logo-heading

หลังจากที่เมื่อวานนี้ทีมงานขอบสนามได้หยิบยก 5 กุนซือโปรไฟล์หรู ขายขี้หน้าบนสังเวียนราชมังคลากีฬาสถานไปแล้ว https://www.khobsanam.com/column/22624

มาคราวนี้ถึงบทสรุปพาร์ทสุดท้าย สำหรับยอดโค้ชชื่อดัง ที่นำทีมปราชัยต่อแข้งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่ง 5 คนสุดท้าย แต่ละรายนั้นมีชื่อโด่งดังประสบความสำเร็จในระดับสโมสรมากมาย บางคนเป็นตำนานเรอัล มาดริด บางคนเคยวางโครงสร้างทำให้โอลิมปิก ลียง เป็นยอดทีมของฝรั่งเศส, บางคนเจ๋งขนาดได้แชมป์สโมสรอเมริกาใต้มาแล้วด้วยซ้ำ ไม่เสียเวลาจนเกินไปแฟนๆขอบสนาม เชิญเสพย์เนื้อหาข้อมูลด้านล่างได้เลยจ้า 6.ปอล เลอ กูเอ็น 10 กุนซือโปรไฟล์หรูเอาดีกรีมาดับ ณ สนามราชมังคลาฯ ตอนสุดท้าย อดีตดาวทีมชาติฝรั่งเศส ผู้ผ่านการกุมบังเหียนทีมชั้นนำมากมายในบ้านเกิด เช่น แรนส์,ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, รวมถึงการสร้างชื่อให้โอลิมปิก ลียง ให้ครองความเป็นหมายเลข 1 ฟุตบอลแดนน้ำหอมมาแล้ว นอกจากนี้ยังมีโปรไฟล์เยี่ยม นำพาแคเมอรูน โลดแล่นเวิลด์ คัพ 2010 ที่แอฟริกาใต้มาแล้ว นี่คือชื่อที่สุดแสนเพอร์เฟ็ค สำหรับสมาคมลูกหนังโอมาน เลอ กูเอ็น ได้รับการแต่งตั้งให้คุมทัพโอมาน ลุยรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2014 ซึ่งต้องมาเผชิญหน้าพบทีมชาติไทย รอบ 20 ทีมสุดท้าย เมื่อปี 2011 การมาเหยียบแผ่นดินไทย หนแรกของชายชาวเฟรนซ์ จบลงไม่สวยงาม ช้างศึกในยุค “วินนี่” วินฟรีด เชเฟอร์ เดินเครื่องโจมตีใส่โอมานอย่างรวดเร็ว จนปิดเกมด้วยสกอร์ 3-0 จากปลายสตั๊ดของสมปอง สอเหลบ, ธีรศิลป์ แดง และอีก 1 การทำเข้าประตูตัวเอง เรียกว่ากุนซือดีกรีฟุตบอลโลกและแชมป์ลีก เอิง อย่างเลอ กูเอ็น เจอฤทธิ์แข้งแดนปลาแดกถึงกับไปไม่เป็นในสนามราชมังคลากีฬาสถาน 7.อันเก้ ปอสเตโคกลู 10 กุนซือโปรไฟล์หรูเอาดีกรีมาดับ ณ สนามราชมังคลาฯ ตอนสุดท้าย กุนซือร่างท้วมชาวกรีกเชื้อสายออสซี่ ผู้ที่ปัจจุบันคุมโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ในเจลีกญี่ปุ่น รวมถึงนำพลพรรคซ็อคเกอร์สรูส์ ไปเฉิดฉายในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ถึง 2 สมัยมาแล้ว พ่วงด้วยแชมป์เอเชียน คัพ เมื่อปี 2015 และโค้ชยอดเยี่ยมของเอเอฟซี ในปีเดียวกัน เรียกว่าดีกรีพี่ท่านแม่งโคตรสมบูรณ์แบบ แต่ใครจะไปคิดว่า ปอสเตโคกลู นำแข้งออสซี่ มาเยี่ยมราชมังฯ เกมคัดบอลโลก 2018 โซนเอเชีย เกิดอาการประมาท ย่ามใจคิดว่าชื่อชั้นดีกว่าไทย แต่พอลงไปเล่นสนามจริง “ช้างศึก” เดินหน้าลุยหนักหวังฆ่าออสเตรเลียในสภาพสนามที่ฝนเทกระหน่ำ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง วางแผนใช้ทักษะเทคนิคผู้เล่นและทีมเวิร์ก นวดใส่ผู้มาเยือนเป็นระยะ โดยตลอดทั้ง 90 นาที ไทยคือทีมที่เหนือกว่าทุกกระบวนท่า น่าเสียดายที่เกมจบลงด้วยผลเสมอ 2-2 *”มุ้ยซัง” ธีรศิลป์ แดงดา ยิง 2 ประตู แต่เสีย 2 จุดโทษจากความผิดพลาดของ ประทุม ชูทอง และ สิโรจน์ ฉัตรทอง 8.ยอร์น อันเดอร์เซน 10 กุนซือโปรไฟล์หรูเอาดีกรีมาดับ ณ สนามราชมังคลาฯ ตอนสุดท้าย ยอดนักเตะชาวนอร์จีเจ้น ที่มาทำมาหากินในเยอรมนีมาช้านาน ยอร์น อันเดอร์เซน คือคนที่เข้ามาสานงานต่อจาก เยอร์เก้น คล็อปป์ ที่ไมนซ์ 05 แล้วปลุกชีพทีมดังจากรัฐไรน์ลันท์-ฟัลทซ์ เลื่อนชั้นกลับสู่บุนเดสลีกา ในฤดูกาล 2009-10 อย่างไรก็ดีเข้าต้องหลีกทางให้กับคนหนุ่มไฟแรงอย่าง โธมัส ทูเคิ่ล อันเดอร์เซน ตระเวนรับจ็อบคุมทีมระดับล่างของออสเตรียและเยอรมนี จนกระทั่งเดือนพฤษภาคม 2016 เขากลายเป็นโค้ชต่างชาติคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์เกาหลีเหนือ พร้อมกับนำโสมแดงมาฟาดแข้งฟุตบอลคิงส์ คัพ 2017 โปรไฟล์เยี่ยมยอดในเมืองเบียร์กลับต้องมาแหลกเหลวคาสนามราชมังฯ โสมแดง” มาในขุมกำลังที่ไม่สมบูรณ์  และสภาพสนามที่ไม่เป็นใจ แถมยังมาเจอแท็คติกเน้นเกมรับใช้ความรัดกุมโต้กลับใส่ลูกหลานคิม จอง-อึน 3 เม็ดเน้นๆ จากมงคล ทศไกร, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ ธีรเทพ วิโนทัย ช่วยให้แมตซ์นี้กลายเป็นชัยชนะที่มากสุดของแข้งแดนสยาม ที่มีต่อเกาหลีเหนือ 9.เอ็ดการ์โด้ เบาซ่า 10 กุนซือโปรไฟล์หรูเอาดีกรีมาดับ ณ สนามราชมังคลาฯ ตอนสุดท้าย อดีตเซ็นเตอร์แบ็คทีมชาติอาร์เจนติน่า ชุดรองแชมป์โลก ปี1990 ผู้ผ่านงานคุมทัพมากมายในบ้านเกิดและละแวกลาตินอเมริกา มีดีกรีกุนซือยอดเยี่ยมประจำอเมริกาใต้ เมื่อปี 2008 เบาซ่า เคยนำแอลดียู กีโต้ และ ซาน ลอเรนโซ่ ครองแชมป์โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส ก่อนที่จะโดนแต่งตั้งให้คุมอาร์เจนติน่า ทว่าโดนปลดหลังทำทีมไปเพียง 9 เดือน กระทั่งโยกมารับเงินมากมายก่ายกองกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เกมแรกในฐานะกุนซือทีมตะวันออกกลาง เบาซ่า นำลูกทีมมาเจอกับทีมชาติไทย คัดบอลโลก 2018 แต่ความประมาทของโค้ชอาร์เจนไตน์ นำมาสู่ความ (เกือบ) หายนะ มงคล ทศไกร เบิกสกอร์แรกให้ช้างศึกยุคราเยวัชก่อน จากนั้นแข้งไทย เน้นความรัดกุมแบบฉบับบอลยุโรปตะวันออกแพ็คเกมช่วยกันป้องกันการโจมตีอย่างแน่นหนา และเกือบทำสำเร็จ ทว่ากำแพงดันมาแตกโดนยิงช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย บทสรุปจบลงด้วยผลเสมอ1-1 10.โฆเซ่ อันโตนิโอ คามาโช่ 10 กุนซือโปรไฟล์หรูเอาดีกรีมาดับ ณ สนามราชมังคลาฯ ตอนสุดท้าย ชายมากประสบการณ์ที่ลืมตาดูโลก ณ แคว้นมูร์เซีย คืออดีตแข้งผู้เป็นตำแหน่งแบ็คซ้ายเรอัล มาดริด และทีมชาติสเปน เมื่อแขวนสตั๊ดผันตัวมาเป็นกุนซือก็ผ่านงานระดับสูงมานับไม่ถ้วน ราโย่ บาเยกาโน่, เอสปันญ่อล, เซบีย่า,เรอัล มาดริด,เบนฟิก้า, โอซาซูน่า และทีมชุดใหญ่แดนกระทิงดุ คามาโช่ มีความหลังอันขมขืนกับทีมชาติไทย เมื่อปี 2013 สมัยที่ยังคุมทีมชาติจีน โดนช้างศึก ยุค“โค้ชซิโก้” บุกยิงยับเยิน 1-5 พร้อมกับซองขาว พ้นจากตำแหน่งเฮดโค้ช ทว่าเหมือนโชคชะตาขีดมาให้กุนซือร่างใหญ่ กลับมาพบเจอกับทีมชาติไทย อีกครั้ง 5 ปีต่อมา เมื่อนำกาบอง มาโลดแล่นคิงส์ คัพ 2018 เกมรอบรองชนะเลิศ ช้างศึก ของราเยวัช ทำได้เหนือกว่าเด็กๆของคามาโช่ แม้จะจบลงด้วยผลเสมอ 0-0 และชนะในการดวลจุดโทษ 4-2 แต่สถิติหลังเกมเป็นทางไทยทั้งการครองบอลและโอกาสยิงประตู เรียกได้ว่าคามาโช่ คุมทีมแพ้ทั้งรูปเกมและการจังหวะเข้าทำ จนบางทีโค้ชสแปนิชอาจไม่ขอพบเจอกับทีมช้างศึกก็เป็นได้ เพราะดวลกัน 2 หนหลังสุดไม่สมหวังเอาเสียเลย

เอ็มเร่

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline