logo-heading

ถึงแม้โลกนี้จะได้นำพาตัวของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นไปอยู่บนฟากฟ้าแล้ว แต่ทว่าความดี ความยิ่งใหญ่ ที่ท่านสร้างไว้ให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ จะถูกกล่าวขานไปถึงชั่วลูก ชั่วหลาน

เพราะคุณวิชัย ได้สร้างให้ "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" ดังกระหึ่มไปทั่วโลก แถมยังได้สร้างประวัตศาสตร์ให้กับสโมสรแห่งนี้ไว้มากมาย ดังนี้

1. คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 132 ปี มีใครจะกล้าคิดไหมว่า นอกจากบิ๊ก 6 ของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไล่มาตั้งแต่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จะมีใครขึ้นมาเทียบรัศมีแย่งแชมป์ ยิ่ง เลสเตอร์ นะเหรอ ? แทบเป็นไปไม่ได้เลยตอนนั้น เพราะฤดูกาล 2014-15 รอดตกชั้นด้วยการจบอันดับ 14 ซีซั่นต่อมา 2015-16 มันจึงมีบ่อนพนันถูกกฏหมายของยุโรป เปิดราคา เลสเตอร์ เป็นแชมป์ 1 ต่อ 5,000 แต่ใครจะไปคิดละว่าแทบจะทำให้บริษัทเจ๊งไปเลย เพราะ "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" ผลงานดีเหลือเชื่อ ชนะคู่แข่งเป็นว่าเล่น โดยคุณวิชัย มีจิ๊กซอว์คนสำคัญอย่าง เจมี่ วาร์ดี้, ริยาด มาห์เรซ หรือ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เป็นต้น พวกเขาช่วยกันพา เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นแชมป์แบบหักปากกาเซียน เก็บไป 81 คะแนน คว้าโทรฟี่ พรีเมียร์ลีก มาครองเป็นครั้งแรกในรอบ 132 ปี ของสโมสร 2. ไปเล่นเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แน่นอน เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ต่อยอดมาฟาดแข้งในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมาเช่นกัน บอกเลยว่าคราวนี้หนักกว่าเก่า เพราะเวที "บิ๊กเอียร์" มีแต่สุดยอดทีมแห่งลูกหนังยุโรป ตบเท้าเข้ามาเล่นกันเต็มไปหมด อย่างไรก็ตาม เลสเตอร์ ได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขา ไม่ได้แชมป์มาแบบโชคช่วย หรือ จะเป็นหมูในอวยให้ใครมาตบได้แบบง่ายๆ เพราะ "จิ้งจอก" ยังคงแผลงฤทธิ์ผ่านเข้ารอบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม และ เอาชนะ เซบีย่า ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายมาได้ ขนาดมาครั้งแรก ก็เดินทางมาไกลถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายแล้ว แต่น่าเสียดายที่ต้องหยุดอยู่แค่รอบนี้ เพราะคู่แข่งตอนนั้น เป็น แอตเลติโก มาดริด แต่ทว่า เลสเตอร์ ก็แพ้ไปด้วยสกอร์แบบฉิวเฉียด 1-2 รวมผล 2 นัด 3. นักเตะสร้างสถิติยิงประตูติดต่อกัน 11 นัดรวด เป็นอีกหนึ่งสถิติที่เกิดขึ้นในฤดูกาลที่ เลสเตอร์ ซิตี้ สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แน่นอนการจะคว้าแชมป์ คุณจะต้องมีเกมรุกอันโดดเด่น และ เกมรับอันเหนียวแน่น ซึ่ง "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" ได้ทำให้เห็นทั้ง 2 อย่าง โดยเฉพาะ เจมี่ วาร์ดี้ ผู้จารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ซีซั่นนั้น วาร์ดี้ ได้สร้างสถิติด้วยการยิงประตูในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ติดต่อกัน 11 ได้สำเร็จ แซงหน้า รุด ฟาน นิสเตลรอย ตำนานกองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เคยทำไว้ 10 นัด อย่างสุดยอด ที่สำคัญการยิง 11 นัดรวด เป็นการซัดประตูภายในซีซั่นเดียวอีกด้วย 4. ประกาศศักดาซิวโทรฟี่แข้งยอดเยี่ยม PFA ถ้าพูดถึง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ รางวัลส่วนตัวที่ดูมีเกียรติยศมากที่สุด คงหนีไม่พ้น "นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ หรือ พีเอฟเอ ซึ่งจัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1974 ซึ่งผู้ชนะก็สลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป แต่ก็ไม่เคยมีนักเตะจาก เลสเตอร์ ซิตี้ ได้โทรฟี่ดังกล่าวมาครองเลยสักคนเดียว ต่อให้ แกรี่ ลินิเกอร์ จะเคยซัลโวถึง 24 ประตู ในซีซั่น 1984-85 เวลาผ่านมายาวนาน จนกระทั่งถึงซีซั่น 2015-16 ที่ เลสเตอร์ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แบบพลิกล็อคถล่มทลาย ทำให้นักเตะ เลสเตอร์ มีลุ้นคว้ารางวัลแข้งยอดเยี่ยม พีเอฟเอ เป็นคนแรกของสโมสร เพราะ มาห์เรซ, วาร์ดี้ และ ก็องเต้ มีชื่อเข้าชิงรางวัลทั้งหมด สุดท้าย มาห์เรซ ได้รับเลือกให้ซิวโทรฟี่ดังกล่าวไม่ครองอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยผลงาน 17 ประตู กับอีก 11 แอสซิสต์ 5. ปล่อยนักเตะได้ค่าตัวแพงสุดของสโมสร ด้วยเม็ดเงินทางการตลาดมันพุ่งขึ้นแบบโอเวอร์ ก็เลยทำให้ค่าตัวนักเตะหลายๆคนแพงเกินกว่าความเป็นจริงมากนัก ถึงอย่างไรก็ตาม ถ้านักเตะฝีเท้าไม่ดีจริง ก็คงไม่มีใครกล้าทุ่มเงินขนาดนั้น ซึ่ง เลสเตอร์ เอง ก็ได้สร้างนักเตะจากที่ไม่มีใครรู้จัก ให้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์โด่งดังไปทั่วยุโรป หนึ่งในนั้นก็ต้องมีชื่อของ ริยาด มาห์เรซ ถึงแม้ว่าชื่อเสียงจะน้ำหนักเท่ากับ เจมี่ วาร์ดี้ หรือ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ แต่ทว่าคนที่ถูกบันทึกเอาไว้ว่าเป็นนักเตะที่ทำรายได้เข้าสโมสรได้มากที่สุด จากการปล่อยตัวให้กับทีมอื่น นั่นก็คือขาย มาห์เรซ ไปให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัวสูงถึง 60 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติที่แพงสุดของ "เรือใบสีฟ้า" อีกด้วย สิ่งที่ไม่มีวันจางหาย! เลสเตอร์ กับ 5 ประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นยุคคุณวิชัย

-- แด่คุณวิชัย ผู้ยิ่งใหญ่ --

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline