logo-heading

ฟุตบอลอาเซียน คัพ หรือ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 ก็ได้เริ่มเปิดฉากฟาดแข้งกันมาเกือบๆ จะครบหนึ่งสัปดาห์แล้ว ซึ่งทั้ง 10 ทีมก็ลงสนามกันไปครบหมดแล้ว บางทีมก็ลงเตะไป 2 แมตช์ บางทีมเพิ่งจะเตะไปแค่แมตช์เดียว แต่เมื่อเราได้เห็นฟอร์มของทั้ง 10 ชาติในซูซูกิ คัพ หนนี้ ก็เลยอยากจะมาผ่าฟอร์มเช็กผลงานกันสักหน่อย

โดยวันนี้เราคงจะไปว่ากันที่ กรุ๊ปเอ กันก่อน ซึ่งแต่ละทีมลงเตะกันไปแล้ว 2 นัด มีเพียงแค่ เมียนมา ที่เพิ่งจะลงสนามนัดแรกไปเมื่อวันจันทร์ (12 พ.ย.) เช่นเดียวกับเวียดนาม ที่เพิ่งจะเตะไปแค่นัดเดียวตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา เมื่อเราได้เห็นฟอร์มของทุกทีมแล้ว ลองมาดูกันหน่อยสิว่าแต่ละทีมเป็นอย่างไรบ้างในนัดสองนัดที่ผ่านมา ก่อนอื่นเราไปดูตารางคะแนนล่าสุดของ กลุ่ม A กันก่อน ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผ่าฟอร์ม 5 ทีมกรุ๊ป A หลังจบแมตช์แรกศึกซูซูกิ คัพ 2018 อย่างที่บอกตอนนี้มาเลย์ ที่ลงเล่นไปแล้วสองเกมนำจ่าฝูงมี 6 คะแนนเต็ม โอกาสเข้ารอบสดใส ขณะที่เมียนมา กับเวียดนาม ที่เพิ่งจะเตะไปนัดเดียวมี 3 คะแนนเท่ากัน ส่วนสองทีมท้ายตารางอย่าง กัมพูชา ของ เคสุเกะ ฮอนดะ กับทีมชาติลาว เพื่อนบ้านของเราดูแล้วคงจะลำบากเพราะแพ้มาสองเกมรวดยังไม่มีคะแนน และก่อนที่จะไปผ่าฟอร์มของแต่ละทีม ผมต้องทำความเข้าใจกับทุกคนก่อนว่า ผมไม่ได้ดูทุกทีมลงเล่นแบบครบ 90 นาที แต่ก็มีดูรูปเกมผ่านๆ บ้าง และบางคู่ก็ดูเป็นไฮไลท์บ้าง ดังนั้นคงจะไม่ได้ไปเจาะลึกเรื่องแท็คติกอะไรขนาดนั้น จริงๆ ลึกไปก็แค่นั้น เราคงไม่ได้อยากรู้ฟอร์มทีมเหล่านี้กันแบบเจาะลึกสักเท่าไหร่ ก็เอาเท่าที่ผมได้ดูฟอร์มก็แล้วกันนะครับ

มาเลเซีย

ผ่าฟอร์ม 5 ทีมกรุ๊ป A หลังจบแมตช์แรกศึกซูซูกิ คัพ 2018 เริ่มที่จ่าฝูงตอนนี้อย่าง "เสือเหลือง" มาเลเซีย ที่ชนะรวด 2 แมต์ ด้วยการบุกไปเฉือนหวิวกัมพูชา 1-0 และเปิดบ้านสอยลาว 3-1 ถ้าว่ากันที่ผลงาน 6 แต้มจาก 2 นัดก็ถือว่าทำได้ตามเป้าหมาย แต่เมื่อไปดูที่ฟอร์มการเล่นจริงๆ ก็ต้องบอกว่ามาเลเซีย ชุดนี้ไม่ได้แข็งแกร่งหรือน่ากลัวเหมือนเมื่อ 4 ปีก่อน อย่างเกมแรกกับกัมพูชา เกือบจะโดนเจ้าบ้านยัดเยียดความปราชัยให้ด้วยซ้ำไป แต่โชคดีเอาตัวรอดมาได้ แต่ก็เข้าใจได้แหละ เกมแรกบางทีอะไรต่างๆ มันยังไม่ลงตัว เกมรุกก็ยังดูติดๆ ขัดๆ ฝืดๆ เป็นกัมพูชาที่ต่อบอลสู้ได้ดีกว่าด้วยซ้ำไป ส่วนเกมที่สองกับทีมชาติลาว ก็โดนทีมเยือนบุกไปนำก่อนตั้งแต่ 7 นาทีแรก โชคดีที่มาได้สองตัวเก๋าอย่าง ซากวน กัปตันทีม ยิงตีเสมอในนาทีที่ 15 และ นอร์ชาห์รูล กองหน้าตัวเก๋าวัย 32 ปี มายิง 2 ประตูช่วงท้ายเกม น.86 และทดเจ็บเอาชนะไปแบบหวุดหวิดอีกเกม 3-1 อย่างที่บอกว่าชนะได้ก็จริงแต่รูปเกมไม่ได้เหนือกว่าคู่ต่อสู้มาก ซึ่งเกมต่อไปที่จะเจอกับเวียดนาม น่าจะเป็นเกมมันส์ระดับ 5 ดาว และจะได้รู้ว่าเสือเหลืองชุดนี้ของจริงหรือไม่ และเกมนี้บางทีอาจจะเป็นการตัดสินแชมป์ของกลุ่มเอ ก็เป็นได้ ซึ่งนอกจากจะได้ดูมาเลย์แล้ว เราก็จะได้วัดศักยภาพของเวียดนาม ว่าที่คู่ชิงของไทยไปด้วยในตัวว่าเจ๋งจริงไหม แต่ในส่วนของมาเลเซีย บอกเลยแม้ฟอร์มจะยังไม่เปรี้ยงแต่ถ้าผ่านเข้าไปรอบรองได้ พวกเขาจะน่ากลัว และอาจจะเป็นคู่ต่อสู้ของทีมชาติไทยในรอบตัดเชือกก็เป็นได้

เมียนมา

ผ่าฟอร์ม 5 ทีมกรุ๊ป A หลังจบแมตช์แรกศึกซูซูกิ คัพ 2018 ต่อมาคือทีมชาติเมียนมา ทีมของอ่อง ธู ซูเปอร์สตาร์อาเซียนในศึกไทยลีกของเรา ทีมจากพุกามประเทศเพิ่งจะลงสนามไปแค่เกมเดียวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งโชว์ฟอร์มสวยหรู เปิดบ้านถล่มกัมพูชา ไป 4-1 แม้จะถูกนำไปก่อน แต่พวกเขาก็สามารถกลับมายิงคืน 4 ประตูรวด แน่นอนจุดเด่นของเมียนมาไม่ว่าจะเป็นชุดไหนคือเรื่องความฟิต และความเร็ว พวกเขามีพละกำลังวิ่งไม่มีหมดได้ตลอดทั้ง 90 นาที บวกกับผู้เล่นในทุกๆ ตำแหน่งนั้นมีความเร็วและคล่องแคล่ว แต่เกมรุกจะว่าไปยังดูจะไม่ค่อยหลากหลายเท่าไหร่ แม้จะยิงกัมพุชา 4 ลูก แต่ถ้าไปดูเกือบทั้งหมดนั้นมาจากความผิดพลาดของแนวรับทีมเยือนทั้งสิ้น และพม่าก็อาศัยดักเก็บจังหวะสองหรือส้มหล่นยิงเข้าไปทั้งนั้น แต่อย่างไรก็ตามพม่าทีมนี้ก็ยังคงประมาทไม่ได้เช่นกัน พวกเขาพร้อมจะเป็นตัวสอดแทรกเพื่อแย่งอันดับหนึ่งและสองของกลุ่มกับเวียดนาม และมาเลเซีย เพื่อลุ้นผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศให้ได้เช่นกัน

เวียดนาม

ผ่าฟอร์ม 5 ทีมกรุ๊ป A หลังจบแมตช์แรกศึกซูซูกิ คัพ 2018 มากันที่ทีมชาติเวียดนาม ตัวเต็งอีกหนึ่งทีมที่พวกเขาตั้งเป้าจะล้มทีมชาติไทยคว้าแชมป์ซูซูกิ คัพ หนนี้ให้ได้ เวียดนามเพิ่งจะลงสนามไปเกมเดียว ซึ่งถล่มลาว ไป 3-0 ก็ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐาน และอย่างที่เรารู้ดีว่านักเตะสกุลเหงียนชุดนี้เป็นสายเลือดใหม่ที่ดันดาวรุ่งจากยู 23 ชุดรองแชมป์เอเชีย ขึ้นมาผสมผสานกับตัวหลักของทีมชาติชุดใหญ่ที่มี เหงียน อันห์ ดุ๊ก ดาวยิงตัวเก๋าวัย 33 ปี กับ เหงียน วาน เกวียต กัปตันทีมวัย 27 ปี ที่คอยประคองนักเตะรุ่นน้อง โดยจุดเด่นของเวียดนามชุดนี้คือเรื่องทีมเวิร์ค เพราะนักเตะชุดนี้เล่นด้วยกันมานาน บวกกับตัวเก๋าที่ประสบการณ์โชกโชน แต่ที่ผมดูเกมแรกเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องมาขึ้นเกมที่ เหงียน คอง เฟือง เพลย์เมกเกอร์ดาวโรจน์ของทีม ไม่ว่าจะทำเกมมาแบบไหน จะต้องมาจบที่ คอง เฟือง ก่อน ดังนั้นถ้าทีมไหนเจอเวียดนาม ปิดคอง เฟือง ได้ ผมว่าทีมเงียนก็ลดความน่ากลัวลงไปเยอะ แต่อย่างไรก็ตามด้วยมาตรฐานตัวผู้เล่นและฟอร์มจากเกมแรก ผมก็ยังเชื่อว่าเวียดนามชุดนี้มีดีพอที่จะคว้าแชมป์กลุ่มเอ และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดน่าจะเข้าไปเป็นคู่ชิงของทีมชาติไทยในซูซูกิ คัพ ครั้งนี้ และถ้าเจอกันจริงๆ รับประกันความันส์ทะลุจุดเดือดแน่นอน

กัมพูชา

ผ่าฟอร์ม 5 ทีมกรุ๊ป A หลังจบแมตช์แรกศึกซูซูกิ คัพ 2018 มากันที่ลูกทีมของ เคสุเกะ ฮอนดะ หลังจากผ่านไปสองเกมที่ทีมแพ้รวดต่อมาเลเซีย 0-1 และบุกไปพ่ายเมียนมา 4-1 หลายคนตั้งคำถามว่า ฮอนดะ คิดถูกหรือเปล่าวะที่มารับงานโค้ชของทีมนครวัดทีมนี้ แต่บอกเลยว่าเขาทำได้ดีในระดับหนึ่งเลยนะ แม้ผลงานมันจะไม่ดีแพ้รวดสองเกม ซึ่งก็เป็นไปตามศักยภาพ แต่ถ้าเราไปดูที่รูปแบบการเล่นทั้งสองนั้นนัดกัมพูชาเล่นได้ไม่ขี้เหร่เลย มีการต่อบอลสวยๆ บางทีก็บุกกดดันใส่คู่ต่อสู้ด้วยซ้ำ แต่ต้องยอมรับว่าฝีเท้าของนักเตะกัมพูชามันก็ยังห่างชั้นกับหลายๆ ทีมอยู่ ยกตัวอย่างเช่นสมมติกัมพูชา มาเจออินโดฯ ตอนนี้ ที่ผลงานยังลุ่มๆ ดอนๆ ต่อให้กัมพูชา เล่นดีสักเเค่ไหน แต่สุดท้ายก็จะโดนความเก๋าของนักเตะอิเหนาเล่นงานและเบียดเอาชนะได้อยู่ดี หากลูกทีมของ ฮอนดะ จะมองถึงชัยชนะคงต้องรอลุ้นในเกมที่พวกเขาจะเจอกับทีมชาติลาว ซึ่งน่าจะเป็นมวยถูกคู่และน่าจะสมน้ำสมเนื้อสำหรับบอลคู่นี้ อย่างไรก็ดีถือว่าในซูซูกิ คัพ ครั้งนี้กัมพูชา มีพัฒนาการที่ดีขึ้น แต่พวกเขาก็ยังไม่ดีพอที่จะลุ้นในการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป

ลาว

ผ่าฟอร์ม 5 ทีมกรุ๊ป A หลังจบแมตช์แรกศึกซูซูกิ คัพ 2018 ปิดท้ายกันที่ทีมชาติลาว ที่ก็แพ้มารวดสองเกมเช่นกันต่อ เวียดนาม 0-3 และบุกไปโดนมาเลญ 3-1 ถ้าความคิดผม ผมว่าลาวเมื่อสองสามปีก่อนยังดูดีกว่านี้นิดนึง แต่ทีมชุดนี้ก็ถือว่าเล่นกันได้ดี สู้กับเวียดนามได้สนุก แต่ต้องยอมรับทีเด็ดทีขาดของเวียดนามนั้นเหลือกว่าเยอะ ขณะที่เกมกับมาเลย์แม้จะบุกไปนำได้ก่อน แต่ก็อย่างที่บอกไปสุดท้ายก็แพ้ความเก๋าของเสือเหลืองอยู่ดี เกรดฟุตบอลของลาว ยังคงอยุ่ในระดับเดียวกันกับกัมพูชา อยู่ยังไม่สามารถที่จะก้าวขึ้นไปสู่กับเมียนมา ที่ตอนนี้เริ่มขยับเข้าไปใกล้ทีมใหญ่ๆ มากขึ้น แต่อย่างไรก็ดีหมากเตะของลาวก้มาได้ไกลกว่าในอดีตเยอะมาก สู้ๆ ต่อไปเด้ออออ เอาใจช่วยครับ จบไปเรียบร้อยกับบทวิเคราะห์ 5 ทีมในสาย เอ หลังทั้งหมดลงเล่นนัดแรกและนัดสองผ่านไปเรียบร้อย วันพรุ่งนี้มาตามต่อกับ 5 ทีมในสายบี ซึ่งมีทีมชาติไทย ของเราอยู่ด้วยว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้าง วันนี้ลาไปก่อนครับ จุ๊กกรู๊ๆๆๆๆ

มูซาชิ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline