นับถอยหลังเหลืออีก 2 วันเท่านั้น ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียนก็จะเริ่มขึ้น แต่ทำไมกระแสปีนี้มันดูเงี๊ยบๆ เงียบ แต่เอาเถอะพอถึงเวลาก็เชื่อว่ากระแสมันคงดีเอง อาจจะเป็นเพราะไม่มีเจ้าภาพที่ตายตัวด้วย การโปรโมทในแต่ละประเทศจึงไม่มากนัก
เรามาต่อกันในเรื่องของการแนะนำทีมต่างๆ ในศึกซูซูกิ คัพ 2018 นี้ โดยจะเน้นไปที่ตัวแม่ทัพใหญ่หรือว่าผู้เป็นกุนซือ กับขุนศึกประจำทีม หรือว่าตัวความหวังของแต่ละชาติว่ามีใครกันบ้าง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (4 พ.ย.) เราแนะนำสายเอ กันไปแล้ว ใครยังไม่ได้อ่านคลิ๊กไปอ่านได้ที่ลิ้งค์นี้เลยจ้ะ
https://k8s.khobsanam.com/column/51959
วันนี้เราจะมาว่ากันต่ออีก 5 ชาติที่เหลือในสายบี ซึ่งก็มีทีมชาติไทยของเรารวมอยู่ด้วย ไปว่ากันต่อเลยครับผม
ทีมในสาย B 5 ชาติ ประกอบไปด้วย ไทย,ฟิลิปปินส์,สิงคโปร์,อินโดนิเซีย และ ติมอร์ เลสเต
ไทย
ทีมชาติไทยของเรา ซึ่งพกดีกรีการเป็นแชมป์เก่าสองสมัยหลังสุด ใครๆ ก็อยากจะล่มทีมช้างศึกให้ได้ ผู้เป็นกุนซือเรารู้จักกันดีเพราะเข้ามาคุมทีมตั้งแต่ปีที่แล้ว นั่นก็คือ
"มิโลวาน ราเยวัช" กุนซือจอมเก๋ามากประสบการณ์ชาวเซอร์เบีย วัย 64 ปี พกดีกรีมามากมาย เคยผ่านฟุตบอลโลกมาแล้วด้วยกับทีมชาติกาน่า นี่เป็นการคุมทีมในถ้วยอาเซียน คัพ ครั้งแรกของ "มิโล" ต้องดูว่าเขาจะพาทีมชาติไทยสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ 3 สมัยติดได้หรือไม่
ส่วนขุมกำลังของทีมชาติไทย บอกเลยว่าครั้งนี้ผมนึกไม่ออกจริงๆ ว่าใครจะเป็นตัวความหวัง อย่างครั้งก่อนยังมี ชนาธิป สรงกระสินธ์,ธีรศิลป์ แดงดา อะไรพวกนี้ แต่มาครั้งนี้เกือบทั้งทีมมาเตะซูซูกิ คัพ เป็นครั้งแรก มีแค่ 2-3 คนที่เคยผ่านอาเซียน คัพ มาแล้ว ดังนั้นนักเตะตัวที่ดูจะฝากความหวังได้มากที่สุดในยุคของ ราเยวัช ก็คือ
ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่ถือว่าเป็นตัวเลือกแรกในแผงกลาง ด้วยความขยันและเล่นได้ทั้งบู๊และบุ๋นทำให้กลายเป็นตัวหลักของทีมชาติไทย ชุดนี้ แต่ส่วนตัวผมบอกเลยจิ๊กซอว์สำคัญคือ "จ่าเย็น" มงคล ทศไกร หนึ่งในสองนักเตะที่อยู่ในชุดแชมป์ซูซูกิ คัพ ทั้งสองครั้งหลังสุด เขาคนนี้แหละผมคิดว่าจะเป็นดาวซัลโวของทีมชาติไทยในอาเซียน คัพ ครั้งนี้
ฟิลิปปินส์
มาดูกันที่คู่แข่งในสายอย่างฟิลิปปินส์ ที่สร้างความฮือฮาด้วยการไปดึงเอา สเวน โกรันอีริคสัน กุนซือระดับโลกชาวสวีเดน วัย 70 ปี เข้ามาคุมทีม ถือเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์มากก่อนทัวร์นาเม้นท์จะเริ่มขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ฟิลิปปินส์ยังคุมทัพโดย สก็อตต์ คูเปอร์ อยู่เลย แน่นอนด้วยประสบการณ์อันโชกโชนของอดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษ เราจะประมาททีมบ้านเกิดปาเกียวไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง แต่จะดีจริงหรือเปล่าคงต้องวัดฝีมือกัน
ดาวเด่นของ ฟิลิปปินส์ ที่จะข้ามไปไม่ได้ก็คือกัปตันทีมหน้าหล่อของเขานั่นเองอย่าง ฟิล ยังฮัสแบนด์ อดีตเด็กปั้นเชลซี นี่คือดีกรีที่ดีที่สุดของเขาเขียนถึงทีไรต้องบอกตลอด ตอนนี้อายุปาเข้าไป 31 ปีแล้ว เป็นทั้งกัปตันทีมและดาวซัลโวสูงสุดของทีมชาติ นี่คือตัวความหวังของแฟนบอลฟิลิปปินส์ อีกคนเราคุ้นกันดีนั่นคือ ฆาเบียร์ ปาตินโญ่ กองหน้าของทีมปราสาทสายฟ้า ในศึกไทยลีก และอีกคนที่น่าสนใจคือ นีล เอเธอริดจ์ นายทวารมือหนึ่งของทีมที่ค้าแข้งอยู่ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี
สิงคโปร์
มาต่อกันที่เจ้าอขงแชมป์ 4 สมัยอย่างทีมชาติสิงคโปร์ ที่ครั้งนี้เลือกเอานักเตะระดับตำนานของพวกเขามาคุมทัพ กะจะทำเหมือนทีมชาติไทย ที่ใช้ "โค้ชซิโก้" แล้วประสบความสำเร็จ ซึ่งกุนซือทีมลอดช่องครั้งนี้ก็คือ
ฟันดี้ อะห์หมัด อดีตกองหน้าระดับตำนานของทีม อายุ 56 ปี ซึ่งมาจับงานคุมทีมชาติเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้คุมแต่ในสโมสร ถือว่าเป็นความหวังของชาวสิงคโปร์ กับตำนานรายนี้ที่มาคุมทีม
เหลือบไปดูในรายชื่อของทีมชาติสิงคโปร์ ก็ยังมีตัวเก๋าๆ อย่าง ไครุล อัมรี่ หรือ ชาริล อิสชัค อยู่แต่สองคนนี้ก็ปาเข้าไป 33-34 แล้ว จะฝากความหวังอะไรก็คงไม่ได้เยอะ ส่วนที่เป็นตัวเด่นจริงๆ น่าจะเป็น
ฮาริส ฮารูล กัปตันทีมของสิงคโปร์ ที่ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับทีมใหญ่ในลีกมาเลย์ อย่าง ยะโฮร์ ดารุล ทักชิม ถือเป็นผู้เล่นที่ไม่ธรรมดา และเป็นหัวใจของทีมชาติสิงคโปร์ชุดนี้
อินโดนิเซีย
มากันที่ทีมชาติอินโดนิเซีย ที่พร้อมจะเป็นตัวสอดแทรกเช่นกัน อย่าลืมว่าพวกเขาคือรองแชมป์เก่านะ ครั้งนี้เลือกใช้คนในบ้านเกิดขึ้นมาคุมทัพ นั่นคือ
"บิมา ซัคติ" อดีตกองกลางทีมชาติอินโดนิเซีย วัย 42 ปี เพิ่งจะมาจับงานโค้ชเมื่อปี 2016 นี่เองจากการเป็นผู้ช่วย และจับพลัดจับผลูมาได้คุมทีมชาติชุดใหญ่เฉย แต่อย่างน้อยเขาก็อยู่กับนักเตะชุดนี้มาเป็นปีๆ และรู้จักฟุตบอลของอินโดนิเซีย เป็นอย่างดี ก็คงเป็นอีกทีมที่จะประมาทไม่ได้
ส่วนตัวความหวังของทีมผมก็นึกใครไม่ออกต้องเอากัปตันทีมคนเก่งของเขามาอีกครั้ง เพราะในซูซูกิ คัพ ครั้งนี้แล้วก็โชว์ฟอร์มได้สะเด่ามากนั่นคือ
โบอาส โซลอสซ่า ดาวยิงตัวเก่งของทีม เป็นกองหน้าที่คล่องมีความเร็ว และยิงได้ทุกรูปแบบ เป้นตัวอันตรายของอิเหนาชุดนี้เลย ซูซูกิ คัพ หนที่แล้วยิงไป 3 ประตู เป็นรองดาวซัลโว
ติมอร์ ดลสเต
ปิดท้ายกันที่ติมอร์ เลสเต ที่เพิ่งจะมาเล่นซูซูกิ คัพ เป็นครั้งแรก บอกเลยว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับทีมนี้น้อยมาก เอาเป็นว่าพวกเขาใช้กุนซือชาวญี่ปุ่น คือ
โนริโอะ ซึกิตาเตะ วัย 58 ปี ผู้อยู่กับฟุตบอลติมอร์ มาตั้งแต่ปี 2013 ในการมาคุมยู 19 ใหม่ๆ ตอนนั้น ตอนนี้นักเตะของเขาก็ก้าวขึ้นมาเป็นชุดใหญ่ เรียกได้ว่ารู้จักทีมนี้ดีที่สุดแล้ว
ส่วนนักเตะตัวเก่งผมก็บอกตามตรงว่าไม่รู้จะเลือกใคร เอากัปตันทีมของเขาแล้วกันอย่างน้อยผมก็เคยเห็นฟอร์มในซีเกมส์ 2015 ที่สิงคโปร์ มาบ้าง
อังกิซู บาร์โบซ่า กองหน้าร่างเล็กจอมลากเลื้อย น่าจะเป็นตัวความหวังของทีมชุดนี้
เอาละนี่ก็เป็นทั้งหมดครับของ 10 ชาติในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ครั้งนี้ อย่าลืมว่าสุดสัปดาห์นี้แล้วที่เขาจะเปิดสนามกัน ทีมชาติไทยของเราประเดิมสนามพบ ติมอร์ เลสเต ที่ราชมังคลาฯ วันที่ 9 พ.ย.นี้ เวลา 1 ทุ่มตรง อย่าลืมไปเชียร์กันนะครับ