลายเดือนธันวาคม ปี 2015 ภายใต้เงื่อนไขผู้เล่นที่จำกัดและงบประมาณที่ไม่มากมาย แต่เขาค่อยๆปรับจุดบอดที่ละตำแหน่ง เน้นสร้างของโนเนมภายในทีม และหยิบยืมตัวผู้เล่นที่เป็นส่วนเกินจากสโมสรอื่นๆ อเล็กซานเดอร์ มิโตรวิช กลายเป็นยอดดาวยิงภายใต้การดูแลของย็อคก้า, ทอม แคร์นี่ย์ อาจจะดูไม่เหมาะกับลีกระดับสูงอังกฤษ ก็กลายเป็นเพลย์เมกเกอร์ชั้นยอด, ไรอัน เซสเซยอง เด็กวัย 17 ได้รับการเจียระไนให้กลายเป็นปีกซ้ายที่มีทั้งความเร็วและการจบสกอร์ที่ยอดเยี่ยม ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาในข้างต้น คือสิ่งที่ชายชื่อ สลาวิซ่า โยคาโนวิช สามารถแปรสภาพจากโค้ชไทยลีกสู่กุนซือแถวหน้าจนได้รับการจับตามองของวงการลูกหนังยุโรป ภายในระยะเวลา 6 ปี หลังจากออกจากประเทศไทย

เอ็มเร่

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline