logo-heading

ฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เวทีลูกหนังระดับเยาวชนที่สร้างสรรค์แข้งเอเชียระดับแถวหน้ามากมาย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จากในชื่อเดิมคือเยาวชนถ้วยทองเอเชีย จนมาอยู่ในความดูแลขององค์กรลูกหนังเอเชีย เมื่อปี 1959

ที่ผ่านมาทัวร์นาเมนต์นี้ ทีมชาติไทย เคยประสบความสำเร็จในรายการนี้ 2 สมัย ในปี 1962 และ 1967 แต่มันคือประวัติศาสตร์ที่เนิ่นนานมาแล้ว เวลาผลันเปลี่ยนไทยยังไม่เคยเฉียดใกล้คำว่าแชมป์อีกเลย รวมถึงโควต้าในการไปลุยเยาวชนโลก อายุไม่เกิน 20 ปีก็ไม่เคยมี ก่อนที่แข้งวัยโจ๋ไทย จะลงเตะรอบสุดท้ายชิงแชมป์เอเชีย ในช่วง 4 โมงเย็นวันนี้ (19 ต.ค.) กับอิรัก ขอบสนามขอพาคุณไปดูว่าทีมลูกหนังลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ทำได้แค่เกือบลุยเยาวชนโลกกี่ครั้ง เนื้อหาทุกอย่างพร้อมแล้วเชิญอ่านกันอย่างเต็มตา 1.อันดับ 3 คัดเลือกชิงแชมป์เอเชีย ที่อินโดนีเซีย 1994 ย้อนรอย 3 ครั้งแข้งหนุ่มวัยโจ๋19ปีไทย ชวดตั๋วบอลเยาวชนโลก ย้อนกลับไปเมื่อ 24 ปีก่อน ในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ที่ดินแดนดิเหนา ทีมชาติไทย ตัวเต็งของรายการนี้ ที่อุดมไปด้วยดาวรุ่งวัยคะนองจากชุดดรีมทีม เช่น ตะวัน ศรีปาน, เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, สมฤทธิ์ อ่อนสมจิตร, โชคทวี พรหมรัตน์, วัชรพงษ์ สมจิตร ภายใต้การดูแลทีมโดย "บิ๊กกร๊อง"  วิรัช ชาญพานิชย์ ผู้จัดการทีม และ เฮดโค้ชชัชชัย พหลแพทย์ ทีมแข้งธงไตรรงค์ ลงสนามในกลุ่มบี นัดแรกเปิดหัวสวยหรู เอาชนะญี่ปุ่น ไป 2-0 ซึ่ง 2 ประตูมาจาก ซิโก้ และตะวัน จากนั้นแพ้เกาหลีใต้ 1-3, เสมอบาห์เรน 1-1 และ ชนะคูเวต 4-0 โดยในเกมนัดสุดท้ายส่งผลให้นักเตะลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา จบด้วยอันดับ 2 ไปเจอกับซีเรีย ทีมแชมป์จากกลุ่มเอ ทว่าเกมรอบรอง เพื่อชิงตั๋วไปเยาวชนโลก รูปเกมคอนข้างสูสี แต่กลับกลายเป็นแข้งจากตะวันออกกลางที่มาดับฝันทีมไอ้หนูแดนสยาม มาทำประตูชัยก่อนหมดเวลา 10 นาที ส่งผลให้ไทย อกหักชวดไปลุยยู-20 ชิงแชมป์โลก 1995 ที่ประเทศไนจีเรีย และจบทัวร์นาเมนต์ด้วยอันดับที่ 3 แบบน่าเสียดาย โดยที่ตะวัน ศรีปาน รับรางวัลนักเตะทรงคุณค่าประจำรายการไปครอง 2.ฝันสลายกลางเชียงใหม่คูเวตทำแสบยิงช่วงทดเจ็บ 1998 ย้อนรอย 3 ครั้งแข้งหนุ่มวัยโจ๋19ปีไทย ชวดตั๋วบอลเยาวชนโลก หลังความสำเร็จของทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 17 ปี ได้ไปลุยเยาวชนโลกที่อียิปต์ ในปี1997 ทำให้เด็กจากทีมชุดนั้นถูกผลักดันเพื่อขึ้นมาเล่นชุด 19 ปี โดยที่มี"อ.หรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน ทำหน้าที่เป็นเฮดโค้ช สตาร์ดังทั้งสุธี สุขสมกิจ, บํารุง บุญพรหม, ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น อยู่กันครบ ผสมผสมผสานด้วยแข้งหน้าใหม่ฝีเท้าดีในไทยลีก อย่างนิรุจน์ สุระเสียง, พีรทรรศน์ โพธิ์เรือนดี, ศราวุธ เขยนอก ในเวลานั้นชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ไทยรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ โดยที่ใช้สนามสมโภช 700 ปี เชียงใหม่ เป็นสังเวียนแข้ง เนื่องจากสมาคมฯ ถือเคล็ดอยากเจริญรอยตามทีม 17 ปี ที่เมื่อ2 ปีก่อนได้ไปเยาวชนโลก เพราะมาเตะที่"เจียงใหม่" นั้นเอง ทีมไทย ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเอ นัดแรกลงสนามยันเสมอทีมเต็งแชมป์อย่างซาอุดิอาระเบีย 0-0 ตามด้วยการถล่มอินเดียไปแบบไม่ไหวหน้า 4-0, เสมอคาซัคสถาน 1-1 และเกมนัดชี้ชะตานัดสุดท้ายดวลกับคูเวต แมตซ์นี้วัยโจ๋ไทย ต้องชนะสถานเดียวเท่านั้นหลุดไปจากนี้ เพื่อการันตีเข้ารอบรองฯ และได้ตั๋วไปลุยเยาวชนโลก รูปเกมเป็นของไทยที่เหนือกว่าครองเกมบุกใส่ และมาได้ประตูนำต้นเกม ทว่าเหมือนโชคชะตา จะไม่ได้ขีดเขียนให้พวกเขาสมหวัง เกมเข้าสู่ช่วงทดเจ็บนาที 90+2 คูเวต มาทำประตูตีเสมอได้สำเร็จ ผู้ตัดสินเป่าจบเกม ส่งให้เกมนี้สิ้นสุดด้วยผลเสมอ 1-1 ซึ่งมันดีไม่พอทำให้ไทย มีคะแนนแซงคาซัคสถานไปเป็นรองจ่าฝูง ไทยมี 6 แต้ม ส่วนทีมอดีตสหภาพโซเวียต มี 7 แต้ม เรียกว่าแข้งไทยน้ำตาร่วงกลางสนามเลยทีเดียวเมือจบเกม 3.อุซเบฯ ใช้บอลโยนส่งไทยร่วงรอบ8 ทีม ณ ย่างกุ้ง 2014 ย้อนรอย 3 ครั้งแข้งหนุ่มวัยโจ๋19ปีไทย ชวดตั๋วบอลเยาวชนโลก วันเวลาเดินหน้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ที่อยู่ในความดูแลของ"บิ๊กเปี๊ยก" สมศักดิ์ ศิริธรรม ตั้งใจดึง"โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ หวนคืนในระดับเยาวชนอีกครั้ง ในช่วงเดือนเมษายน ปี 2014 แน่นอนว่าพวกเขาก็อยากบรรลุเป้าหมายพาทีมไปเล่นฟุตบอลเยาวชนโลก ยู-20 ที่นิวซีแลนด์ ให้ได้สักครั้ง ทว่าระยะเวลา 6 เดือน ทีมงาน"โค้ชเตี้ย" เหนื่อยในการเรียกตัวเด็กมาซ้อมแทบทุกสัปดาห์ เนื่องจากสโมสรไม่ปล่อยเด็กบ้าง, นักเตะบาดเจ็บ หรือแม้กระทั่งเล่นไม่เข้าแท็คติก โดยที่ทีมปักหลักซ้อมที่สนามภายในมหาวิทยาลัย รามคำแหง พร้อมกับได้โอกาสอุ่นเครื่องมากมาย 3-4 รายการนอกประเทศ ก่อนถึงเวทีจริงรอบสุดท้ายที่ประเทศเมียนมา ทีมชาติไทย ถูกจับอยู่ในกลุ่มเอ นัดแรกเจอทีมเต็งแชมป์อย่างอิหร่าน และเมื่อออกสตาร์ทพวกเขาต้องเป็นรองตั้งแต่ 45 นาทีแรก ทว่าความผิดพลาดของแข้งเปอร์เซีย 2 หน ทำให้ช้างศึกวัยโจ๋ มาได้ประตูพลิกแซงชนะ 2-1 จากเจนรบ สำเภาดี และธนาสิทธิ์ ศิริผลา เกมนัดถัดมาทีมไทยมาเจองานหนักรับมือเจ้าภาพเมียนมา แข้งหม่องใช้การบีบพื้นที่รวดเร็ว โจมตีใส่ตั้งแต่ต้นเกมและมายิง 3 ประตูรวดในครึ่งแรก และยัดเยียดความปราชัยไปแบบเจ็บแสบ จากนั้นทีมชาติไทย ลงเล่นนัดสุดท้ายเจอเยเมน พวกเขากลับสร้างปาฏิหารย์จากที่ตามหลังด้วยสกอร์ 2-1 เกือบ 84 นาที กลับมายิงแซงชนะ 3-2 โดยฮีโร่ในเกมนั้นคือ ปฏิภาณ ปิ่นเสริมสูตรศรี ที่เหมา 3 ประตู ช่วยให้ทีมเข้ารอบ 8 ทีมในฐานะแชมป์กลุ่มเอไปเจอกับอุซเบกิสถาน รองแชมป์สายบี ทว่าเกมนัดชิงตั๋วไปเยาวชนโลก ทีมไทยลงเล่นด้วยความหละหลวมในเกมรับ ตั้งแต่การผู้รักษาประตูและการมาร์คประกบตัวของแผงหลัง จนนำไปสู่การเสีย 2 ประตูในช่วง 45 นาทีแรก ที่อุซเบฯ เจาะจากริมเส้นเข้าไปโจมตี แม้เจนรบ จะมาพังประตูไล่ตามตีไข่แตก แต่เกมตกเป็นของแข้งจากเมืองหลวงทาชเคนต์ อย่างสิ้นเชิง เมื่อไร้ซึ่งปาฏิหารย์เหมือนรอบแบ่งกลุ่ม แข้งไทยจอดป้ายที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ชวดคำว่าใกล้เคียงเป็นหนที่3

เอ็มเร่

 
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline