logo-heading

เกมอุ่นเครื่องของทีมชาติไทย ในนัดฟีฟ่าเดย์ ในเกมที่บุกไปเยือนมงก๊ก สเตเดี้ยม พบกับทีมชาติฮ่องกง ก่อนที่จะจบลงด้วยชัยชนะของทัพช้างศึก 1 - 0 จากประตูชัยของ ฟิลิป โรลเลอร์ ตั้งแต่ช่วงต้นเกม

หลังจบเกมขอบสนามบอลไทยขอพามาชม "คะแนนความสามารถ" ของทีมชาติไทยนัดที่บุกไปเอาชนะ ฮ่องกง ในนัดนี้ ไปดูกันว่าใครจะเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดของทัพช้างศึกในวันนี้ ตัวจริง ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (9 คะแนน) ได้ลงสนามเป็นตัวจริงสำหรับ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน และสามารถช่วยทีมชาติไทยไม่ให้เสียประตูไว้หลายครั้ง โดยทั้งเกมอย่างต่ำๆ คือ 5 - 6 เซฟที่เจ้าของนายด่านแชมป์ไทยลีกปีนี้เซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ฟิลิป โรลเลอร์ (8.5 คะแนน) สำหรับ ฟิลิป โรลเลอร์ ในเกมนี้ถือว่าเติมเกมรุกได้ดีในระดับนึง และที่สำคัญประตูแรกของทีมชาติไทยในเกมนี้มาจากเขาด้วยที่เติมขึ้นมายิงเข้าไปได้อย่างเฉียบขาด เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว (8.5 คะแนน) เป็นวันที่ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม และในวันนี้เขาสวมบทบาทเป็นกัปตันทีมด้วย ซึ่ง "กัปตันเหลิม" สามารถช่วยเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะเปลี่ยนคู่หูใหม่เป็น มานูเอล ทอม เบียห์ร แต่ก็ถือว่าไม่มีอะไรผิดพลาด มานูเอล ทอม เบียห์ร (8 คะแน) ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแทนที่ของ พรรษา เหมวิบูลย์ และก็ทำผลงานได้ดีเข้าใจเกมรับและประสานงานกับ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง และมักจะเป็นคนสกัดบอลจังหวะสุดท้ายได้ตลอด กรกช วิริยอุดมศิริ (8 คะแนน) การเติมเกมทางฝั่งซ้ายถือว่าโดดเด่นใช้ได้ โดยเฉพาะจังหวะที่ กรกช วิริยอุดมศิริ ได้ไปกับบอลและสุดเส้นหลังเปิดได้ตลอด แต่ยังน่าเสียดายที่ลูกเปิดแต่ละครั้งยังไม่เป๊ะๆ กับเพื่อนมากนัก แต่โดยรวมถือว่าเล่นได้ดีในเกมแรกของเขากับทีมชาติไทยชุดนี้ สรรวัชญ์ เดชมิตร (6 คะแนน) สำหรับเกมนี้ สรรวัชญ์ เดชมิตร ถูกวางไว้เป็นตัวสร้างสรรค์เกม และตัวจ่ายปั้นเพื่อนๆ แต่ยังทำได้ไม่ดีมากนัก เพราะอาจจะไม่มีจังหวะได้จ่ายสวยๆ เท่าไหร่ แต่โดยรวมการเล่นกับ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ถือว่าลงตัว แต่เขามีเวลาเล่นเพียงแค่ 45 นาทีเท่านั้น ธนบูรณ์ เกษารัตน์ (7 คะแนน) การยืนเกมตรงกลางสนามคือจุดที่ดีที่สุดของ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ อย่างแท้จริงๆ เพราะเขาสามารถช่วยชะลอเกมของคู่ต่อสู้ได้ดี แม้จะมีจังหวะติดๆ ขัดๆ อยู่บ้าง เพราะร้างสนามในนามทีมชาติไปนาน แต่โดยรวมก็ทำหน้าที่ตรงกลางสนามได้อย่างยอดเยี่ยม กับระยะเวลา 75 นาทีของเจ้าตัว ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (7.5 คะแนน) ถูกส่งลงสนามในฐานะบทบาทจอมทัพของ ทีมชาติไทย ในชุดนี้ เพราะ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ จะเป็นคนขับเคลื่อนเกมจากแดนหลังไปจนถึงแดนหน้า แม้ครึ่งแรกจะเติมเกมรุกน้อย แต่ครึ่งหลังคือครึ่งที่ "เจ้านิว" ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ศศลักษณ์ ไหประโคน (7 คะแนน) มีเวลาลงเล่นทั้งหมด 45 นาที แต่ "ศศลักษณ์ ไหประโคน" ถือว่าทำหน้าที่กับการขึ้นไปเล่นเป็นตัวริมเส้นฝั่งขวาได้ดีแบบขาดตกบกพร่อง โดยเฉพาะการลากตัดเข้ามาในและหาโอกาสยิงก็ทำได้ดี และน่าเสียดายที่โอกาสยิงเหน่งๆ ของ "เจ้าพี" ซัดไปติดบล็อคนายด่านของฮ่องกงอย่างน่าเสียดาย ชนานันท์ ป้อมบุปผา (7 คะแนน) เกมในเกมนี้ ชนานัน์ ป้อมบุพผา ได้รับบทบาทเป็นกองหน้าทางฝั่งซ้าย โดยเขาทำหน้าที่การลากเลื้อยและการเลี้ยงกินตัวผู้เล่นของ ฮ่องกง ได้ดีทีเดียว และมีจังหวะจ่ายสวยหลายครั้งแต่ยังไม่แม่นเท่านั้นเอง ศุภชัย ใจเด็ด (6 คะแนน) เริ่มต้นด้วยตำแหน่งตัวจริงในฐานะกองหน้าตัวเป้าของทีมชาติไทย นอกจากนี้ยังเป็นเกมแรกของเจ้าตัวในฐานะทีมชาติชุดใหญ่อีกด้วย แต่โดยรวมเกมนี้ยังหาโอกาสยิงได้ไม่มากนัก และมีส่วนร่วมกับเกมน้อยไปหน่อยแม้ว่าจะลงเล่นเกือบครบ 90 นาที ตัวสำรอง ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ลงสนามมาใน น.45 (6 คะแนน) ลงสนามาในช่วงครึ่งเวลาหลัง แม้จะพยายามใช้ความสามารถเฉพาะตัวและจังหวะคลอสบอลที่ตัวเองถนัดแต่ก็ไม่ถึงกับโดดเด่นมากนักกับขึ้นเกมรุกให้กับทีมชาติไทยในครึ่งหลัง สุมัญญา ปุริสาย ลงสนามมาใน น.45 (6.5 คะแนน) ลงมาในช่วงต้นครึ่งหลังเช่นกัน แต่ตำแหน่งการเล่นค่อนข้างหลากหลายเพราะเขาเล่นทั้งริมเส้น และมิดฟิลด์ตัวรุก ซึ่งก็ถือว่าทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีกับเกมรุกที่มีไม่เยอะมากในช่วงครึ่งหลัง ปกเกล้า อนันต์ ลงสนามมาใน น.75 (5 คะแนน) ลงมาในช่วงที่ทีมชาติไทยเน้นเกมรับเต็มที่ และก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรมากนัก เพราะส่วนใหญ่ต้องทำหน้าที่ไล่บอลมากกว่า อดิศักดิ์ ไกรษร ลงสนามมาใน น.76 (5 คะแนน) ลงมาในช่วงที่ทีมชาติไทยเน้นเกมรับเต็มที่ และก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรมากนักเช่นกัน แม้ว่าจะพยายามเก็บบอลไล่บอลแต่ส่วนใหญ่บอลไม่ถึงแดนหน้ามากเท่าที่ควร นูรูล ศรียานเก็ม (ลงสนามมาใน น.88) ลงสนามมาช้าเกินไปไม่มีคะแนนให้ อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ (ลงสนามมาใน น.93) ลงสนามมาช้าเกินไปไม่มีคะแนนให้
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline