logo-heading

เหตุการณ์สำคัญในลีกยุโรปประจำวันเสาร์ที่ผ่านมา (25 สิงหาคม) ต้องบอกเลยว่ามีโมเมนต์สำคัญๆ เกิดขึ้นมากมาย จะมีอะไรบ้างนั้นไปทบทวนความจำกันหน่อยดีกว่า

ชัยชนะของ อูไน เอเมรี่

ชีวิตของ อูไน เอเมรี่ ต้องทุกข์ทนเป็นอยากมากกับการพาทีมปราชัยทั้ง 2 เกมในการทำงานบนเวที พรีเมียร์ลีก จนโดนวิพากษ์วิจารณ์ในแง่เสียๆ หายๆ มากมาย แต่ในท้ายที่สุดเฮียแกก็สะกดคำว่าชนะเป็นแล้วในศึก ลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ ที่เปิดรัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม พลิกกลับมาทุบ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไป 3-1 พร้อมกับยืดสถิติไม่แพ้ 9 เกมติดต่อกันในศึก ลอนดอน ดาร์บี้ นับเฉพาะการเล่นในถิ่นบนเวที พรีเมียร์ลีก

เสมอ = แพ้

จริงๆ มันเหมือนจะเป็นงานที่ง่ายสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในการเจอกับน้องใหม่อย่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส แต่ก็แค่เหมือนเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงมันตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง วูล์ฟ สร้างปัญหาให้กับ แมนฯ ซิตี้ ได้เยอะแยะมากมายกับโอกาสยิงในเกมๆ นั้นที่ 11 ครั้ง และได้มา 1 ประตูจากกองหลัง วิลลี่ โบลี่ แต่ด้วยศักด์ศรีของแชมป์เก่า แมนฯ ซิตี้ สามารถทวงประตูตีเสมอกลับมาได้จาก อายเมอริค ลาปอร์เต้ ท้ายเกมเกือบมีดราม่าเมื่อ เซร์คิโอ อเกวโร่ มีโอกาสได้กดสี่เหลี่ยมยิงฟรีคิกลุ้นประตูชัย แต่ผลปรากฏว่าบอลดันไปชนคาน และจบเกมเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ทำได้แค่เสมอกับ วูล์ฟ 1-1 เท่านั้น ถึงจะเสมอแต่ก็เหมือนแพ้เพราะมีโอกาสยิงถึง 18 ครั้ง และก็มีหลายจังหวะที่ 'กุน' ค่อข้างอับโชคเพราะยิงชนเสาชนคานไปหลายดอก

ประตูที่ 1,500 ใน พรีเมียร์ลีกในนามแข้งชาวฝรั่งเศส

ประตูตีเสมอของ อายเมอริค ลาปอร์เต้ ที่เกิดขึ้นในเกมพลาดท่าเจ๊า วูล์ฟแฮมป์ตัน นั้นได้เกิดสถิติที่น่าจดจำขึ้น เพราะนั่นคือประตูที่ 1,500 ที่แข้งชาวเฟร้นช์แมนยิงได้ในศึก พรีเมียร์ลีก เท่านั้นยังไม่พอเพราะนี่ก็เป็นประตูแรกในสีเสื้อ แมนฯ ซิตี้ ของ ลาปอร์เต้ เหมือนกัน (เป็นประตูแรกในเกมลีกนับตั้งแต่ยิงให้ แอธเลติก บิลเบา ในเกมที่เจอ บียาร์เรอัล เมื่อวันที่ 7 เมษายน ถ้านับเป็นจำนวนนัดก็ตีนบอดมาแล้ว 36 นัด)

ความร้อนแรงของ ลิเวอร์พูล

เป็นอีก 1 เกมที่ ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการเจอกับ ไบร์ทตัน เพราะทั้งการครองบอลก็เหนือกว่าที่ 70 ต่อ 30 โอกาสยิงก็มีมากมายถึง 22 ครั้ง แต่คู่แข่งก็ดันดื้อด้านดื้อทนจนรอดชีวิตไปหลายจังหวะ ทว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็เป็นผู้ปลิดชีพพวกเขาจากประตูชัยในนาที 23 พาทีมเก็บ 9 แต้มเต็ม และที่สำคัญคือยังไม่เสียประตูเลยหลังจากผ่านไป 3 นัดใน พรีเมียร์ลีก ครองจ่าฝูงแต่เพียงผู้เดียว นอกจากนี้ ลิเวอร์พูล ยังยืดสถิติไม่แพ้ในศึก พรีเมียร์ลีก 23 เกมติดต่อกันที่เล่นใน แอนฟิลด์ โดยชนะ 14 เสมอ 8 และเก็บคลีนชีทได้ใน 7 เกมล่าสุด ส่วน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ก็ยิงไปแล้ว 29 ประตูจาก 29 เกมที่เล่นใน แอนฟิลด์ (นับแค่ใน พรีเมียร์ลีก)

เกมแรกของ CR7 ที่ ยูเวนตุส สเตเดี้ยม

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อาจจะทำให้แฟนบอลผิดหวังไปสักหน่อยในเกมนัดเปิดฤดูกาลที่บุกไปชนะ คิเอโว่ 3-2 เพราะไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ด และเมื่อวานนี้ก็การเปิดซิงเกมแรกในการเล่นที่ ยูเวนตุส สเตเดี้ยม ถึงแม้เจ้าของโค้ดเนม CR7 จะไม่มีชื่อเป็นคนประตูอีกเหมือนเดิม แต่ก็สร้างปัญหาและปั่นป่วนแนวรับคู่แข่งได้เหมือนกัน และมีชื่อเป็นคนทำแอสซิสต์แบบไม่ตั้งใจให้ มาริโอ มานด์ซูคิช ซัดประตูตอกฝาโลงดับชีวิต ลาซิโอ 2-0 ช่วงนาที 75

27 นาทีเปลี่ยนชีวิต

อีกหนึ่งเกมบิ๊กแมตช์ใน อิตาลี เมื่อวานนี้นอกจากคู่ ยูเวนตุส กับ ลาซิโอ แล้วก็ยังมี นาโปลี ปะทะ เอซี มิลาน ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน แถมยังมีประเด็นดราม่าเกิดขึ้นด้วย เพราะ เอซี มิลาน เป็นฝ่ายขึ้นนำ 2-0 ตั้งแต่ช่วงต้นครึ่งหลัง แต่ถึงกระนั้น นาโปลี ก็พลิกชะตาชีวิตตัวเองกลับมากุมชัยชนะได้โดยใช้เวลาเพียงแค่ 27 นาทีในการยิงแซง เอซี มิลาน และชนะไป 3-2 โดยได้ 2 ประตูจาก ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้ และประตูชัยจาก ดรีส เมอร์เท่นส์ ที่ลงมาเป็นซูเปอร์ซับ

VAR ช่วยชีวิต บาร์ซ่า

ทางฝั่งของ ลา ลีกา สเปน เมื่อวานนี้แชมป์เก่าอย่าง บาร์เซโลน่า มีคิวบุกไปเยือนน้องใหม่ เรอัล บายาโดลิด และก็เหมือนจะเป็นเกมที่ง่ายๆ ชิลๆ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย ถึงแม้พวกเขาจะเป็นครองเกมได้มากกว่าตามสไตล์ แต่โอกาสยิงก็ไม่ได้เยอะกว่าเทาไหร่ แถมยังขาดความเฉียบคมอีก แต่ยังดีที่ อุสมาน เดมเบเล่ สามารถซัดประตูให้ทีมได้ในนาที 57 แต่พอ บาร์ซ่า ขึ้นนำก็ลงไปเน้นตั้งรับและคุมโซนมากขึ้นก็เลยทำให้ บายาโดลิด มีโอกาสโจมตีและสร้างความหวาดเสียวหลายต่อหลายครั้ง จนสามารถส่งบอลเข้าตุงตาข่ายได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากลูกโขกของ เกโก้ แต่ VAR จับได้ว่าจังหวะนั้นเป็นช็อตล้ำหน้าก็เลยทำให้ บายาโดลิด พลาดประตูเปลี่ยนชีวิต รวมไปถึง 1 แต้มอันล้ำค่าด้วยเช่นกัน

คาริอุส กับชีวิตใหม่ที่ เบซิคตัส

ส่วนในเรื่องของตลาดซื้อขายเมื่อวานนี้ก็มีดีลใหญ่เกิดขึ้น นั่นคือการที่ ลิเวอร์พูล ตัดสินใจปล่อย ลอริส คาริอุส ไปเก็บเลเวลและชุบตัวที่ เบซิคตัส เป็นระยะเวลา 2 ปีในรูปแบบการยืมตัว หลังต้องเจอกับฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนจากความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นมากมายตลอดช่วงที่ผ่านมาจนโดนหลายๆ ฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ตลอดจนการเสียตำแหน่งนายทวารตัวจริงให้กับ อลิสซอน ไปอย่างสิ้นเชิง
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline