logo-heading

ก่อนถึงเกมนัดชี้ชะตาศึกซูซูกิ คัพ 2018 ซึ่งทั้งสองกลุ่มยังไม่มีทีมไหนที่ได้เข้ารอบแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ยังต้องลุ้นเหนื่อยกันถึงเกมสุดท้ายที่จะเตะกันวันเสาร์ และ วันอาทิตย์นี้ ดังนั้นเราจึงจะพาทุกท่านไปดูเงื่อนไขของแต่ละกลุ่ม แต่ละทีมว่าใครมีโอกาสมากน้อยแค่ไหน

เป็นปีแรกที่ฟุตบอลซูซูกิ คัพ มีการเปลี่ยนแปลงระบบการแข่งขัน ซึ่งสายเอ และสายบี มีสาย 5 ทีม แต่ละทีมเล่นในบ้านสองนัด และออกไปเยือนสองนัด ปรากฎว่าการหาทีมผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ต้องมาตัดสินกันถึงนัดสุดท้าย และแต่ละกลุ่มก็ยังมีทีมได้ลุ้นถึง 3 ทีม แถมสถานการณ์การเข้ารอบยังเหมือนกันอีกด้วย ก่อนลงสนามในเกมนัดสุดท้ายสถานการณ์ในตารางคะแนนของทั้งสาย เอ และ สาย บี อันดับ 1-5 มีแต้มเท่ากันเป๊ะ และทีมจ่าฝูงอย่างเมียนมา ในสายเอ กับ ไทยในสายบี ต้องมาเจอคู่แข่งที่เป็นอันดับ 3 และยังมีลุ้นเข้ารอบด้วยกันทั้งคู่ ทำให้โอกาสยัง 50-50 ขณะที่รองจ่าฝูงอย่าง เวียดนามในสาย เอ และ ฟิลิปปินส์ ในสายบี พบกับคู่แข่งที่ตกรอบไปแล้ว ทำให้โอกาสเข้ารอบค่อนข้างสดใส ว่าแล้วเราไปดูเงื่อนไขการเข้ารอบของแต่ละสาย และแต่ละทีมกันหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง จะเข้าไม่เข้า! เปิดเงื่อนไข "การเข้ารอบ" ซูซูกิ คัพ ทั้ง 2 กลุ่ม

สาย A มีลุ้นเข้ารอบอยู่ 3 ทีม เมียนมา,เวียดนาม และ มาเลเซีย

โดยโปรแกรมนัดสุดท้ายของสายเอ ที่จะลงสนามกันในช่วงมืดวันนี้ (24 พ.ย.) มาเลเซีย เปิดบ้านเจอ เมียนมา และ เวียดนาม พบ กัมพูชา จากโปรแกรมคิดง่ายๆ คือสามทีมดังกล่าวใครชนะเข้ารอบทันที ส่วนเงื่อนไขแต่ละทีม จะเป็นอย่างไรไปดู 1.จ่าฝูงเมียนมา ตอนนี้มี 7 แต้ม เท่ากับเวียดนาม งานหนักของพม่า คือต้องบุกไปเยือนมาเลเซีย ที่ก็ยังมีลุ้นเข้ารอบ เงื่อนไขแรกของพวกเขาคือขอแค่ผลเสมอก็จะเข้ารอบทันที แต่อาจจะได้แค่อันดับสองของกลุ่ม ซึ่งก็จะส่งมาเลเซียตกรอบ แต่ถ้าต้องการแชมป์กลุ่ม เงื่อนไขที่สองคือ ต้องบุกไปชนะเสือเหลืองให้ได้ ถ้ายิงได้เยอะก็มีโอกาสจะเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่ม แต่ต้องไปรอวัดผลต่างประตูได้เสียกับเวียดนามอีกครั้ง ถ้าเหงียนชนะกัมพูชา ได้เหมือนกัน พม่ามีแค่สองเงื่อนไขนี้เท่านั้น 2.เวียดนาม มีภาษีดีสุดในกลุ่มนี้คือเล่นบ้านเจอกัมพูชา มีโอกาสชนะสูง แต่พวกเขาขอแค่ผลเสมอก็ยังได้เข้ารอบ ไม่ต้องลุ้นผลอีกคู่ว่าจะจบอย่างไร คือถ้าไม่แพ้เข้ารอบทันที แต่ถ้าต้องการเป็นแชมป์กลุ่ม ต้องชนะกัมพูชาและยิงให้ได้เยอะๆ เพื่อไปวัดลูกได้เสีย กรณีที่พม่าบุกชชนะมาเลย์ ดูแล้วยังไงก็ไม่น่าพลาดสำหรับเวียดนาม ยกเว้นพวกเขาจะแพ้คาบ้านถึงจะมีโอกาสตกรอบ ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก 3.มาเลเซีย จะว่าไปก็มีโอกาสพอๆ กับทั้งสองทีม เพราะพวกเขาได้เล่นในบ้าน ถ้าชนะเมียนมาได้ก็เข้ารอบทันที ไม่ต้องคิดอะไรมาก เล่นเพื่อชนะเท่านั้น แต่หากเสมอก็ยังมีโอกาสเข้ารอบ แต่ต้องลุ้นให้กัมพูชาบุกไปชนะเวียดนามมากกว่า 5-0 ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นมาเลย์ อยากเข้ารอบต้องชนะ จะเข้าไม่เข้า! เปิดเงื่อนไข "การเข้ารอบ" ซูซูกิ คัพ ทั้ง 2 กลุ่ม

สาย B มีลุ้นเข้ารอบอยู่ 3 ทีมเช่นกัน ไทย,ฟิลิปปินส์ และ สิงคโปร์

สถานการณ์เหมือนกันเป๊ะกับด้านบน แต่งต่างกันที่โปรแกรมบางทีมเล่นในบ้าน บางทีมออกไปเยือนแค่นั้น โดยสายนี้จะฟาดแข้งกันวันอาทิตย์ที่ 25 พ.ย.นี้ โดยทีมช้างศึก จะเล่นในบ้านพบสิงคโปร์ และ ฟิลิปปินส์ มีคิวบุกไปเยือนอินโดนิเซีย โดยสามทีมที่มีลุ้นเข้ารอบ คิดง่ายๆ เหมือนสายเอก็คือเอาชนะคู่แข่งให้ได้ก็จะเข้ารอบ ส่วนเงื่อนไขของแต่ละทีม มีดังนี้ 1.ทีมชาติไทย จ่าฝูงตอนนี้พวกเขาได้เปรียบตรงที่ได้เล่นในบ้าน ซึ่งขอเพียงแค่ 1 แต้มก็จะเข้ารอบ แต่อาจจะเป็นแค่อันดับสอง และถ้าได้แค่เสมอจริงๆ ก็อาจจะทำให้แฟนบอลไม่พอใจ และโดนด่ายับแน่ แต่ยังไงมันก็เข้ารอบ แต่หากต้องการเป็นแชมป์กลุ่มแบบเท่ห์ๆ และไม่โดนแฟนด่า ก็ต้องเอาชนะสิงคโปร์ให้ได้ ถ้ายิงชนะแบบสกอร์ขาดยิงได้ 2-3 ลูกขึ้น แฟนบอลก็จะยิ่งแฮปปี้ ยังไงก็ตามเกมนี้ไม่แพ้เข้ารอบแน่นอน 2.ฟิลิปปินส์ เหมือนจะภาษีดีที่สุดคล้ายๆ เวียดนาม แต่เหนื่อยตรงที่ต้องออกไปเยือนอินโดฯ แม้ทีมอิเหนาจะตกรอบไปแล้ว แต่ก็คงไม่ยอมแพ้ในบ้านง่ายๆ แน่ อย่างน้อยก็เป็นเรื่องของศักดิ์ศรี ฟิลิปปินส์ ถ้าไม่แพ้ก็เข้ารอบเช่นกัน ไม่ว่าจะเสมอหรือชนะก็ตาม ถ้าชนะก็มีโอกาสจะแซงไทยเป็นแชมป์กลุ่ม หากสิงคโปร์บุกชนะไทย หรือเสมอกับไทยได้ 3.สิงคโปร์ ทีมลอดช่องเงื่อนไขแรกต้องบุกชนะไทยให้ได้ เข้ารอบทันที แต่ถ้าเสมอก็ต้องลุ้นให้อินโดฯ เปิดบ้านชนะฟิลิปปินส์ ให้ได้ ซึ่งโอกาสก็มีความเป็นได้เหมือนกัน
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline