logo-heading

หลายคนคงจะเห็นผลงานอันยอดเยี่ยมของ สิงห์ เชียงราย ภายใต้กาคุมทัพของ อเล็กซานเดร กาม่า กุนซือชาวบราซิลที่พาทีมเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วย 2 รายการของไทยได้ถึง 2 ปีติดต่อกัน (ช้าง เอฟเอคัพ และ โตโยต้า ลีกคัพ)

และหลายคนก็น่าจะทราบว่าสัญญาของ กาม่า กับ สิงห์ เชียงราย ที่กำลังจะหมดลงในปีนี้ยังนิ่งเป็นนำแข็งแช่อยู่เลย ทั้งที่ผลงานดีขนาดนี้ไล่ตั้งแต่ทำทีมปีแรกหยิบแชมป์ทันที ต่อเนื่องด้วยปีนี้ที่ลุยมาจนถึงตอนนี้ก็ยังมีลุ้นแชมป์ หลายคนอาจจะสงสัยว่าเกิดอะไรกับสถานการณ์ของ กาม่า และ เชียงราย วันนี้ทีมงาน "ขอบสนามบอลไทย" ขอวิเคราะห์ให้ดูกันว่าเพราะอะไรที่ "กว่างโซ้ง" อาจจะไม่เอา "กาม่า" ไว้ทำทีมต่อทั้งที่มีผลงานที่ดี ...   5 เหตุผลที่ "กว่างโซ้ง" อาจจะไม่เอา "กาม่า" ไว้!!!

1. เชียงราย พลาดแชมป์ เอฟเอ คัพ ในปีนี้

การเข้าชิงฯ บอลถ้วย 2 รายการของ อเล็กซานเดร กาม่า กับ สิงห์ เชียงราย จะไม่มีความหมายเลยหากสุดท้ายพวกเขาได้แค่ถ้วย "โตโยต้า ลีกคัพ" เพราะทุกคนคงรู้ดีว่าเป้าหมายของกว่างตัวนี้คือไป เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2019 ในรอบเพลย์ออฟ เป็นที่ 2 ให้ได้ ดังนั้นหาก กาม่า จะได้ทำงานต่อกับ เชียงราย อย่างน้อยๆ ถ้วย "ช้าง เอฟเอ คัพ" ต้องไม่พลาด ซึ่งถ้าพลาดขึ้นมาก็โบกมือลากันได้เลย

2. ผลงานในลีกไม่ตรงตามเป้าที่คุยกันไว้

ถ้าใครเป็นแฟนบอล กว่างโซ้ง จะรู้ดีว่าการเข้ามาของ กาม่า ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ทีมได้วางมาตราฐานในไทยลีกเอาไว้สูงพอสมควรกับการ (ต้อง) จบอันดับ 1 ใน 3 ให้ได้ เพื่อเป็นการยกระดับทีม ซึ่งปีนี้แม้ว่าจะยังมีโอกาสอยู่ เพราะยังตามหลังอันดับ 3 อย่าง เมืองทอง แค่ 4 แต้ม และเหลือให้เล่นอีก 3 เกมด้วยกัน แต่ด้วยการสถานการณ์ที่ทีมเล่น 120 นาทีมา 2 เกมติด แถมยังได้เข้าชิงฯ บอลถ้วย 2 รายการ ทำให้อันดับในลีกที่ปัจจุบันอยู่ที่ 5 กาม่า อาจจะต้องเลือกวางมือและใช้การ "โรเตชั่น" ตลอด 3 เกมก็เป็นได้ ซึ่งถ้าเป็นจริงคงจะเป็นไปได้ยากที่ กว่างโซ้ง จะเก็บชัยชนะทุกเกมและขึ้นมาจบที่ 3 ในไทยลีกปีนี้ได้

3. อยากหาความท้าทายใหม่ๆ บ้าง

ข้อนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ทุกทีมในโลกนี้คิดเหมือนกันเวลาต้องปรับหรือต้องเปลี่ยนอะไรสักอย่าง นั่นคือการหาควาท้าทายใหม่ๆ เข้ามาสู่ทีม ที่ผ่านมาเกือบ 2 ปีของ กาม่า กับ กว่างโซ้ง สิ่งที่เราเห็นเดิมคือ"บราซิเลี่ยนสไตล์" หรือเต็มที่ก็แค่ "ลุ้นแชมป์บอลถ้วย" ดังนั้นทีมอาจจะมองก็ได้ว่า กาม่า มาถึงจุดอิ่มตัวกับทีมแล้ว และคงจะได้เต็มที่แค่นี้ ดังนั้นการเปลี่ยนไปหาความท้าทายใหม่ๆ คงจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับ เชียงราย

4. เจอคนที่คิดว่า "ใช่" มากกว่า

สำหรับข้อนี้คือคำว่า "อนาคต" ล้วนๆ เพราะมันจะโยงมาจากข้อที่ 3 ที่ทีมต้องการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ๆ หรือหาความท้าทายใหม่ๆ และคำว่า "โค้ชใหม่" มันก็ใช่สำหรับการเปลี่ยนแปลงในการทำทีมฟุตบอล แต่ถึงอย่างนั้นคำว่าใหม่ก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป เพราะเปลี่ยนใหม่ของหลายๆ ทีมเจ๊งมานักต่อนักแล้ว ส่วนในเคสของ สิงห์ เชียงราย ยังบอกไม่ได้ว่าจะเปลี่ยนหรือไม่ หรือเจอใครที่ดีกว่าหรือไม่ แต่ถ้าจะเปลี่ยน กาม่า ก็แค่คิดว่าทีมคงน่าจะเจอคนที่ใช่มากกว่าก็แค่นั้นเอง 

5. หรือ กว่างโซ้ง กำลังเจอวิกฤติอะไรบางอย่าง

ข้อนี้น่าสนใจและเป็นข้อที่หลายคนตั้งแง่สงสัยอย่างที่สุดว่าทำไมการที่ทีมมีโค้ชที่พาทีมมาไกลขนาดนี้, ได้ลุ้นแชมป์ถึง 2 ปีติดต่อกัน ถึงยังไม่เลือกต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไป ก่อนอื่นผมต้องขออธิบายก่อนว่า "การต่อสัญญาโค้ช" มันก็หมายถึงการ "อัพค่าจ้าง" ไปในตัว ซึ่งมันเป็นธรรมดาของโลกฟุตบอลอยู่แล้ว ในเมื่อคุณจ้างกันแบบปีต่อปี คุณก็ต้องอัพค่าจ้างกันแบบปีต่อปีเช่นกันในกรณีที่มีการต่อสัญญาเกิดขึ้น ดังนั้นเรื่องนี้มันจริงหมายถึงเรื่อง "เงินๆ ทองๆ" ในรั้วของ "กว่างโซ้ง" ซึ่งไม่มีใครรู้หรอกว่ามันเหลือมากหรือน้อยแค่ไหน เพราะคงไม่มีใครมาประกาศว่าทีมกูไม่มีเงินแล้ว แต่อย่างน้อยๆ ทีมนั่นแหละที่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร หรือต้องให้ได้ 2 แชมป์ก่อนถึงจะเอาเงินมาต่อสัญญากับ กาม่า ได้ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเราคงต้องรอคำตอบที่ชัดเจนจากทีม สิงห์ เชียงราย กันต่อไปครับ    

บทความโดย : บอลกูรู (เจษดาพร ศรีสรง)

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline