logo-heading

ผ่านพ้นหลัก 1 สัปดาห์เรียบร้อยแล้วที่ทีมชาติไทย ในชุดเตรียม “ปรี โอลิมปิก เกมส์ 2020” นั้น เกิดสุญญากาศในเรื่องของเฮ้ดโค้ช ทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ช และทิศทางในการทำทีมต่อไป หลังจากนี้อีก 1 ปีเศษๆ ที่จะเข้าสู่ช่วงแข่งขัน ปรีโอลิมปิก อย่างแท้จริงที่ประเทศไทย

จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของเฮ้ดโค้ช ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี คนใหม่ต่อจาก “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ ที่เพิ่งแยกทางกับทีมชาติไทยไป หลังจากพา “ช้างศึก” ตกรอบแรกในศึก เอเชี่ยนเกมส์ 2018 โดยมีข่าวว่า จะมีการเปิดรับสมัครเฮ้ดโค้ชคนใหม่แบบโอเพ่นเลยนะ ให้โอกาสทั้งกุนซือชาวไทย และต่างประเทศ ซึ่งจะมีเงื่อนไขคือ ต้องเป็นกุนซือที่มีดีกรี โปร ไลเซนส์ เท่านั้น เพื่อการทำทีมยาวต่อเนื่องถึงทัวร์นาเมนต์ออฟฟิเชี่ยล “ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ปี 2020” นอกจากเรื่องของเฮ้ดโค้ชแล้ว ก็ยังมีคำถามมากมายเกี่ยวกับผู้อำนวยการเทคนิคฟุตบอลทีมชาติไทย (Football Director) ที่ทางสมาคมฟุตบอลฯ จะประสานกับ สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) เพื่อแต่งตั้งเข้ามาทำหน้าที่แบบเต็มเวลาให้กับทีมชาติไทยในการดูแลติดตามวิเคราะห์ฟอร์มนักฟุตบอล และรูปแบบการบริหารทีมชาติไทย

ตำแหน่งเก่า ยังไม่มีคนใหม่? ตำแหน่งใหม่ ก็ยังไม่มีคนมา?

เป็นอาการช็อตเล็กๆ หลังอุบัติเหตุตกรอบในศึกลูกหนังเอเชี่ยนเกมส์ ซึ่งการบริหารจัดการทีมในเรื่องของฟุตบอลของทีมชุดนี้นั้น ช่างแตกต่างจากเรื่องภายนอกสิ้นเชิง เพราะเรื่องนอกสนามนั้น ประเทศไทย และแฟนบอลชาวไทย ได้รับข่าวดี เพราะจะได้รับหน้าที่จัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในรอบสุดท้าย ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ที่มีโควตาในการไปเล่นฟุตบอลโอลิมปิก เกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น

ทีมชาติไทย จะผ่านเข้ารอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติ ทีมชาติไทย จะได้เล่นในบ้านในรอบสุดท้าย ทีมชาติไทย จะได้อยู่โถ 1 ของการจับสลากในรอบสุดท้าย ในฐานะเจ้าภาพ ทีมชาติไทย จะได้เล่นรอบคัดเลือก แบบไม่กดดัน เพราะไม่ตกรอบแน่นอน ซึ่งจะเป็นการเตรียมทีมไปในตัว ทีมชาติไทย จะมีโปรแกรมการเตรียมทีมอีกอย่างน้อยสองรายการนั่นคือ ซีเกมส์ 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ และ ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 22 ปี ในปีหน้า ที่ประเทศกัมพูชา (ยังไม่นับรายการอุ่นเครื่องภายในประเทศอีก 1 รายการเป็นอย่างน้อย)

นี่คือสิทธิ์ที่ทีมชาติไทย พึงจะได้รับ และเป็นวัตถุดิบชั้นเยี่ยม ต่อการเตรียมทีม ต่อการปรุงแต่งรสชาติของทีม ของ “นายใหญ่” ชุดปรีโอลิมปิก คนใหม่

แต่ใครเล่า คือ คนนั้น??

อีกเพียง 6 เดือนเท่านั้น การแข่งขันฟุตบอล ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020 รอบคัดเลือก ก็จะระเบิดขึ้นแล้ว ในเดือนมีนาคม ซึ่งอย่างที่บอก ทีมชาติไทยจะใช้ทัวร์นาเมนต์นี้ เป็นการเตรียมทีม คำถามคือ หากปล่อยเวลาการสรรหาเฮ้ดโค้ชคนใหม่ให้ล่วงเลยไปอีก ก็จะลดทอนเวลาการเตรียมตัว การเตรียมทีม การวางแผนงานทั้งหมดของเฮ้ดโค้ชคนใหม่ไปอีก แล้วไหนจะต้องเช็กว่าจะชนกับโปรแกรมไทยลีกไหม ต้องมีการอุ่นเครื่องก่อนไหม จะต้องมีการลองทีมเล็กๆ น้อยๆ ก่อนไหม ต้องมีการเก็บตัวเรียกฟิตก่อนไหม หากเป็นกุนซือต่างชาติ ก็ต้องมีเวลาปรับตัวอีกไหม บลาๆๆ ยังมีอีกหลายเงื่อนไข ร้อยแปดพันเก้าปัญหาที่จะต้องเจอครับ ซึ่งเรามีบทเรียนที่ยิ่งใหญ่มาแล้วในการเตรียมทีมแบบ “ครึ่งๆ กลางๆ” จนทำให้ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในศึกเอเชี่ยนเกมส์ 6 เดือนเร็วนะครับ สักพักก็ถึงแล้ว หลังจากรอบคัดเลือก อีกไม่กี่เดือนก็มี ศึกยู-22 ชิงแชมป์อาเซียน 2019 ตามด้วย ซีเกมส์ 2019 ในปลายปีหน้า เวลาผ่านไปแปปๆ ทุกอย่างก็จะผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะเวลาไม่เคยรอใครทั้งนั้น และไม่เคยให้โอกาสใครได้ย้อนหลังกลับไปแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว เหมือนกับที่มันเคยผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนเกิดบทเรียนแสนสาหัสอย่างเช่น เมื่อครั้งเอเชี่ยนเกมส์ที่ผ่านมา….

“จอน”

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline