logo-heading

ดิเอโก้ มาราโดน่า VS ลิโอเนล เมสซี่ เป็นอีกคู่ที่ผู้คนต่างชอบหยิบยกมาเปรียบเทียบกัน ไม่แพ้ โรนัลโด้ กับ เมสซี่ แต่ต่างกันก็ตรง "เสือเตี้ย" อยู่คนละยุค ฉะนั้นการเปรียบเทียบก็จะยากยิ่งกว่า

  มาราโดน่า เพิ่งจะออกมาให้สัมภาษณ์ยกย่อง เมสซี่ ว่านาทีนี้ไม่มีใครเทพเกินหัวหอกบาร์เซโลน่าอีกแล้ว และก็ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยการเป็นแชมป์โลกด้วย เพราะที่ผ่านมาก็พิสูจน์ตัวเองมาเยอะพออยู่แล้วว่าเก่งขนาดไหน. .. เห็นมั้ยครับ รุ่นพี่ออกมาอวย รุ่นน้อง ดูเป็นมิตรกันจะตาย   แต่คนนอกอย่างเราๆ นี่แหละครับ เถียงกันเอาเป็นเอาตายว่า 2 คนนี้สรุปใครเจ๋งกว่ากัน ไม่เชื่อลองเข้ากูเกิ้ล แล้วเสิร์ชคำว่า "มาราโดน่า เมสซี่" ดูสิครับ เถียงกันยาวเป็น 100 คอมเม้นท์เลย ของแบบนี้มุมมองใครก็มุมมองมัน สารภาพตามตรงว่าผมเกิดไม่ทันยุค "เสือเตี้ย" หรอกครับ แต่ดูจากคลิปแล้ว ก็ต้องบอกว่าโคตรเทพ ส่วน เมสซี่ นี่ทันดูตั้งแต่เข้าวงการใหม่ๆ เลย แต่ผมก็ยังเลือกไม่ได้อยู่ดีว่าใครเจ๋งกว่ากัน 555   เอาเป็นว่าวันนี้ผมจะลองเอาสิ่งที่ มาราโดน่า เคยทำได้ มาเปรียบเทียบกับ เมสซี่ ให้ดูเล่นๆ ละกันนะครับ ว่ามีอะไรที่ เมสซี่ ยังตาม "เสือเตี้ย" ไม่ได้บ้าง  

1.การทำประตู

  ด้วยตำแหน่งการเล่นของ มาราโดน่า ที่ไม่ใช่กองหน้าตัวเป้า ออกสไตล์เพลย์เมกเกอร์ จึงไม่แปลกที่เรื่องการถล่มประตูนั้นจะเป็นรอง เมสซี่ อยู่เยอะ แต่ก็ได้ลูกกระชากลากเลื้อย และลูกจ่ายแบบ "คิลเลอร์ พลาส" เข้ามาทดแทน โดยตอลดอาชีพค้าแข้งของ "เสือเตี้ย" เจ้าตัวลงเล่นไป 590 นัด ซัดรวม 312 ตุง ส่วนในนามทีมชาติลงเล่น 91 นัด จัดไป 34 ลูก ขณะที่ เมสซี่ ลงเล่นให้ บาร์ซ่า 637 นัด กดไป 552 ประตู แถมในนามทีมชาติเขาคือดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลที่ 64 ประตู จาก 124 นัด  

2.ประตูที่น่าจดจำ

  หากพูดถึงประตูที่น่าจดจำ สำหรับ มาราโดน่า ก็คงหนีไม่พ้นลูก "หัตถ์พระเจ้า" ที่ใช้มือปัดบอลเข้าประตูไป ในศึกฟุตบอลโลก 1986 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ช่วยให้ อาร์เจนติน่า ชนะ อังกฤษ ไป 2-1 ประตู ก่อนจะเป็นแชมป์โลกในบั้นปลาย แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า เมสซี่ เองก็เคยใช้ลูกยิง "หัตถ์พระเจ้า" เหมือนกัน ในเกมที่ บาร์ซ่า เจอกับ เอสปันญอล เมื่อปี 2007 ถอดแบบกันมาเป๊ะ (ไม่เชื่อดูคลิปได้เลย)   นอกจาก "แฮนด์ ออฟ ก็อด" ที่ทำได้ทั้งคู่แล้ว การลากเลื้อยครึ่งสนาม ฝ่าด่านผู้เล่นคู่แข่งเข้าไปซัดประตู ก็เป็นลูกยิงที่เราเห็นได้บ่อยๆ จากทั้ง 2 คน อย่างของ "เสือเตี้ย" ที่โด่งดังที่สุดเลย ก็ในเกมเดียวกับนัด "หัตถ์พระเจ้า" นั่นแหละ พี่แกเล่นเลี้ยงจากครึ่งสนาม ผ่านผู้เล่นอังกฤษ 5-6 คน เข้าไปซัดดื้อๆ แต่ เมสซี่ เองก็ทำแบบนี้ได้เช่นกัน ดังนั้นหัวข้อนี้ ก็กินกันไม่ลง  

3.ความเป็นผู้นำ

  ทั้งคู่ต่างก็ได้รับมอบหมายให้เป็นกัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่า แต่ว่ากันตามตรง "เสือเตี้ย" ดูจะมีราศีความเป็นผู้นำมากกว่า ทั้งมาด ทั้งท่าทาง รวมถึงการสั่งการ ส่วนนึงอาจเป็นเพราะความระห่ำในตัวที่มีมากกว่า เมสซี่ เยอะ บวกกับเจ้าตัวเป็นกัปตันทีม นาโปลี อยู่แล้วด้วย ผิดจาก เมสซี่ ที่ไม่ใช่กัปตันทีม บาร์ซ่า  

4.รางวัลส่วนตัว

  ว่ากันว่าถ้าสมัยที่ "เสือเตี้ย" โลดแล่นอยู่บนฟลอร์หญ้านั้น รางวัล "บัลลง ดอร์" ไม่แจกเฉพาะนักเตะยุโรป (ก่อนจะเปลี่ยนกฏในปี 1995) พี่แกก็น่าจะสอยมานอนกอดได้แน่ๆ อย่างต่ำ 1 ลูก ยังไงในปี 1986 ก็ต้องให้พี่แกหละ เพราะว่าเป็นกัปตันทีมชาติ พาทัพ "ฟ้า-ขาว" คว้าแชมป์โลก ต่อยอดด้วยการเป็นเดอะแบกพา นาโปลี ซิวแชมป์ลีก ในฤดูกาล 1986/87 ขณะที่ เมสซี่ ก็อย่างที่เรารู้กันดีได้ไปแล้ว 5 ลูก และมีสิทธิ์จะได้มากกว่านี้ด้วย ส่วนรางวัลส่วนตัวยิบย่อยอื่นๆ ก็ได้เป็นร้อยรางวัลไม่ต่างกัน  

5.ความสำเร็จระดับสโมสร

  แม้ความสำเร็จระดับสโมสรของ มาราโดน่า จะดูด้อยกว่า เมสซี่ อยู่เยอะ แต่ต้องบอกว่าการเป็นเดอะแบกพา นาโปลี เป็นแชมป์ เซเรีย อา ได้ 2 สมัย ในยุคที่ เอซี มิลาน เรืองอำนาจโดยมี สามทหารเสือดัตช์ เป็นตัวชูโรงนั้นโคตรจะเจ๋ง แถมยังได้ ยูฟ่า คัพ กับ โคปปา อิตาเลีย อย่างละ 1 สมัยด้วย แต่ตอนที่เล่นให้ บาร์เซโลน่า 2 ฤดูกาล ไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกมาครองได้ ได้แค่ โกปา เดล เรย์ เท่านั้น   ตัดสลับมาที่ เมสซี่ ข้อนี้ เมสซี่ กินขาด แชมป์ ลา ลีกา 9 สมัย, โกปา เดล เรย์ 6 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 3 สมัย ปิดด้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 สมัย    

6.ความสำเร็จระดับทีมชาติ

  ข้อนี้คือปมด้อยที่สาวก "เสือเตี้ย" จะใช้เอามาคุยข่ม เมสซี่ เป็นประจำ เพราะแกไม่เคยมีความสำเร็จอะไรในระดับทีมชาติชุดใหญ่เลย เคยได้แต่แชมป์โลก ยู-20 แถมเวลาเล่นให้ทัพ "ฟ้า-ขาว" ก็มักจะโดนหาว่าไม่เต็มที่ ไม่เห็นเก่งเหมือนตอนเล่นให้ บาร์เซโลน่า จนเจ้าตัวเคยน้อยใจประกาศเลิกเล่นทีมชาติไปพักนึง ก่อนจะยอมใจอ่อนกลับมารับใช้ชาติอีกครั้ง ฉะนั้นทัวร์นาเม้นท์ฟุตบอลโลก 2018 หนนี้ อาจเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับ เมสซี่ แล้วที่จะแก้ปมด้อยข้อนี้ของตัวเขาเองให้ได้   ส่วน มาราโดน่า ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่าเป็นกัปตันทีม พาทัพ "ฟ้า-ขาว" คว้าแชมป์โลก เมื่อปี 1986 ที่เม็กซิโก โดยนัดชิงนั้นเอาชนะ เยอรมันตะวันตก ไปได้สุดมันส์ 3-2 ประตู แถมเจ้าตัวได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นท์อีกด้วย  

ทั้งหมดนี้คือ 6 ข้อที่พอจะจำแนกเปรียบเทียบระหว่างตำนานทัพ "ฟ้า-ขาว" ทั้งสองคนได้ ท้ายสุดผมก็ยังชี้ชัดไม่ได้อยู่ดีว่าใครดีกว่าใคร แต่เทียบแล้วอะไรที่ มาราโดน่า เคยทำได้ เมสซี่ เองก็ทำได้เช่นกัน ยกเว้นอย่างเดียวเท่านั้นหละ คือการพา อาร์เจนติน่า คว้าแชมป์โลก ซึ่งอย่างที่บอก หนนี้คงเป็นโอกาสสุดท้ายของเขาแล้ว จะทำได้มั้ย ต้องรอดูกัน!

ชิน ชินพัฒน์

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline