logo-heading

ดราม่าแฟนบอลที่ปาธงเชียร์ใส่นักเตะทีมตัวเองในไทยลีกสัปดาห์ล่าสุดกลายเป็นประเด็นที่มีคนพูดถึงกันไม่น้อย

เรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น และไม่ควรจะเกิดขึ้น !!! คำว่า “แฟนบอล” มีหลายประเภทในสารบบเกมฟุตบอล หลายกลุ่มมีชื่อเรียกกันอย่าง ฮาร์ดคอร์ ฮูลิแกน อุลตร้า หรืออะไรก็ว่าไปตามแต่ที่อยากจะเป็นหรือให้คนอื่นมอง แฟนบอลไทยพัฒนาขึ้นจากวันวานเยอะครับ เมื่อก่อนตอนยังไม่บูมมีแค่ไม่กี่กลุ่ม ปัญหาจึงน้อยตามไปด้วย ปัญหาหลักๆสมัยวันวานคือ “แฟนบอลไม่ค่อยมี”  มากกว่า แต่ปัจจุบันฟุตบอลไทยบูมขึ้นกว่าเดิมมาก พอแฟนบอลเยอะขึ้น ปัญหาก็แยะตาม ยิ่งช่วงที่ลีกกำลังเริ่มเติบโตปัญหาแฟนบอลนี่ถึงขั้นหนักอกหนักใจกันเลยทีเดียว ช่วงเวลานั้นมีสารพัดปัญหา แฟนบอลทะเลาะวิวาทกันบ่อยหัน ตีกันจนเกมไม่จบก็มี บ้างก็เชียร์แบบไม่สร้างสรรค์ตะโกนด่าแบบพร้อมเพียง หรือชูป้ายข้อความหยาบคาย ฟุตบอลไทยเรียนรู้และพัฒนาแก้ปัญหาแฟนบอลมาได้ดีพอสมควรเลยนะครับ ทุกวันนี้ปัญหาแฟนบอลถือว่าน้อยลงมาก บางคนอาจจะบอกว่าเพราะแฟนบอลในสนามน้อยลงจึงทำให้ปัญหาน้อยลง ตรงนี้อาจจะจริงแต่คงไม่ใช่ทั้งหมด สิ่งสำคัญคือการวางมาตรการป้องกันและบังคับใช้มากกว่า แม้ระเบียบหรือข้อห้ามหลายๆอย่างจะดูบ้องตื้นจนฝืนธรรมชาติของการเชียร์กีฬา แต่ต้องยอมรับว่าบางอย่างได้ผล ตัดไฟแต่ต้นลมไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลายได้เหมือนกัน เหตุวุ่นๆของแฟนบอลในปัจจุบันจึงลดลงเยอะเลย แต่ละสัปดาห์แทบไม่มีบทลงโทษ หากจะมีคือเล็กน้อย เช่นขว้างปาสิ่งของที่ยังพอมีให้เห็นบ้างประปราย ส่วนเรื่องที่เลยเถิดจนบานปลายไปกันใหญ่นั้นมีน้อยจริงๆ ตรงนี้ต้องชื่นชม “สโมสร” ด้วยที่หันมาเอาจริงเอาจังดูแลกันเต็มที่ วางมาตรการต่างๆไว้อย่างดี แฟนบอลเองก็น่าชื่นชมครับ หลายคนเรียนรู้ที่จะพัฒนาตัวเองไม่ให้เป็น “ตัวปัญหา” อะไรที่ห้ามก็ไม่ทำ เพราะผลเสียจะกลายเป็นความ “ซวย” ของสโมสรที่ต้องมารับผิดชอบ เท่าที่เห็นหลายสโมสรมีแบบแฟนบอลช่วยกันดูแลกันและกันอีกแรงด้วย ประมาณว่าใคร “นอกคอก” หรือแหกกฎจะถูกแฟนบอลด้วยกันเองนี่ละจัดการก่อน ว่ากล่าวตักเตือนห้ามปราบกันไป แต่ถ้าเอาไม่อยู่จริงๆเห็นมีประจานและสั่งแบนเลยก็มี ตรงนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ไม่งั้น “ปลาเน่าตัวเดียวจะเหม็นไปทั้งข้อง” อย่างไรก็ดีแฟนบอลประเภท “ห้ามไม่ฟัง” ใช่ว่าจะไม่มี บางสโมสรยังมีให้เห็นอยู่ สโมสรเองก็ยังกำราบไม่ได้ แฟนบอลด้วยกันก็เอือมระอา !!! แต่แฟนบอลประเภทนี้มีน้อยครับ แฟนบอลส่วนใหญ่ของทุกสโมสรมีดีมากกว่าแย่ กรณีดราม่าที่เกิดขึ้นล่าสุดก็น่าจะเป็นเพราะบางคนเท่านั้นที่ “ขาดสติ” !!! พฤติกรรมที่เกิดขึ้นนอกจากจะเป็นการทำลายภาพลักษณ์แฟนบอลของทีมตัวเองแล้วยังส่งผลเสียต่อสโมสรด้วยแน่นอน ประการแรกเลยสโมสรต้องถูก “ไทยลีก” ลงโทษปรับจากการขว้างปาสิ่งของลงสนาม ส่วนประการที่สองน่าจะเป็นเรื่องขวัญกำลังใจของทีม ตอนนี้นักเตะขวัญกระเจิงหมดแล้ว แทนที่แฟนบอลจะให้กำลังใจนักเตะทีมตัวเองในช่วงเวลาที่กำลังย่ำแย่ไม่ชนะมาหลายเกมติดต่อกัน แต่กลับมากระทืบซ้ำด้วยการไม่ให้กำลังใจกันแบบนี้....มันก็เกินไป ไม่มีนักฟุตบอลคนไหนอยากลงสนามไปแพ้หรอกครับ ทุกคนต้องเต็มที่อยู่แล้ว แต่เกมฟุตบอลไม่ใช่จะแพ้หรือชนะได้ด้วยใครคนเดียว ที่สำคัญไม่มีใครชนะได้ทุกเกม หรือแพ้ได้ทุกเกม คำกล่าวที่ว่า “นักเตะคนที่ 12” หมายความถึงแฟนบอลที่เป็นทีมเดียวกันไม่ใช่หรือ  แล้วทำไมทีมเดียวกันถึงทำร้ายกันเอง ? แฟนบอลที่ดีควรเป็น ‘SUPPORTER’ ให้นักเตะและสโมสร ไม่ว่าจะเป็นแฟนบอลหรือคนทำทีมต้องพึงสำนึกด้วยว่าเกมกีฬา “ชนะได้ ต้องแพ้เป็น” ถ้าคิดเอาแต่ได้หรือต้องได้ดั่งใจอย่างเดียวแบบนั้นเรียกว่า “ไม่มีสปีริต” ส่วนนักเตะก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อตอบแทนแฟนบอลที่ตามเชียร์ รวมถึง “ใส่ใจ” ในคำวิพากษ์วิจารณ์หรือกระแสจากแฟนบอลที่มีเหตุและผลด้วย แฟนบอลแสดงออกได้หมดละครับ ไม่ได้บอกว่าต้องหูหนวกตาบอด หลับหูหลับตาเชียร์ ใครจะชียร์ ใครจะด่า คงห้ามไม่ได้ แต่ต้องมีขอบเขตและให้เกียรติกัน ไม่ให้เกียรติคู่ต่อสู้ ไม่แย่เท่าไม่ให้เกียรตินักเตะทีมตัวเองนะ...บอกเลย  

                                                                                “บับเบิ้ล”

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline