logo-heading

ฟุตบอลโลก 2018 กำลังดวลแข้งกันอย่างเมามันส์ทุกวันที่แดนหมีขาว ส่วนที่ไทยเกมลีกยังเตะต่อเนื่อง ใครบางคนเลยถาม “ทำไมไม่หยุดช่วงบอลโลก ?”

อาจไม่ใช่แค่บางคนที่สงสัย น่าจะมีหลายคนที่คาใจเหมือนกันว่าทำไมไม่หยุด แต่ถ้าคิดให้ดีๆต้องถามกลับไปมากกว่าว่า “จะหยุดทำไม เพื่ออะไร ?” ทีมชาติไทยไม่ได้ไปเตะฟุตบอลโลก นักเตะที่เล่นในไทยลีกไม่มีติดโผไปรัสเซียสักคน แล้วจะหยุดเพื่อ ? จริงอยู่ที่กระแส “ไทยลีก” จะเบาบางลงในช่วงนี้เพราะโดน “เวิลด์คัพ ฟีเวอร์” ยึดเรตติ้ง แต่ถ้าบวก ลบ คูณ หาร ดูรอบๆด้านแล้ว คิดว่าไม่หยุดน่าจะดีกว่า “จ่าฝูง”เปลี่ยน - หนีตายวุ่น !!! ผลกระทบเรื่องแฟนบอลน้อยลงน่ะจริงแน่ แต่ถึงไม่ใช่ช่วงฟุตบอลโลกก็มีคำถามว่า “ทำไมแฟนบอลในสนามน้อยลง ?” อยู่แล้ว ดังนั้นต่อให้เตะไม่ชนฟุตบอลโลกปัญหาแฟนบอลน้อยลงยังต้องเป็นปัญหาให้คิดแก้ไขอยู่ดี เพียงแต่ช่วงนี้ “ขาจร” หายไปเยอะหน่อย แต่ “ขาประจำ” หลายๆสนามยังคึกคักเหมือนเดิม ที่สำคัญหากหยุดลีกช่วงฟุตบอลโลกจะทำให้โปรแกรมถูกโยกไปยัดในช่วงท้ายฤดูกาล นั่นไม่เป็นผลดีแน่เพราะคิวเตะของ “ช้างศึก” ยังรออยู่เพียบตั้งแต่ช่วงกลางตุลาคมเป็นต้นไป อย่าลืมว่าเดี๋ยวสิงหาคมต้องหยุดลีกให้ “เอเชี่ยนเกมส์” เป็นเวลาอีก 1 เดือนด้วย ทำให้คิวเตะช่วงท้ายแทบไม่มีเวลาพักให้หายใจอยู่แล้ว เมื่อดูจาก “ปฎิทินลูกหนัง” ของ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ แล้วจึงเข้าใจได้ว่าทำไม “ไทยลีก” ถึงยังเตะอยู่ในช่วงที่กระแสของฟุตบอลทัังโลกมุ่งไปที่ “ฟีฟ่า เวิลด์คัพ” เอาเป็นว่าใครชอบแบบไหนเลือกเสพเอาตามสะดวกครับ เอาจริงๆแบ่งเวลาดูยังได้ ดู “ไทยลีก” เสร็จแล้วต่อด้วยฟุตบอลโลก อาจจะไม่ได้ดูแบบครบทุกคู่ แต่ก็สนุกไปคนละแบบ สำหรับ “ไทยลีก” ช่วงนี้ต้องบอกว่าลุ้นกันสนุกเลยทีเดียว เปิดเลกสองมา 2 นัด สถานการณ์ทั้งบนและล่างตารางคะแนนน่าสนใจแบบห้ามกระพริบตา “จ่าฝูง”เปลี่ยน - หนีตายวุ่น !!! คำว่า “พลิกล็อก” ไม่ได้มีแค่ที่ฟุตบอลโลก แต่ใน “ไทยลีก” ก็ใช่ย่อย สัปดาห์ล่าสุด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แพ้คาบ้านนัดแรกในฤดูกาลต่อ ชัยนาท ฮอร์นบิล ทำให้ตก “จ่าฝูง” ทันที !!! ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่แรงไม่หยุดชนะในลีก 11 นัดติดแซงขึ้นไปนำ “จ่าฝูง” เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้แล้ว ถึงตอนนี้การลุ้นแชมป์สนุกเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม “แข้งเทพ” มี 45 คะแนน ส่วน “ปราสาทสายฟ้า” มี 44 คะแนน ดูแล้วคู่นี้ลุ้นแบบหายใจรดต้นคอกันไปอีกยาวๆ ขณะที่ทีมที่ตามมาห่างๆ การท่าเรือ ก็ไม่ธรรมดา บุกไปเอาชนะทีมที่เก่งในบ้านอย่าง ราชบุรี มิตรผล ด้วยสกอร์ที่ไม่มีคาดคิดว่า “ราชันมังกร” จะพังคาบ้านถึง 1-4 “สิงห์เจ้าท่า” รั้งอันดับ 3 เหนียวแน่นมี 37 แต้มแบบพอมีลุ้นเหมือนกัน ส่วนทีมอันดับ 4 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ติดเครื่องแล้ว ราโดวาน เคอร์ชิซ พาทีมชนะในลีก 5 นัดติดมี 36 แต้ม ทีมในกลุ่ม “ท็อปโฟว์” ตอนนี้ถือว่ามาตามนัดแล้ว แต่ท้ายตารางดูละยังชุลมุนวุ่นวาย ดูตารางคะแนนแล้วตั้งแต่อันดับ 8 ลงไปยังคงเสี่ยงต่อการตกชั้นที่ต้องมี 5 ทีมร่วงไปไทยลีก 2 ดูแล้ว แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล ทีมบ๊วยโอกาสรอดยากมากมีแค่ 5 คะแนน ส่วน อุบล ยูเอ็มที ที่นัดล่าสุดนำถึง 2 ประตูแต่จบด้วยการเจ๊า นครราชสีมา มาสด้า 2-2 ก็ไม่น่ารอดมีแค่ 11 แต้ม ทว่าที่ต้องตกชั้นอีก 3 ทีมนี่ลุ้นระทึกแน่นอนหลังเกมสัปดาห์ที่ผ่านมาใน “ศึกหนีตกชั้น” กลายเป็น บางกอกกล๊าส ที่ดันแพ้คาบ้านต่อ ราชนาวี ไป 0-1 “กระต่ายแก้ว” ยังไม่ฟื้นเสียทีทำให้ยังออกจากโซนตกชั้นไปไม่ได้ ตอนนี้มี 20 คะแนน ห่างโซนปลอดภัย 4 แต้ม ต่อให้ชนะอีกนัดก็ยังไม่พ้นโซนสีแดง “จ่าฝูง”เปลี่ยน - หนีตายวุ่น !!! ด้าน “ตะหานน้ำ” นี่คนละเรื่องกับเลกแรก ลูโบเมียร์ รีตอฟสกี เปลี่ยนแปลงทีมได้เฉียบ แถมตัวที่เสริมมาพร้อมใช้งานทุกราย การชนะ 2 นัดติดทำให้มี 16 แต้มยังพอมีความหวังรอด ที่ต้องลุ้นแบบห้ามสะดุดเลยคือทีมที่มี 24 แต้มเท่ากันถึง 4 ทีม ตั้งแต่อันดับ 11 ไล่ลงมาทั้ง โปลิศ เทโร ชัยนาท ฮอร์นบิล พัทยา ยูไนเต็ด และ สุโขทัย สถานการณ์ล่าสุด “ค้างคาวไฟ” มีผลต่างประตูได้-เสียแย่ที่สุดเลยอยู่อันดับ 14 ในโซนตกชั้น แต่อันดับตรงนี้พลิกผลันได้ทุกเวลา เรียกได้ว่าใครสะดุดหกล้มหัวทิ่มแน่ !! ส่วนทีมที่อยู่ข้างบนใช่ว่าจะปลอดภัย อันดับ 10 สุพรรณบุรี 25 แต้ม อันดับ 9 นครราชสีมา มาสด้า 26 แต้ม อันดับ 8 ชลบุรี 27 แต้ม หากใครพลาดก็ตกโซนแดงได้เหมือนกัน จากสถานการณ์ทั้งบนและล่างตารางคะแนนแสดงให้เห็นชัดเจนว่า “ไทยลีก” ปีนี้ลุ้นกันสนุก การลุ้นแชมป์และหนีตกชั้นเป็นอะไรที่ยังต้องลุ้นระทึกกันไปยาวๆ ส่วน “ตลาดนักเตะ” ก็ยังไม่ปิด การซื้อ-ขายผู้เล่น โยกย้ายทีมทำได้จนถึงวันที่ 29 มิ.ย. ตรงนี้แฟนบอลหลายทีมยังได้ลุ้นกันว่าทีมรักของตัวเองจะเสริมใครเข้ามาอีกหรือไม่ แม้กระแส “ไทยลีก” จะเงียบไปบ้างในช่วงนี้เพราะเตะชนฟุตบอลโลก แต่เอาจริงๆความน่าสนใจและน่าติดตามไม่ได้ลดน้อยถอยลงเลย เชื่อเถอะครับว่า...ไม่ได้โม้  

                                                                                “บับเบิ้ล”

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline