logo-heading

ทรัพยากรฟุตบอลหนีไม่พ้นตัวผู้เล่นนักเตะ หากทีมไหนมีแข้งคุณภาพดีเล่นเข้าระบบ ฝึกซ้อมกันมายอดเยี่ยมทีมนั้น ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง

ว่าด้วยเรื่องผู้เล่น หากทีมไหนมีรูปแบบที่ชัดเจนในเรื่องการปั้นเยาวชน สโมสรนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินเสียทองมากมายไปกับการคว้าผู้เล่นใหม่ที่ต้องใช้เม็ดเงินมหาศาลเข้ามาเพื่อไล่ล่าความสำเร็จ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมบิ๊กเนมวงการลูกหนังไทย ถือเป็นคลับลูกหนังที่เพียบพร้อมไปแทบทุกอย่าง นักเตะตัวผู้เล่นทั้งไทยและเทศ สนามเหย้า สนามซ้อม การบริหารจัดการที่เลิศหรู นอกจากนี้ยังมีดาวรุ่งวัยกระเตาะมากมายให้ใช้สอย บางครั้งเมื่อเด็กดาวรุ่งฝีเท้าดีมารวมตัวกัน แต่กลับไม่มีเวทีให้ลับฝีเกือกมันก็น่าแปลกใจอยู่ไม่น้อย จนบางครั้งดาวรุ่งเหล่านั้นต้องขออำลาทีมเพื่อไปหาวิถีชีวิตลูกหนังครั้งใหม่ เพื่อพิสูจน์คุณค่าและชื่อเสียงของตนเอง ขอบคุณขอหยิบ 5 วัยโจ๋แข้งเทพ ที่ไปไม่สุดจนต้องไปแจ้งเกิดกับสถานีลูกหนังแห่งอื่น ที่ไม่ใช่สีเสื้อทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 1.ศศลักษณ์ ไหประโคน 5 ดาวรุ่งพุ่งไม่แรงทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด “พี” ศศลักษณ์ เด็กหนุ่มเลือดเนื้อเชื้อไขชาวบุรีรัมย์ ที่บ่มเพาะฝึกฝีเท้ามาจากโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี จนครั้งหนึ่งได้รับฉายาว่าเป็น “เทพฟุตซอล” จนได้รับการทาบทามจากชลบุรี บูลเวฟ ขาใหญ่วงการโต๊ะเล็กแดนสยาม อย่างไรก็ดี “พี” เลือกเบนเข็มไปที่ฟุตบอลสนามใหญ่ จนได้รับสัญญากับทีมแข้งเทพ ในปี 2014 แต่ตลอดเวลา 3 ปี เขาพบความว่างเปล่า แถมด้วยอัตราการแข่งขันที่สูงในแบงค็อกแทบทุกฤดูกาล จนไม่อาจสู้แรงเสียดทานจากแข้งซีเนียร์ จนแทรกเข้าไปเป็นตัวหลักของ มาโน่ โพลกิ้ง ท้ายที่สุดข้อเสนอจากบุรีรัมย์ มาหาเป็นหนที่ 2  ศศลักษณ์ กลางฤดูกาล 2017 เขาไม่รอช้าตัดสินใจย้ายไปแสว่งหาความท้าท้ายใหม่กับทีมบ้านเกิด พร้อมทั้งปรับบทบาทปีกซ้ายมาแจ้งเกิดในตำแหน่งฟูลแบ็ค หรือวิงแบ็ก ในฤดูกาล 2018 จนฟอร์มเปรี้ยงปร้างในเวลาอันรวดเร็วเพียงแค่ 1 ปี และขยับสู่ทำเนียบทีมชาติไทยชุดใหญ่ตามความปรารถนา 2.จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ 5 ดาวรุ่งพุ่งไม่แรงทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด หนุ่มน้อยจากจังหวัดจันทบุรี ที่ถนัดในตำแหน่งตัวริมเส้นทางฝั่งขวา จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ คือแข้งโนเนมที่เจียระไนจนกลายเป็นเพชรเม็ดงามของโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี เมื่อผลงานยอดเยี่ยมในระดับฟุตบอลกรมพละ 18ก. รวมถึงทัวร์นาเมนต์ฟุตซอล จนก้าวไปติดทีมชาติไทย 19 ปีในยุคของอนุรักษ์ ศรีเกิด ชุดแชมป์อาเซียน เมื่อปี 2015 “แข้งเทพ” จึงไม่รอช้าประเคนค่าเหนื่อยให้ “ไอซ์” ในขณะที่ยังเรียนไม่จบมัธยมปลายปลาย เพื่อนำมาร่วมทัพ เด็กวัย 18 ปีได้โอกาสฝึกปรืออยู่ในทีมชุดใหญ่ จนมีโอกาสลงเล่น 3 เกม กระทั่งถูกปล่อยไปให้ชัยนาท ยืมตัวเมื่อปี 2016 ทว่าเส้นทางชีวิตของ จักรกฤษณ์ กลับมาเจอแสงสว่าง เมื่อระหว่างไปทดสอบฝีเท้ากับเอฟซี โตเกียว เกิดเล่นได้เข้าตาสต๊าฟฟ์โค้ช และถูกดึงตัวมาร่วมทีมสำรอง โลดเล่นในระดับเจลีก 3 พร้อมกับการจารึกเป็นแข้งไทยคนเดียวที่ซัลโวประตูในลีกญี่ปุ่น เมื่อปี 2017 จนได้รับการต่อสัญญายืมตัวไปอีก 1 ฤดูกาล 3.เนติพงษ์ แสนมะฮุง 5 ดาวรุ่งพุ่งไม่แรงทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด นี่คือดาวรุ่งจากโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ที่ไม่เคยมีโอกาสรับใช้แข้งเทพ หรือแม้กระทั่งร่วมซ้อมกับทีมชุดใหญ่ “อาร์ท” ทำได้เพียงแค่เป็นผู้เล่นที่ถูกใส่ชื่อลงแข่งฟุตบอลโค้ก คัพ โซนกรุงเทพ ในช่วงที่ “น้าติ๊ก” สมชาติ ยิ้มศิริ เข้ามาทำทีมเยาวชนให้เมื่อปี 2013 หลังจากนั้น เนติพงษ์ ได้โอกาสลงเล่นฟุตบอลกับราชประชา ในลีกภูมิภาค ดิวิชั่น2 เดิม ปี 2014 ฟอร์มอาจจะไม่เข้าที่เข้าทาง แต่ด้วยรูปร่างสูงใหญ่เหมาะในตำแหน่งกองหลัง จึงถูก “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ เมื่อครั้งทำทีมชาติไทย 19 ปี ชิงแชมป์เอเชีย เรียกติดทีมชาติ พร้อมทั้งจับมาขัดเกลาติวเข้มใหม่ จนกลายเป็นแนวรับจอมเข้าปะทะใส่คู่แข่งอย่างไม่เกรงกลัวใครหน้าไหน ด้วยความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี “อาร์ท” ตัดสินใจย้ายไปกลับไปเป็นลูกทีม “โค้ชเตี้ย” ในทีมแอร์ฟอร์ซ เมื่อปี 2015 และช่วยนำพาทีมกลับมาเล่นไทยลีกในซีซั่นปัจจุบัน แม้ผลงานทัพฟ้า จะย่ำแย่ชนิดกู่ไม่กลับ แต่แนวรับวัย 22 ปี ยังคงรวมหัวจมท้ายกับทีมต่อไปและไม่คิดทอดทิ้งสโมสรที่มอบโอกาสเส้นทางลูกหนังสายอาชีพแก่เขา 4.สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ 5 ดาวรุ่งพุ่งไม่แรงทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เจ้าของสมญานาม “นิว ดัสกร” เนื่องมาจากชื่อเล่นที่คล้ายกัน คือดาวรุ่งที่เคยเกือบถูกเรียกติดทีมชาตินิวซีแลนด์ ชุดเยาวชน 20 ปีมาแล้ว เนื่องจากปักหลักใช้ชีวิตมาเกือบ 3 ปี เนื่องจากเคยไปฝึกฟุตบอลและได้ทุนเรียนหนังสือในดินแดนกีวีกับ วินตัน รูเฟอร์ ตำนานลูกหนังชาวนิวซีแลนเดอร์ ที่โด่งดังกับแวร์เดอร์ เบรเมน หลังกลับมายังเมืองไทย “โก้” สรรเสริญ ถูกดึงไปร่วมทีมศรีราชา บ้านบึง และถูกบุรีรัมย์ ชักชวนไปร่วมทีม กระทั่งผลงานที่เจ๋งเป้ง ในทีมชาติ19 ปี ชุดแชมป์อาเซียนปี 2015 ณ นครเวียงจันทร์ สปป.ลาว สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ จึงถูกคว้าตัวไปแบงค็อก ยูไนเต็ด แม้จะมีคลาสบอลชั้นเชิงลูกหนังที่แพรวพราว ในการคุมเกม เปิดบอลจังหวะหนึ่งสอง การอ่านเกมตัดเกมที่โตเกินวัย เพียงแต่ “โก้” ประสบปัญหาไม่ต่างจาก ศศลักษณ์ คือการแทรกขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ทางออกเดียวคือการย้ายออกจากทีมไปในรูปแบบยืมตัว ซึ่ง”โก้” กลับมาทำได้ดีกับสุโขทัย เอฟซี ปักหลักยึดพื้นที่ตัวจริงได้อย่างไร้ปัญหา และคัมแบ็คสู่ทีมชาติไทยชุด 22 ปีอีกหน 5.ศรายุทธ สมพิมพ์ 5 ดาวรุ่งพุ่งไม่แรงทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับ จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ ในรั้วสุรศักดิ์มนตรี ร่วมทุกข์ร่วมสุขในระดับบอลนักเรียนทั้งสนามใหญ่และสนามเล็กกันมานมนาน จนก้าวสู่ทีมชาติไทยชุดยู-19 ชิงแชมป์อาเซียน ปี 2015 ตามด้วยการรับสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับทีมแข้งเทพพร้อมๆกัน ศรายุทธ สมพิมพ์ หรือที่มีชื่อเล่นว่า “ตาหวาน” ได้โอกาสสวมยูนิฟอร์มแบงค็อก ตลอดระยะเวลาที่รับใช้ทีม 2 ปี เพียงแค่ 3 เกมเท่านั้น ทั้งที่ความเป็นจริงชั้นเชิงลูกหนังหนุ่มน้อยรายนี้มีเยอะมาก ทั้งการเล่นได้ทั้งฟูลแบ็คและเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ รวมถึงตัดเกมและอ่านจังหวะคู่แข่งได้เยี่ยมยอด

เมื่อโอกาสในทีมชุดใหญ่แบงค็อกมีน้อยนิด ประกอบกับเป็นคนบุรีรัมย์โดยกำเนิด ทำให้ “ตาหวาน” ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมปราสาทสายฟ้า และถูกปล่อยมาให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์กับแอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เพื่อจะได้มีเวลาบ่มเพาะฝีเท้าอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย จากเจสัน บราวน์ ผนึกกำลังร่วมกับ ธนา ศรีพันดร, เนติพงษ์ แสนมะฮุง และ อเล็กซ์ คาปิโซดา จนกลายเป็นแบ็คโฟร์ที่แข็งแรงทดทานกว่าเดิมไม่หลุดลุ่ยเหมือนในเลกแรก

 
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline