logo-heading

ฟุตบอลโลก 2018 ประเทศรัสเซีย ในคืนวันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน นี้ ไม่มีคู่ไหนโดดเด่นไปกว่าการพบกันระหว่างทีมชาติสเปน กับ ทีมชาติโปรตุเกส เจ้าของแชมป์ ยูโร ครั้งล่าสุด อีกแล้ว เพราะมันจะเป็นการดวลกันโดยตรงจาก 2 นักเตะค่าย "ราชันชุดขาว"

ฝ่าย โปรตุเกส มีกัปตันทีมชื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ผู้พา "ราชันชุดขาว" สร้างความยิ่งใหญ่ แต่ทางฝ่าย "กระทิงดุ" ผู้นำในสนามของพวกเขา ก็คือ เซร์คิโอ รามอส คีย์แมนคนสำคัญแห่งค่าย เรอัล มาดริด เช่นเดียว

จากเพื่อนร่วมสังกัด ช่วยกันพาทีมคว้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัยซ้อน คราวนี้ต้องมาเปิดศึกกันชั่วคราว เพื่อตบตีแย่ง 3 คะแนน ในศึก ฟุตบอลโลก ฉะนั้นทีมงาน "ขอบสนาม" ขอจัดสถิติเด็ดระหว่าง โรนัลโด้ กับ รามอส มาให้ทราบกัน ก่อนดวลเดือดคืนนี้ "ซีอาร์ 7" คือเครื่องจักรถล่มประตู แต่อาจไม่ใช่ยามเจอกับ สเปน ? ใครๆก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่า "คริสเตียโน่ โรนัลโด้" คือเครื่องจักรถล่มประตูอย่างแท้จริง ซัลโวทุกรายการที่ขวางหน้า และ ทุบสถิติต่างๆมามากมาย โดยเฉพาะการรับใช้ทัพ "ฝอยทอง" เขาซัดประตูไปแล้ว 81 ประตู ก้าวขึ้นมาเป็นดาวยิงสูงสุดในนามทีมชาติอันดับ 3 ตลอดกาล ขยับไล่ เฟเรนซ์ ปุสกัส ตำนานหัวหอกฮังการี เพียงแค่ 3 ลูก เท่านั้น อย่างไรก็ตาม โรนัลโด้ ไม่เคยทำประตูใส่ทัพ "กระทิงดุ" ได้เลย ในการพบกัน 4 ครั้งหลังสุด แบ่งเป็นการดวลกับ รามอส 3 ครั้ง รวมเวลาทั้งสิ้นยาวนานถึง 255 นาที ถึงแม้ "ฝอยทอง" จะเคยอุ่นเครื่องชนะ สเปน 4-0 แต่ทว่ารายการใหญ่ๆ อย่าง ฟุตบอลโลก 2010 และ ยูโร 2012 กลายเป็น โปรตุเกส ต้องเป็นฝ่ายปราชัยทั้งหมด ฉะนั้นเกม "เวิลด์ คัพ 2018" คืนนี้ เป็นงานหยาบสำหรับ "ซีอาร์ 7" แน่นอนในการเจาะประตู รามอส คือกลไกความสำเร็จของ มาดริด ไม่ได้มีเพียงแค่ โรนัลโด้ ยกตัวอย่างให้เห็นกันไปเลยว่าถึงแม้ โรนัลโด้ จะสร้างสถิติเป็นดาวซัลโว ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้ง แต่เมื่อถึงนัดชิงชนะเลิศ สปอร์ตไลท์มักจะฉายแสงมาหา เซร์คิโอ รามอส มากกว่าเสียด้วยซ้ำ ซึ่งมีทั้งเรื่องดีและไม่ดี โดยเฉพาะกรณีที่เพิ่งเกิดกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงจากฝั่ง ลิเวอร์พูล ทุกแชมป์ที่ โรนัลโด้ ช่วย มาดริด นำโทรฟี่มาวางบนตู้โชว์ ไม่ว่าจะเป็น ลา ลีกา สเปน, โกปา เดล เรย์, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือ แม้กระทั่ง สโมสรโลก ล้วนมี รามอส เป็นองค์ประกอบสำคัญอยู่เสมอ ฉะนั้นไม่มีใครด้อยกว่าใคร ต่างเคยชูถ้วยแชมป์ยุโรปมาเช่นกัน หากพูดถึงเรื่องประสบการณ์ในเวทีระดับนานาชาติ ถึงแม้ โรนัลโด้ จะก้าวขึ้นมารับใช้บ้านเกิด ได้ก่อน รามอส แต่ถึงกระนั้นความเชี่ยวชาญในเวทีระดับนี้ไม่มีใครเป็นรองใคร โดยทั้ง "ซีอาร์ 7" และ รามอส ต่างก็เคยเป็นแชมป์ ยูโร มาด้วยกันทั้ง 2 คน โดยปี 2012 เป็นฝั่งของ สเปน ขณะที่ปี 2016 ก็เป็น โรนัลโด้ ที่มีส่วนสำคัญกับการช่วยทัพ "ฝอยทอง" คว้าโทรฟี่ ฉะนั้นนอกจากประสบการณ์แล้ว เรื่องความสำเร็จครั้งนี้ คงฟาดฟันกันสนุกแน่นอน
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline