logo-heading

ด่ากันซะอย่างกับนักเตะทีมชาติไทยไปฆ่าใครตาย กับอีแค่บุกไปเสมอฟิลิปปินส์ 1-1 มันจะเป็นจะตายอะไรกันขนาดนั้น ไทยยังไม่ตกรอบ และก็ยังมีลุ้นเป็นแชมป์กลุ่มเหมือนเดิม เราไม่ใช่ศุนย์รวมของจักรวาลที่เจอกับใครแล้วต้องชนะตลอด

ทันทีที่จบเกมที่สนามปานาด สเตเดี้ยม ซึ่งทีมชาติไทย บุกไปเก็บได้แค่หนึ่งคะแนนกลับออกมาจากฟิลิปปินส์ ในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3 ทันใดนั้นโลกโซเชี่ยลก็เดือด ลุกเป็นไฟ "คำสรรเสริญ ยกย่อง เชิดชู ทีมช้างศึก มากันอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะแฟนบอลหัวร้อน พวกแฟนบอลที่เก่งแต่ในโซเชี่ยลก็อดรนทนไม่ไหวกับผลงานที่เขาว่ากันว่า (ห่วยแตก) แชมป์เก่าอะไรวะ ทำได้แค่เสมอฟิลิปปินส์ โกลแม่งอ่อนวะ โค้ชแม่งอุดอย่างเดียว และอีก บลาๆๆๆๆๆๆๆๆ ก็แล้วแต่จะสรรหาคำมาด่ากันละครับ เอาจริงๆ ผมก็เข้าใจอารมณ์แฟนบอลทุกท่านละครับ ผมเองก็หงุดหงิด เซ็ง เสียดายกับผลการแข่งขันที่มันน่าจะทำได้ดีกว่านี้ บอกตามตรงเลยเกมครึ่งแรกผมดูแล้วเผลอหลับเฉยเลย เพราะบอลแม่งเล่นกันน่าเบื่อมาก ไทยเราก็มาเน้นรับแล้วรอสวนกะว่าไม่แพ้ไว้ก่อน ส่วนปินส์ก็บุก แต่เกมรุกโคตรทื่อ ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นเลย ถึงจะไม่ชนะฟิลิปปินส์ แต่ยังไงไทยก็เข้ารอบ เชื่อผม!! ผมก็เบื่อกับรูปเกมที่เกิดขึ้น ดูแล้วก็อึดอัด ยิ่งพอมาโดนตีเสมอและทำแต้มหายไปถึง 2 คะแนน ก็บอกเลยว่าน่าเสียดาย เพราะถ้าเราไม่เสียประตูนั้น เก็บได้ 3 คะแนน มันจะการันตีให้เราเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ทันที แต่พอทำได้แค่เสมอ และอีกคู่สิงคโปร์ ถล่มติมอร์ 6-1 ทำให้เราต้องไปเหนื่อยลุ้นเข้ารอบถึงนัดสุดท้าย ว่ากันที่เรื่องของผลการแข่งขัน แน่นอนทุกคนไม่พอใจอยู่แล้ว แต่การเสมอมันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายหรือร้ายแรงอะไรขนาดนั้น อีกอย่างเรายังคงนำเป็นจ่าฝูง และยังมีโอกาสเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่มเหมือนเดิม เพียงแต่ว่าอาจจะเหนื่อยขึ้นมาอีกนิดเท่านั้นเอง ซึ่งถ้าเมื่อวานจบด้วยชัยชนะของทีมชาติไทย มันจะทำให้กลุ่มนี้แม่งโคตรมัน โดยเฉพาะการลุ้นอันดับสองที่จะตามทีมชาติไทยเข้ารอบ เพราะถ้านัดสุดท้ายไทย ชนะสิงคโปร์ ได้อีก และสมมติอินโดฯ ก็เปิดบ้านชนะฟิลิปปินส์ ได้ด้วย จะทำให้สามทีมอย่าง ฟิลิปปินส์,อินโดนิเซีย และ สิงคโปร์ มี 6 แต้มเท่ากัน กลายเป็นงูกินหาย สลับกันแพ้ชนะ คราวนี้สนุกเลยในการหาทีมเข้ารอบ ถึงจะไม่ชนะฟิลิปปินส์ แต่ยังไงไทยก็เข้ารอบ เชื่อผม!! แต่สุดท้ายมันก็ไม่เกิดขึ้นแล้ว เพราะเมื่อไทยเสมอกับฟิลิปปินส์ ก็เป็นการส่งอิเหนา ตกรอบทันที ตอนนี้เหลืออยู่ 3 ทีมในสายบี ที่ยังได้ลุ้นเข้ารอบในนัดสุดท้าย คือ ไทย,ฟิลิปปินส์ และ สิงคโปร์ ซึ่งเราโอกาสดีสุดเพราะเป็นทีมเดียวที่จะได้เล่นในบ้านเจอกับลอดช่อง ถ้าชนะทุกอย่างก็จบ ถ้าแพ้ก็ต้องไปลุ้นผลอีกคู่ในอิเหนาชนะปินส์ แต่มันคงไม่ต้องไปถึงตรงนั้นนะ ส่วนทั้งฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ต้องออกไปเยือนทั้งคู่ ดังนั้นการจะเก็บสามแต้มมันจึงยากกว่าทีมชาติไทย กลับกันถ้าเกมสุดท้ายเราต้องไปเยือนมันก็คงเป็นงานที่ยากและไม่มีอะไรแน่นอนเช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่างที่บอกว่าภาษีของไทยเราดีกว่าทีมอื่นๆ ยังไงผมก็มั่นใจว่าเราจะได้ผ่านเข้าไปป้องกันแชมป์แน่นอน ส่วนจะไปถึงแชมป์ไหม อันนี้ยังไม่กล้าการันตี ถึงจะไม่ชนะฟิลิปปินส์ แต่ยังไงไทยก็เข้ารอบ เชื่อผม!! แต่สิ่งหนึ่งที่โดนวิพากษ์ วิจารณ์หนักไม่แพ้กันก็คือเรื่องของแท็คติกผู้เป็นกุนซืออย่าง "ราเยวัช" ที่เน้นเพลย์เซฟ และเน้นผลการแข่งขันเป้นหลัก ทำให้แฟนบอลบางส่วนไม่ค่อยแฮปปี้กับผลงานของทีมชาติไทย เพราะที่ผ่านมาในซูซูกิ คัพ นั้นเราจะเคยชินกับการเปิดเกมรุกเข้าใส่คู่แข่งมากกว่า คนชอบดูบอลบุกก็เลยไม่ชอบแท็คติกรับแล้วโต้แบบนี้ แต่นั้นแหละครับ เราเองในฐานะแฟนบอลมันก็คงจะไปเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ในเมื่อเราเลือกกุนซือสไตล์นี้มาคุมทัพ เราก็ต้องเชียร์และให้กำลังใจทีมชาติไทยของเราต่อไป ไม่ว่าจะเป็นทีมชาติไทยเวอร์ชั่นบุกมันส์ หรือเวอร์ชั่นรับแล้วโต้ก็ตาม ผมเคยบอกไปหลายครั้งแล้วว่าในซูซูกิ คัพ มันจะเป็นเวทีพิสูจน์ฝีมือของ "ราเยวัช" อย่างหนึ่งตรงที่ว่า เขาจะพาทีมไปถึงแชมป์ได้หรือไม่ด้วยสไตล์การเล่นแบบนี้ ที่บอกว่าพิสูจน์ฝีมือ ไม่ได้หมายถึงเรื่องการคุมทีมนะครับ เพราะระดับพาทีมไปบอลโลกมาแล้ว มันคงไม่มีอะไรต้องสงสัย แต่ที่ผมจะบอกก็คือก่อนหน้านี้ ที่ ราเยวัช เข้ามาคุมทีมชาติไทย ส่วนใหญ่เจอแต่ทีมที่เหนือกว่าเราทั้งนั้น ทำให้แท็คติกของลุงวัช มันเลยดูโอเค แต่พอมาในซูซูกิ คัพ ที่เราต้องชนะคู่แข่งมันจะเวิร์คไหม สองเกมแรกก็เหมือนจะเวิร์ค แต่มาในเกมที่สามเราก็เริ่มชักไม่แน่ใจ นั่นแหละคือสิ่งที่ "ราเยวัช" ต้องพิสูจน์ให้แฟนบอลเห็นว่า บอลแบบนี้ก็เป็นแชมป์ได้โว้ยยยย!! ซึ่งทั้งหมดมันก็คงต้องรอบทสรุปท้ายสุดว่าเราจะไปถึงแชมป์ไหม ถ้าทำได้ทุกอย่างก็จบ แต่ถ้าไปไม่ถึง ยังไงก็ต้องโดนด่าอยู่แล้ว แต่เชื่อเถอะว่าแม้ในซูซูกิ คัพ เราจะดูอึดอัดไปบ้างกับทีมชาติไทย และแท็คติกของลุงวัช แต่ในเอเชี่ยน คัพ ต้นปีหน้าผมคิดว่าเราจะทำผลงานได้ดีด้วยแท็คติกแบบนี้ และนั่นอาจเป็นเป้าหมายที่กุนซือชาวเซิร์บ ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก

ส่วนในซูซูกิ คัพ ตอนนี้อย่าเพิ่งไปเครียดหรือคิดอะไรมาก ยังไงไทยก็เข้ารอบ เชื่อผม!!

มูซาชิ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline