logo-heading

ฟุตบอลอาเซียน คัพ จบแมตช์แรกไปแล้วทั้งสองกลุ่ม ซึ่งบางทีมก็ลงเตะแมตช์ที่ 2 กันไปแล้ว วันศุกร์ที่ 16 และวันเสาร์ที่ 17 พ.ย.นี้ เกมนัดที่ 2 และ 3 ของสายเอ และบี ก็จะกลับมาลงสนามกันอีกครั้ง

เมื่อวานนี้ (14 พ.ย.) เราได้พูดถึงฟอร์มการเล่นของ 5 ทีมในสายเอ กันไปแล้ว หลังผ่านเกมนัดเปิดสนามครบทุกทีม ซึ่งใครยังไม่ได้อ่านก็คลิ๊กไปอ่านได้เลยครับ https://k8s.khobsanam.com/column/53950 วันนี้ก็ตามที่นัดเอาไว้เราจะมาว่ากันที่สายบีกันบ้าง ซึ่งมีทีมชาติไทยของเราร่วมสายอยู่ด้วย โดยวันเสาร์ที่ 17 พ.ย.นี้ ช้างศึกจะลงสนามนัดที่ 2 พบกับอินโดนิเซีย ที่จะลงเล่นเป้นเกมที่ 3 เราลองไปดูตารางคะแนนของสาย บี ตอนนี้กันก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผ่าฟอร์ม 5 ทีมกรุ๊ป Bหลังจบแมตช์แรกศึกซูซูกิ คัพ 2018 แม้ทีมชาติไทยจะเป็น 1 ใน 2 ทีมที่เพิ่งลงสนามไปแค่เกมเดียว แต่ก้ยังคงนำจ่าฝูงด้วยจำนวนประตูที่ถล่มติมอร์ ไป 7-0 ในเกมนัดเปิดสนาม ขณะที่สิงคโปร์ ที่มีโอกาสจะแซงไทยขึ้นเป็นจ่าฝูงเพราะลงเตะนัดที่ 2 ก่อน แต่ดันไปแพ้ให้ฟิลิปปินส์ ทำให้ตอนนี้มี 4 ทีมด้วยกัน ที่มี 3 แต้มเท่ากัน แต่ไทยกับ ปินส์ ลงเล่นไปแค่เกมเดียว ส่วนติมอร์ แพ้รวดสองเกมก็เป็นบ๊วยของกลุ่ม เอาล่ะเราไปว่ากันที่ฟอร์มการเล่นและผลงานของแต่ละทีมในนัดเปิดสนามและเกมนัดที่สองที่ผ่านมากันสักหน่อย

ทีมชาติไทย

ผ่าฟอร์ม 5 ทีมกรุ๊ป Bหลังจบแมตช์แรกศึกซูซูกิ คัพ 2018 แชมป์เก่าสองสมัยติดอย่างทีมชาติไทย เริ่มต้นทัวร์นาเม้นท์ได้สมราคาเต็งแชมป์ด้วยการถล่มติมอร์ 7-0 ซึ่งเราก็ได้เห็นฟอร์มกันอยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี และเล่นได้ตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น แต่ก็อย่างที่เราวิเคราะห์กันไปก่อนหน้านี้ว่า เกมกับติมอร์ มันอาจจะยังวัดอะไรไม่ได้มากนัก และคงจะเร็วเกินไปที่จะบอกว่าเราจะป้องกันแชมป์ไว้ได้อีกสมัย เกมในวันเสาร์นี้ที่จะเจอกันอินโดนิเซีย เราจะเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งขึ้นก็น่าจะทำให้เห็นอะไรชัดเจนมากกว่าเกมแรก แต่ยังไงเราก็ยังได้เปรียบที่ได้เล่นในบ้าน อีกทั้งอินโดฯ ชุดนี้ก็ดูไม่ได้แข็งแกร่งอะไร คงจะเป็นงานที่ไม่ยากเท่าไหร่กับการจะคว้าสามแต้ม ซึ่งทีมชาติไทยชุดนนี้มีดีที่เกมรับเหนียวแน่น ส่วนเกมรุกหลังถล่มติมอร์ไปก็คงจะทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น และผมยังเชื่อว่าด้วยศักยภาพที่มีเรามีดีพอที่จะเข้าไปชิงชนะเลิศ ส่วนจะแชมป์หรือไม่เดี๋ยวค่อยว่ากัน

ฟิลิปปินส์

ผ่าฟอร์ม 5 ทีมกรุ๊ป Bหลังจบแมตช์แรกศึกซูซูกิ คัพ 2018 มากันที่ทีมของ สเวน โกรัน อีริคสัน ที่ประเดิมสนามในเกมแรกไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ด้วยการเฉือนชนะสิงคโปร์ 1-0 ถือเป็นผลการแข่งขันที่สำคัญกับทีมตากาล็อกมาก เพราะชนะคู่แข่งในการแย่งพื้นที่เข้ารอบเหมือนกัน แต่เท่าที่ดูฟอร์มของฟิลิปปินส์ ในนัดแรกก้ยังไม่ได้หวือหวาอะไร ดูอึดอัดด้วยซ้ำ เกมรุกก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร เกมรับก็ไม่ได้โดนบททดสอบอะไรที่ยากนัก แต่กระนั้นฟิลิปปินส์ ก็ถือว่าเป็นทีมที่มีลุ้นจะได้จับมือกับทีมชาติไทยผ่านเข่าสู่รอบต่อไป จุดเด่นของพวกเขาคือมีนักเตะลูกครึ่งในทีมหลายคน อีกทั้งได้โค้ชชาวยูโรปเข้ามาคุมทีมก็ทำให้สไตล์การเล่นออกแนวยุโรปนิดๆ เน้นการโยนบอลยาว และใช้ความแข็งแกร่งของกองหน้า ถ้าเทียบกับอินโดฯ และสิงคโปร์ แล้ว ฟิลิปปินส์ ก็ดูเป็นทีมที่น่ากลัวกว่า และยิ่งเกมที่จะเจอกับไทยเราต้องออกไปเยือนด้วย คงไม่ง่ายแน่นอน

สิงคโปร์

ผ่าฟอร์ม 5 ทีมกรุ๊ป Bหลังจบแมตช์แรกศึกซูซูกิ คัพ 2018 สิงคโปร์ อีกหนึ่งตัวเต็งที่มีโอกาสจะได้ลุ้นเข้ารอบ ลงสนามไปแล้วสองเกมชนะอินโดนิเซีย 1-0 และบุกไปพ่ายฟิลิปปินส์ 0-1 ซึ่งก็ทำให้สถานการณ์ไม่ค่อยจะดีนัก พวกเขาเหลือเกมเจอกับไทยและติมอร์ ต้องเอาชนะให้ได้ทั้งสองนัดหากยังต้องการเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ แต่ก็คงเหนื่อยโดยเฉพาะเกมเจอไทยต้องบุกมาเล่นที่ราชมังฯ ผลงานในสองนัดที่ผ่านมาก็ต้องบอกว่ายังไม่ค่อยเข้าตา รูปเกมยังดูฝืดๆ เกมรุกไม่เฉียบคมและดูไม่มีทีเด็ด อาศัยความสามารถของนักเตะอยู่ไม่กี่คน ดูแล้วก็คงจะเหนื่อย

อินโดนิเซีย

ผ่าฟอร์ม 5 ทีมกรุ๊ป Bหลังจบแมตช์แรกศึกซูซูกิ คัพ 2018

อินโดนิเซียคู่ต่อสู้ทีมต่อไปของทีมชาติไทย ซึ่งเกมในวันเสาร์นี้จะเป็นนัดชี้ชะตาว่าพวกเขาจะยังอยู่ในเส้นทางซูซูกิ คัพ 2018 ต่อไปหรือไม่ เพราะลงสนามมาสองนัดแล้ว เกมนี้จะเกมที่สาม สองเกมที่ผ่านมาบุกไปพ่ายสิงคโปร์ 1-0 และเปิดบ้านไล่แซงติมอร์ แบบหืดจับ 3-1 โชคดีที่เอาตัวรอดมาได้ อย่างที่บอกไปว่าอินโดชุดนี้ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนครั้งก่อน อีกทั้งโค้ชก็ถือว่าโนเนม ทำให้ผลงานมัยยังดูไม่เข้าที่เข้าทาง โดยจุดศูนย์รวมของทีมอยู่ที่ สเตฟาโน่ ลิลิปาลี่ กองกลางลูกครึ่งฮอลแลนด์ ที่ก็อาศัยความสามารถเฉพาะตัวเป็นหลัก ดูแล้วอิเหนาชุดนี้มีจุดอ่อนเยอะ คงยากที่จะต้านทานทีมชาติไทยได้ และในวันเสาร์นี้ก็คงจะเป็นเกมส่งรองแชมป์เก่าตกรอบแน่นอน

ติมอร์ เลสเต

ผ่าฟอร์ม 5 ทีมกรุ๊ป Bหลังจบแมตช์แรกศึกซูซูกิ คัพ 2018 ปิดท้ายกันที่ติมอร์ เลสเต ที่ลงสนามไปแล้วสองเกม โดนไทยถล่มไป 7-0 และบุกไปพ่ายอินโดฯ 3-1 ยังไม่มีคะแนน ซึ่งติมอร์ เองก็คงไม่ได้คาดหวังกับการจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปอยู่แล้ว แต่พวกเขาก็อยากจะเก็บแต้มให้ได้สักหนึ่งคะแนนหรือ 3 คะแนนในซูซูกิ คัพ ครั้งนี้ แต่เมื่อดูจากคู่แข่งที่ต้องเจอก็คงจะยาก แต่เหมือนที่เราวิเคาระห์ผลงานทีมชาติไทยไปแล้วในเกมเจอติมอร์ นั้น ถือว่าพวกเขาพัฒนาขึ้นมาได้เยอะมาก และในอนาคตก็มีโอกาสจะกลายเป็นทีมที่ดีในอาเซียนได้ แต่ในซูซูกิ คัพ ครั้งนี้ก็ถือว่ามาหาประสบการณ์และเก็บเวลไปก่อนละกันนะ

มูซาชิ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline