logo-heading

นับถอยหลังจากวันนี้เป็นต้นไป (20 ต.ค.) เหลือเวลาอีก 20 วัน ศึกฟุตบอลระดับทีมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของภูมิภาคอาเซียนอย่าง "อาเซียน คัพ" หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018" จะเปิดฉากฟาดแข้งกันอย่างเป็นทางการ โดยนัดเปิดสนามจะมีขึ้นวันที่ 8 พ.ย.นี้ ส่วนทีมชาติไทยของเราจะประเดิมสนามนัดแรกวันที่ 9 พ.ย.

วันนี้จึงถือโอกาสมาอัพเดตเรื่องราวต่างๆ ของฟุตบอลซูซูกิ คัพ ก่อนที่การแข่งขันจริงจะเริ่มขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นและทำความเข้าใจเบื้องต้นถึงศึกชิงแชมป์อาเซียน ครั้งนี้ ซึ่งจะแตกต่างจากครั้งที่ผ่านๆ มา

สิ่งแรกที่เปลี่ยนไปก็คือ โลโก้ การแข่งขันที่เปลี่ยนใหม่

นับถอยหลัง 20 วันสุดท้ายก่อนเปิดฉาก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 หลายคนคงทราบแล้วว่าฟุตบอลซูซูกิ คัพ 2018 ได้มีการเพิ่มทีมในรอบสุดท้ายจากเดิม 8 ทีม เป็น 10 ทีม โดยแบ่งออกเป็นสองสาย ดังนี้ สายเอ : เวียดนาม,มาเลเซีย,เมียนมา,กัมพูชา และ ลาว สายบี : ไทย (แชมป์เก่า),อินโดนิเซีย (รองแชมป์เก่า),สิงคโปร์,ฟิลิปปินส์ และ ติมอร์ เลสเต นอกจากจะเพิ่มทีมแล้ว ก้ยังเปลี่ยนแปลงวิธีการแข่งขันเล็กน้อย จากเดิมที่รอบแรกจะเล่นที่ประเทศเจ้าภาพร่วม แต่เปลี่ยนมาเป้นการเล่นแบบเหย้า-เยือน ในสายนั้นๆ โดยแต่ละทีมจะได้เล่นในบ้านสองนัด และออกไปเยือนสองนัดเท่าๆ กัน โดยใช้วิธีจับสลาก แต่ในส่วนของทีมชาติไทยนั้นพิเศษนิดนึงตรงที่ ติมอร์ เลสเต เพื่อร่วมสายของเราสนามไม่พร้อม ตอนแรกจะไปเช้าที่มาเลย์ก็สิ้นเปลือง ไทยก็เลยเสนอจะเป็นเจ้าบ้านให้เองและออกค่าใช้จ่ายให้ ติมิร์ ก็เซย์เยส ก็เลยทำให้รอบแรก ไทยจะเล่นในบ้านถึง 3 แมตช์ด้วยกัน และออกไปเยือนแค่นัดเดียว ว่าแล้วก็ไปดูโปรแกรมรอบแรกของทีมชาติไทย กันหน่อย

9 พ.ย.61 

19.00 น. ติมอร์ เลสเต พบ ทีมชาติไทย สนามราชมังคลากีฬาสถาน

17 พ.ย.61

18.30 น. ทีมชาติไทย พบ อินโดนีเซีย สนามราชมังคลากีฬาสถาน

21 พ.ย.61

18.30 น. ฟิลิปปินส์ พบ ทีมชาติไทย ปานาอัดปาร์กแอนด์ สเตเดียม

25 พ.ย.61

19.00 น. ทีมชาติไทย พบ สิงคโปร์ สนามราชมังคลากีฬาสถาน นับถอยหลัง 20 วันสุดท้ายก่อนเปิดฉาก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุดของทีมชาติไทยตอนนี้ ด้าน มิโลวาน ราเยวัช เพิ่งจะมีการประกาศรายชื่อนักเตะชุดแรกมา 27 คน ด้วยกัน โดยจะเข้ามาเก็บตัวฝึกซ้อมกันตั้งแต่ 23 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป ก่อนจะตัดตัวให้เหลือ 23 คนก่อนไปเล่นรอบสุดท้าย

โดยรายชื่อ 27 คน มีดังนี้

ผู้รักษาประตู

1. ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2. ฉัตรชัย บุตรพรม สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด 3. ขวัญชัย สุขล้อม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 4. สรานนท์ อนุอินทร์ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด

กองหลัง

5. มานูเอล ทอม เบียห์ร ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 6. มิก้า ชูนวลศรี ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 7. สุพรรณ ทองสงค์ สุพรรณบุรี เอฟซี 8. ศศลักษณ์ ไหประโคน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 9. กรกช วิริยอุดมศิริ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 10. ฟิลิป โรลเลอร์ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 11. เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 12. มาร์โก บัลลินี ชัยนาท ฮอร์นบิล เอฟซี 13. เควิน ดีรมรัมย์ การท่าเรือ เอฟซี 14. พรรษา เหมวิบูลย์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

กองกลาง

15. รัตนากร ใหม่คามิ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 16. อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ บางกอกกล๊าส เอฟซี 17. สุมัญญา ปุริสาย ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 18. สรรวัชญ์ เดชมิตร ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 19. ปกเกล้า อนันต์ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 20. ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ บางกอกกล๊าส เอฟซี 21. ธนบูรณ์ เกษารัตน์ บางกอกกล๊าส เอฟซี 22. นูรูล ศรียานเก็ม การท่าเรือ เอฟซี 23. ปกรณ์ เปรมภักดิ์ การท่าเรือ เอฟซี

กองหน้า

24. อดิศักดิ์ ไกรษร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 25. ศุภชัย ใจเด็ด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 26. ชนานันท์ ป้อมบุบผา สุพรรณบุรี เอฟซี 27. มงคล ทศไกร โปลิศ เทโร เอฟซี นับถอยหลัง 20 วันสุดท้ายก่อนเปิดฉาก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 และข่าวล่าสุดของทีมชาติไทยก็คือการได้ ผู้อำนวยการทีมชาติคนใหม่ซึ่งจะเข้ามาดูแลทีมทั้งรายการซูซูกิ คัพ และ เอเชี่ยน คัพ 2019 นั่นก็คือ "บิ๊กโทนี่" นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังเข้ามาทำหน้าที่ ซึ่งก็จะทำหน้าที่ดูแลจัดการเรื่องความเป็นอยู่ การบริหารจัดการเรื่องการเดินทาง ที่พัก อาหารการกินต่างๆ ของนักฟุตบอล ซึ่งก็จะทำให้ทีมมีความสะดวกเรียบร้อยมากขึ้น ทั้งหมดนี้ก็เป็นความเคลื่อนไหวต่างๆ ของศึกฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 ที่จะฟาดแข้งกันในอีก 20 วันข้างหน้า ก็หวังว่าทีมชาติไทยของเราจะสามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้อีกสมัย แล้วมาเจอกันใหม่ใกล้ๆ วันแข่งขันนะครับ สวัสดี  

มูซาชิ

   
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline