logo-heading

ฟุตบอล “ไทยลีก” เหลือเพียง 3 นัดสุดท้ายที่จะได้บทสรุปของฤดูกาล 2018 แล้วว่าใครจะอยู่ ใครจะไป ? 

สถานการณ์ท่อนล่างตารางคะแนนเข้มข้นกว่าท่อนบนเยอะ เพราะข้างบนได้ “แชมป์” และ “รองแชมป์” ไปเรียบร้อยแล้วหลังจบเกมที่ 31 ของฤดูกาลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา   บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เก็บเพิ่มเป็น 78 แต้มเข้าป้ายคว้าแชมป์ตามคาดแบบคะแนนขาดลอย ทำสถิติแชมป์มากที่สุด 6 สมัย แม้ยังเหลือเกมอีก 3 นัดก็ตาม   ขณะที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ถึงจะแพ้ในเกมล่าสุด แต่ 66 แต้มที่มีทำให้คว้าอันดับ 2 พร้อมตั๋วเพลย์ออฟ “เอซีแอล” หรือ “เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2019” แน่นอนแล้ว  ที่เหลือลุ้นอยู่ท่อนบนหัวตารางคะแนนคือ “อันดับ 3” ที่อาจได้สิทธิ์ไปเพลย์ออฟใน “เอซีแอล” หากเกิดกรณีที่ “ปราสาทสายฟ้า” ไปซิวแชมป์ “เอฟเอคัพ” มาครองอีกถ้วย   ถ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็น “ดับเบิลแชมป์” โควตา 2 ทีมที่จะไปเพลย์ออฟใน “เอซีแอล” จึงจะตกเป็นของอันดับ 3 ในไทยลีก ตรงนี้ยังถือว่าน่าสนใจเพราะแต้มห่างกันไม่มาก    ไล่เรียงดูมีถึง 4 ทีมที่ต้องบี้กัน ตั้งแต่อันดับ 3 เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 54 แต้ม, อันดับ 4 การท่าเรือ 52 แต้ม,​อันดับ 5-6 พีที ประจวบ กับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 50 แต้มเท่ากัน  ทีมใดจะเข้าป้ายอันดับ 3 แล้วจะได้ตั๋วไปเพลย์ออฟ “เอซีแอล” อย่างที่หวังหรือไม่ แฟนๆแต่ละทีมต้องตามลุ้นกันต่อไป    แต่ที่ต้องลุ้นหนักแบบระทึกขวัญจริงๆคือ “ศึกหนีตาย” ตรงท้ายตารางคะแนน !!!  แม้หลังจบนัดล่าสุด ราชนาวี จะกลายเป็นทีมที่ 3 ต่อจาก แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล และ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด ที่ตกชั้นอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ยังเหลืออีก 2 ทีมที่ต้องหล่นไปไทยลีก 2   สัปดาห์ที่ผ่านมาทีม “หนีตาย” พาเหรดคว้าชัยเกือบหมด การต่อสู้จึงเข้มข้นมากขึ้น   สถานการณ์ล่าสุดถึงตรงนี้ โปลิศ เทโร ที่แพ้ 4 นัดติดอยู่อันดับ 15 ดูจะมีความหวังน้อยที่สุด เพราะมีแค่ 33 แต้มห่างจากโซนปลอดภัยตรงอันดับ 13 อยู่ 6 แต้ม   ไม่ต้องคิดหลายข้อแม้ให้ปวดหัว เอาง่ายๆว่า “มังกรโลห์เงิน” ต้องเก็บ 9 แต้มเต็มจาก 3 นัดสุดท้ายให้ได้เท่านั้นถึงจะมี 42 แต้มเพื่อลุ้นอยู่ต่อในลีกสูงสุด  3 นัดสุดท้ายของ โปลิศ เทโร มีดังนี้ เปิดบ้านเจอ ราชบุรี มิตรผล เยือน ราชนาวี แล้วกลับมาปิดฤดูกาลในบ้านเจอ พีที ประจวบ   อย่างไรก็ตาม “มังกรโลห์เงิน” ชนะทุกนัดยังไม่พอ ต้องลุ้นอีกต่อให้ทีมอื่นเก็บไม่ถึง 42 แต้มด้วย แต่ตอนนี้หลายทีมจะแตะหลัก 40 แต้มแล้ว ดูแล้วโอกาสรอดจึงยากจริงๆ !!!    ว่ากันตรงๆสถานการณ์หนีตกชั้นยามนี้จึงน่าสนใจที่ “อันดับ 14” ที่จะเป็นอันดับสุดท้ายที่ต้องตกชั้นมากกว่าว่าหวยจะไปออกที่ทีมใด ?   แต้มตอนนี้อันดับ 14 คือ ชัยนาท ฮอร์นบิล มี 38 แต้ม ถ้าเก็บ 3 นัดที่เหลือหมดจะมี 47 แต้ม นั่นคือแต้มที่มากที่สุดที่ “นกใหญ่” จะทำได้  แต่ไม่ได้หมายความว่าทีมอื่นจำเป็นต้องเก็บให้ได้ 47 แต้ม” หรือมากกว่าเท่านั้นถึงจะการันตีไม่ตกชั้น เพราะทีมหนีตายมีคิวตัดแต้มกันเองหลายคู่  หากใครทำได้ถึง 45 แต้ม” ก็น่าจะรอดตกชั้นแล้ว  ลองมาดูสถานการณ์คะแนนและโปรแกรมหนีตกชั้นเอาแล้วกันว่าใครจะรอดหรือร่วง  เริ่มจากอันดับ 14 ชัยนาท ฮอร์นบิล ต้องไปเยือน พีที ประจวบ เจอ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ก่อนที่นัดสุดท้ายจะตัดแต้มกันเองกับทีมหนีตายอย่าง สุพรรณบุรี   ส่วน “อันดับ 13” ที่เป็นอันดับสุดท้ายที่จะไม่ตกชั้น ตอนนี้อันดับ 12-13 ราชบุรี มิตรผล กับ สุโขทัย มี 39 แต้มเท่ากัน แถมต้องมาตัดแต้มกันเองด้วย   3 นัดสุดท้ายของ ราชบุรี ไปเยือน โปลิศ​ เทโร แล้วกลับมาเล่นในบ้านเจอ สุโขทัย กับ บุรีรัมย์​ ยูไนเต็ด   ขณะที่ สุโขทัย เปิดบ้านเจอ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปเยือน ราชบุรี มิตรผล แล้วปิดฤดูกาลในบ้านเจอ แอร์ฟอร์ซ​ เซ็นทรัล   ด้านอันดับ 11 สุพรรณบุรี ที่มี 40 แต้มมีคิวตัดแต้มกับทีมหนีตายถึง 2 นัด เริ่มจากเปิดบ้านเจอ บางกอกกล๊าส ไปเยือน พีที ประจวบ แล้วกลับมาเล่นในบ้านเจอ ชัยนาท   อันดับ 10 บางกอกกล๊าส ที่มี 41 แต้มต้องตัดแต้มกันเองในกลุ่มหนีตายด้วยการไปเยือน สุพรรณบุรี จากนั้นกลับมาปิดฤดูกาลในบ้าน 2 นัดพบ อุบล ยูเอ็มที และ นครราชสีมา มาสด้า   อันดับ 9 ชลบุรี มี 42 แต้มเหลือเจอ นครราชสีมา มาสด้า เยือน การท่าเรือ แล้วปิดท้ายในบ้านพบ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด   ขณะที่อันดับ 7-8 พัทยา ยูไนเต็ด กับ นคราชสีมา มาสด้า มี 45 กับ 43 แต้มแม้ทางทฤษฎียังมีโอกาสตกชั้น แต่ในทางปฏิบัติไม่น่าต้องลุ้นอะไรแล้ว   ทีมใดจะรอดหรือจะร่วงต้องตามลุ้นกันไป พร้อมกับลุ้นด้วยว่า “สปีริต ของทีมฟุตบอลไทยพัฒนาขึ้นหรือยังในการที่จะเต็มที่กับทุกเกมแม้ไม่มีหวังอะไรแล้ว   ถึงทีมตัวเองจะไม่มีความหมาย แต่มันมีผลต่อทีมอื่นๆที่ต้องลุ้นหนีตกชั้น หวังว่าทีมสโมสรฟุตบอลไทยจะยกระดับความเป็น “มืออาชีพ” ตรงนี้ขึ้นมาเสียที...สาธุ    

“บับเบิ้ล”  

 
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline